เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
from the desert, with loveployapha.j
ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม

  • 15 December 2016





    แรกเริ่มเดิมทีเรามีไฟล์ทกรุงเทพ(อีกแล้ว...) และเป็นไฟล์ทที่ดีด้วยคือ B777 ที่มีเวลาพักที่กรุงเทพ 28 ชั่วโมงจากปกติแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น เกินมาอีก 2 ชั่วโมงก็มีความหมายสำหรับคนที่ไกลบ้านอย่างเรา ผู้โดยสารก็น้อยกว่า A380 อีกด้วย เซอร์วิสก็ง่ายๆสบายๆชิวๆ


    แต่เมื่อมาคิดไปคิดมา... เฮ้ย...ที่ผ่านมาเรากลับบ้านบ่อยมากเลยนะเว้ย เพิ่งกลับมาจากลีฟ ก่อนหน้าลีฟก็มีกรุงเทพในไฟล์ทยาวนั่น ก่อนหน้านั้นก็กรุงเทพ กรุงเทพ กรุงเทพ และกรุงเทพ





    นี่มันมากเกินไปล้าววววววววววว!!
    มาเป็นแอร์เพราะอยากท่องโลกไม่ใช่เร๊อะ!

    ไป! ออกไปดูโลกกว้าง นี่มันช่วงคริสมาสต์ ไปยุโรปสิโว้ยยยยยยย




    นั่นล่ะฮะ... ที่มาของการเอากรุงเทพไปแลกกับยุโรปที่ทำให้คนรอบข้างต่างตกตะลึงไปตามๆกันว่ายัยนี่เนี่ยนะแลกกรุงเทพทิ้ง ประหลาดมาก เพราะปกติหายใจก็กรุง... หายใจออกก็เทพ...




    ในตอนแรกอยากไปเยอรมัน อยากไป Christmas Market จิบไวน์อุ่นท่ามกลางอากาศหนาวๆ โหยยย แค่คิดก็โรแมนติกแล้วคุณเอ๊ย แต่มันหาแลกไม่ได้เนี่ยแหละ ลูกเรือเยอรมันก็อยากกลับบ้าน คนอื่นๆก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน เรานั่งจ้องคอม คลิกหาไฟล์ทไปมาก็โป๊ะเช๊ะ! เฮ้ยยยย มีคนเสนอแลกโรมว่ะ ลงมาทางตอนใต้หน่อยแต่มันก็ยังอยู่ในยุโรป เอา ไป จัด แลกเว้ย!






    รู้ตัวอีกทีก็มากระพริบตาเป็นประกายปิ๊งๆจ้องเพื่อนร่วมงานชาวอิตาลีที่หล่อเหลาประหนึ่งพระเจ้าบรรจงปั้นในห้องบรีฟก่อนไปทำไฟล์ท อาห์... แค่นี้ก็คุ้มแล้วกับการแลกไฟล์ท มีแต่ลูกเรืออิตาเลี่ยนทั้งนั้นเลย เป็นทีมอิตาเลี่ยนมาเฟีย หล่อมาก หล่อลากตั้งแต่เพอร์เซอร์ บิสเนสคลาส (เฟิร์สคลาสเป็นผู้หญิง) และเพื่อนร่วมงานที่น่ารักน่าหยิกสามคนในอีโค่อันประกอบด้วย อิมมานูเอล จูเลี่ยน และดาวิด


    ปริ่มใจตั้งแต่ตอนห้องบรีฟยังไม่พอ ขึ้นเครื่องมาบอร์ดดิ้งผู้โดยสารนี่ดีต่อใจมาก ยิ้มแบบไม่ต้องพยายาม ยิ้มเองโดยอัตโนมัติ หนุ่มกรุงโรมนั้นดูสบายๆกว่าหนุ่มมิลานมาก เฟรนด์ลี่กว่า โอ๊ยคือดี ทำเซอร์วิสแบบไม่เหน็ดเหนื่อย อยากได้น้ำเราหยิบให้ อยากได้มาส์กปิดตาเราแถมที่อุดหูให้ด้วยความใส่ใจต่อความเป็นไปของผู้โดยสาร


    อิตาเลียนมาเฟียที่ทำงานด้วยก็ตลกและคึกครื้นมาก เป็นบรรยาการการทำงานที่ดี เอาจริงๆคือลูกเรือดีหมด เราอยู่แกลลี่ข้างหลังกับ จัสติน ซีเนียร์แคเนเดี้ยนที่พูดมาก พูดตลอดเวลา ตลกโปกฮาสุดๆ อาคราช่า สาวอินเดีย โอมาร์ เพื่อนสาวสัญชาติสวีดิช และดาวิด หนึ่งในอิตาเลียนมาเฟียที่หน้าแนวเดียวกันกับลุงคอลิน เฟิร์ธสมัยหนุ่มๆ และด้วยความที่บิสเนสกับเฟิร์สว่างๆ ลูกเรือจากเคบินข้างบนก็ลงมาช่วยงานข้างล่างด้วยจนทุกคนแย่งกันทำงาน ฮา






    เราไปถึงโรมช่วงเย็นๆ และพักที่ Airport Hotel ตามเคยเลยได้แต่ลงมากินข้าวและดื่มกับลูกเรือคนอื่นๆที่ร้านอาหารในโรงแรม ซึ่งคนลงมากินข้าวพร้อมหน้ากันเยอะมากเป็นประวัติการณ์ร่วมถึงกัปตันและเอฟโอก็มาจอยกับเขาด้วย ส่วนเหล่าอิตาเลียนมาเฟียทั้งหลายก็แยกย้ายกันกลับไปนอนที่บ้านจ้า






    แก้วนี้เหมือนเป็นเครื่องดื่มประจำชาติ(ลูกเรืออิตาเลียนจากบิสเนสบอกมา)
    คือ Campari + White Wine + Soda

    เราก็เชื่อเลยสั่งตาม สรุปทุกคนสั่งเหมือนกันหมดเลย บอกอะไรมาก็เชื่อนะ







    จากนั้นก็เริ่มสั่งอาหารกัน คนนู้นสั่งพิซซ่าบ้าง พาสต้าบ้าง เราสั่งพาสต้าอะไรซักอย่างที่พนักงานแนะนำ จำชื่อไม่ได้แหะ แต่อร่อยมาก ฟินเหลือเกิน อาห์... ดี๊ดี


    กินข้าวไปก็เม้ากันไปบ้าง ฝั่งหนึ่งของโต๊ะคุยกันเรื่องทริปเที่ยวเม็กซิโก ส่วนวงสนทนาของเราจริงจังไปกว่านั้นเพราะประเด็นหัวข้อทียกขึ้นมาคุยกันบนโต๊ะอาหารนั้นว่าด้วยเรื่องของ




    "เพราะเหตุใดรักแท้จึงหาได้ยากนักในดินแดนทะเลทราย?"



    เราก็ได้แต่จิ้มพาสต้า กระดกแก้วเครื่องดื่ม และพยักหน้าหงึกหงักพร้อมเก็บข้อมูลมาได้ดังต่อไปนี้...


    1. เพราะที่นี่เป็นเหมือน Transit City ที่ทุกคนแวะเวียนเข้ามากอบโกยเงินทองและจากไป แน่นอนว่าไม่มีใครที่คิดจะอยู่ในเมืองทะเลทรายและบินไปตลอดชีพ สำหรับพวกเราเหล่าแอร์และสจ๊วตจะมีอายุงานสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่หกปี(ตามความเห็นของกัปตัน) เพราะฉะนั้นทุกคนคิดถึงเงิน ความฟู่ฟ่า โนสนโนแคร์เรื่องหัวใจและการตามหารักแท้


    2. ตามความเห็นของหนุ่มจากซิซิลี แดนแห่งมาเฟีย มองว่าชายแท้มีปริมาณน้อยกว่าเมื่อเทียบกับปริมาณของหญิงสาว หนุ่มเห่ยๆที่สาวไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ถ้าอยู่แถวบ้านเขานี่บอกเลยว่าแห้วแดก นกตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินไปคุ แต่ ณ ดินแดนทะเลทราย หนุ่มสุดเห่ยจะสามารถหาแฟนสาวที่สวยกิ๊ง ฮอตสุดๆได้ที่นี่ รวมถึงความหลากหลายนั้นมีมาก เนี่ยที่นั่งๆกันอยู่นี่ก็แตกต่างกัน 4 ชาติ 4 ภาษาแล้ว (สาวๆในวงสนทนาประกอบด้วย ไทย อาเจนติน่า สโลวาเกีย และยูเครน) โอ้ย คือไม่หล่อก็เลือกได้อะ


    3. เวลาไม่ตรงกัน เธอบิน ฉันบิน ทำอะไรอีกฝ่ายก็ไม่รู้ ถ้าคนมันจะนอกใจไม่ว่ายังไงมันก็ทำ แต่นี่มันทำได้โคตรจะง่ายเลย บาย โดยเฉพาะพวกกัปตัน(นั่น... แอบมีจิก) แอบถอดแหวนออกนะ รอยแหวนยังอยู่ๆเลย โธ่...


    4. เหตุเกิดจากความเหงา แต่มันไม่ใช่ความรัก


    5. สาวๆบางคนก็ไม่สนเรื่องความรัก แต่สนใจเงินมากกว่า ผันตัวเป็น sugar baby กันไปนั่นแหละ




    อนึ่ง ก็มีหลายต่อหลายคู่ที่คบกันแล้วอยู่รอด ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร แต่งงานลั่นระฆังวิวาห์ลงหลักปักฐานในแดนอารเบียกันหลายต่อหลายคู่ ที่คุยๆกันนี่ก็ขำๆแหละนะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไป เอ้าาาา Salute! (ชนแก้ววว เฮ!)











  • รุ่งเช้าเราตั้งใจว่าจะออกไปเที่ยวตั้งแต่ตอนเช้า เข้าเมืองตั้งแต่แปดโมง เดินเล่นสบายๆในกรุงโรมเงียบๆคนเดียว แต่ดันตื่นสายซะงั้นเลยออกไปพร้อมกับลูกเรือคนอื่นๆตอนสิบโมง


    หลังๆมานี้เราชอบออกไปไหนมาไหนคนเดียวแหละ มันก็เหงาๆบ้างแต่ก็สบายใจดี ไม่ต้องยกโขยงกันไปเป็นกลุ่มๆ เราค่อยๆเดิน ละเมียดละไมถ่ายรูปไปเรื่อยได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ ง่ายดี








    รถบัสฟรีจากโรงแรมมาส่งพวกเราลงตรงนี้แหละ จากจุดนี้สามารถเดินไปเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆได้โดยง่าย โรมเป็นเมืองที่ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินหมด












    ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนในโรมก็สวยไปหมดเลย สุขใจเหลือเกินที่ได้ยืนอยู่ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นจุดศูนย์กลางของอารยธรรมยุโรป










    ระหว่างทางเดินก็ขอซื้ออะไรมารองท้องหน่อย ขนมปังนุ่มมาก ไส้นูเทลล่าทะลักทลายยยย









    ทะลุตามตรอก ออกตามซอยที่แท้จริง
    ซึ่งสองข้างทางน่ารักมาก ร้านรวงต่างๆประดับประดาไปด้วยไฟและต้นสน












    ที่ไหนไม่รู้ เขาพาเดินทะลุมา คิดว่าน่าจะเป็นโรงแรมแหละ
    คือทางเดินสาธารณะมันผ่ากลางอาคารนี้เลย












    หลังจากเดินต๊อกแต๊กตามคนอื่นไปเรื่อยๆ เราก็มาถึง น้ำพุเทรวิ




    ช่วงนี้เป็นฤดูหนาว นักท่องเที่ยวไม่ค่อยจะคับคั่งเบียดเสียดเท่าตอนหน้าร้อน ซึ่งดี มีช่องให้แทรกไปโยนเหรียญได้ :)






    เรื่องคำอธิษฐานที่น้ำพุเทรวินี่ เราก็ว่าอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ เพราะเมื่อแปดปีที่แล้วสมัยที่เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เรามาเยือนกรุงโรมครั้งแรกและเราตกหลุมรักทุกอย่างที่นี่ เราไปทุกสถานที่ในหนังสือ Angels and Demons ของแดน บราวน์แล้วจินตนาการภาพตามในหนังสือ (กรี๊ดอยู่ในใจว่าอ้อ... ตายแบบนี้ตรงนี้นี่เองงงงง) เรามายืนกำเหรียญที่มือซ้าย และโยนข้ามไหล่ขวาอธิษฐานขอให้ได้กลับมาเหยียบที่กรุงโรมอีกครั้งนึง




    และแล้วในที่สุด...เราก็ได้กลับมาแล้วนะ


























    จุดหมายต่อไปคือ บันไดสเปน เรารีบจ้ำเท้าไปตามทางเรื่อยๆ เพราะต้องกลับมาขึ้นรถบัสอีกทีตอนบ่ายโมงล่ะ... ก็อย่างที่เราเคยบ่นไปในเรื่องก่อนๆว่าเราไม่ชอบการเที่ยวแบบชะโงกทัวร์แบบนี้เลย สิ่งที่เราทำอยู่ไม่ได้เรียกว่าเที่ยวแต่เป็นการเอาตัวเข้าไปแปะไว้ที่สถานที่ ถ่ายรูปหนึ่งแช๊ะ อัพลงโซเชียลมีเดีย และกลับไปนอน







    ระหว่างทางก็เจอแผงผักแบบงงๆ































    หลังจากเดินวนและหลงทาง ถามชาวประชากรุงโรมข้างเคียงเราก็เดินมาถูกถนน แต่แทนที่เราจะเดินมาเจอตรงปลายบันได กลับกลายเป็นว่าเรามาโผล่ตรงโบสถ์ที่ชั้นบนสุดเฉยเลย
















    ฟิลลิ่งคริสมาสต์สุด ช่างดีต่อใจเหลือเกิน



















    หลังจากชื่นชมความงามของทัศนียภาพเบื้องหน้าได้ไม่ถึงสามนาทีก็โดนเร่งให้รีบเดินกลับเพราะอีก 15 นาทีรถบัสก็จะออกแล้ว ต้องรีบ!!!!









    รีบหันมาแช๊ะภาพบันไดสเปนก่อนที่รีบวิ่งตามคนอื่นไป










    ถนนที่ต่อมาเป็นร้านแบรนด์เนมมากมาย ตกแต่งสวยมากกกกกก














    เราวิ่งมาถึงรถบัสทันเวลาบ่ายโมงตรง ในขณะที่กำลังจะก้าวขาขึ้นรถ เราเดินลงและตัดสินใจว่าจะอยู่เดินเล่นต่อจนถึงบ่ายสาม




    ไหนๆก็มาแล้ว เราอยากซึมซับบรรยากาศของวันนี้ไว้ให้เต็มที่





    เราเดินทอดน่องเรื่อยๆไปจนสุดริมถนน แวะเข้าไปสั่งโฮมเมดพาสต้ากุ้งราดซอสเพสโต้ ค่อยๆละเลียดอย่างไม่รีบ มองผู้คนเดินไปเดินมา ฟังเพลงจากคุณลุงที่เล่นแซกโซโฟนริมถนนใกล้ๆ และเดินไปโคลอสเซียม แหม่...มาถึงโรมทั้งที จะไม่ได้เห็นโคลอสเซียมก็เหมือนมาไม่ถึงจริงไหมล่ะ
























    ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรมที่แท้จริง







    เราเคยเข้าไปในโคลอสเซียมแล้วเมื่อการมาเยือนกรุงโรมในคราวก่อน รอบนี้เลยเดินเล่นรอบๆ กินไอติมเจลลาโต้ทั้งๆที่อากาศโคตรจะหนาว (เคยได้ยินว่ากินไอติมเวลาอากาศหนาวจะทำให้อร่อยขึ้น ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจนัก เพราะกินไปสั่นไปด้วย)












    นี่แหละคือ 24 ชั่วโมงในกรุงโรมของเรา

    ด้วยรัก...จากใจกลางของอาณาจักรโรมัน










    ป.ล. ​​"You know what, Man with muscles always has a small penis." มิตรสหายลูกเรือท่านหนึ่งที่เป็นขุ่นแม่ของทริปนี้กล่าวพร้อมชี้ไปที่รูปปั้น....



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in