เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
from the desert, with loveployapha.j
หนึ่งเดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหก


  • 19 December 2015




    หายหน้าหายตาไปจากการเขียนถึงสามสัปดาห์ เผลอแปบเดียวก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ครบ 1 เดือน กับ 1 สัปดาห์แล้วนะ เวลาผ่านไปเร็วมากเลยล่ะ :)





    Bye bye SEP!


    จบการเทรน SEP – Safety and Emergency Procedures แล้วเรียบร้อย จากครั้งที่แล้วที่เราเล่าถึงการเทรน SEP ในสัปดาห์แรกว่าเราต้องเข้าไปฝึกในเครื่อง Simulator ว่าต้องทำนู่นทำนี่เยอะแยะมากมายตั้งแต่ตีห้าครึ่งใช่ม้าาาา

    สำหรับสัปดาห์ที่สองของการเทรนนั้นแตกต่างออกไป บ๊ายบายการเข้าเครื่อง Simulator แล้วจ้า เพราะจากนี้ไปจะเรียนทฤษฎีอย่างเดียวเกี่ยวกับเจ้าวาฬยักษ์ A380 ซึ่งชีวิตค่อนข้างน่าเบื่อเมื่อไม่มีการฝึกปฏิบัติ ต้องซื้อกาแฟมานั่งซดทุกเช้า และการเรียนการสอนทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เหมือนโยนก้อนข้อมูลตู้มๆเข้ามาในสมอง กลับบ้านไปก็ต้องรีบมานั่งอ่านหนังสือเพราะสอบติดๆกันเหลือเกิน เป็นสัปดาห์ที่หนักหน่วงพอสมควรเลยล่ะ




    อ้อ… จริงๆมีฝึกปฏิบัตินิดหน่อยเพราะเราต้องเรียนการเปิดประตู A380 ก็ได้ลองเปิดๆปิดๆกดๆนู่นนี่นั่นโน่น นี่ภูมิใจนะ ตอนนี้เปิดประตูเครื่องบินได้สองเครื่องแล้ว ฮาาาาา

    ในวันสุดท้ายของการเรียน SEP เราจะได้รับฟีดแบคจากเทรนเนอร์ ซึ่งของเราก็โอเคดีนะ ไม่ได้แย่อะไร แล้วจากนั้นในแบชก็สั่งพิซซ่ามาฉลองกัน อร่อยมากเลย เป็นการจบการเทรน SEP ที่เขาว่ากันว่าโหดที่สุด ยากที่สุดในการเทรนทุกสิ่งแล้ว ฮูเร่










    My red hat - Dreams come true!


    หลังจากจบ SEP เราก็ได้รับกระเป๋าใบใหญ่พร้อมชุดยูนิฟอร์มแล้วจ้าาาาาาา ในที่สุดก็มีหมวกแดงเป็นของตัวเองแล้ว เย๊

    วันนี้ที่รอคอยมากๆ แม้ว่าเสื้อผ้าทุกอย่างจะใหญ่ว่าตัวเอง 2 ไซส์ หลวมไปหมด ใส่แล้วตัวเป็นแท่งๆแต่ก็นะ… ภูมิใจอะ ในที่สุดก็มีวันนี้ ฮืออออออ น้ำตาจะไหลลลลลล








    สำหรับชุดยูนิฟอร์มที่เราได้รับ ประกอบด้วย

    • โค้ทยาวสำหรับหน้าหนาวอากาศเย็น
    • เสื้อแจ็กเก็ตที่ใส่ปกติทุกวัน
    • เสื้อคลุมสำหรับใส่ทำเซอร์วิสบนเครื่อง
    • เสื้อสีขาวที่ใส่ข้างใน
    • คาร์ดิแกน
    • กระโปรงที่ใหญ่มากและยาวมากเหลือเกิน
    • กระเป๋าสีแดงที่ทุกคนบ่นว่าดีไซน์แบบเก่าสวยกว่า
    • รองเท้าส้นสูงสำหรับใส่เดินไปเดินมา
    • รองเท้าส้นแบนสำหรับใส่เดินไปเดินมาในเคบิน (คิดว่าเราจะใส่ส้นสูงเดินต๊อกๆบนเครื่องหรือ ไม่มีท๊างงงงงง)
    • หมวกแดงในตำนานพร้อมผ้าสีขาวพริ้วๆที่ติดกัน ฮูเร่
    • เข็มขัด อันนี้ต้องไปเอาทีหลังเพราะของหมดสต็อกเฉ๊ย
    • ถุงมือกันความร้อนสำหรับหยิบอาหารออกจากเตา
    • ชุดนอนของลูกเรือ เวลาบินไกลๆจะมีให้พักผ่อน ก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดนอนนะจ๊ะ


    ลองใส่ทุกอย่างแล้วเหมือนเอาชุดสูทของแม่มาใส่เลยอะ เพื่อนๆคนอื่นบอกว่าเหมือนเอากระสอบมาใส่




    ส่วนนี้คือหมวกแดงของเราเอง เป็นหนูน้อยหมวกแดงแล้วน้าาาาาา
















  • Bye bye GMT

    ขึ้นต้นสัปดาห์ใหม่เราก็มาเจอกับการเทรน GMT – Group Medical Training ซึ่งเราชอบมาก สนุกสนานเอนจอยมาก สนุกมากกว่า SEP เยอะเลย ใครบอกว่า GMT น่าเบื่อเราเถียงขาดใจเลยนะ

    GMT เป็นการเทรนเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นบนเครื่อง ยาและอุปกรณ์ต่างๆ ไปจนถึงการทำ CPR และการทำคลอดบนเครื่อง โอ้ยสนุกมากกกกกกก

    เราชอบบรรยากาศในการเรียนที่สบายๆ ไม่กดดัน ไม่เครียด มีเปิดเพลงระหว่างการทำกิจกรรม มีการพรีเซ้นท์กลุ่ม ได้ฝึกปฏิบัติจริงๆ คือได้ขยับทำนู่นทำนี่ตลอดเวลา ไม่ใช่การนั่งฟัง ง่วง และพยายามจดพยายามจำคำต่อคำแบบ SEP และเราสามารถใช้เหตุผลทำความเข้าใจได้ว่าทำไมเราต้องปฐมพยาบาลแบบนี้ ทุกการกระทำของเราเป็นเหตุเป็นผลกันเสมอ และที่ประเสริฐที่สุดคือเราได้เทรนเนอร์ดีมาก สอนสนุกไม่มีเบื่อเลย อ้อ… GMT ไม่มีการบ้าน ฮูเร่ ชอบที่สุดก็ตรงนี้แหละนะ





    ที่บอกว่าบรรยากาศการเรียนไม่เครียด สนุกสนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรากดดันตัวเองมากกว่าตอนเรียน SEP ซะอีก เพราะหลังจากการได้ลองทำ CPR ครั้งแรกในชีวิต เราเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วอยู่ๆเราก็คิดขึ้นมาได้ว่า



    “เชี่ย… แล้วถ้าเขาตายขึ้นมาเราจะทำไงวะ”
    “ถ้าเราช่วยชีวิตเขาไม่ได้ ถ้าเราทำอะไรพลาดไปแล้วเขาเป็นอะไรขึ้นมา เราจะทำไงวะ”



    เท่านั้นแหละฮะ ทุกๆครั้งที่ได้ลองฝึกปฏิบัติหรือทำอะไรก็ตามแต่ เราจะชอบคิดว่าหุ่นที่เรากำลังซ้อมอยู่นั้นคือคนจริงๆ หายใจได้ มีชีวิต มีชีพจร มีเลือด มีเนื้อจริงๆ แล้วเราจะเครียดทุกครั้งถ้าเราทำอะไรผิดแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยก็ตาม



    เราคิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น แล้วเราไม่สามารถเปิดประตูเพื่อให้ผู้โดยสารหนีออกจากเครื่องได้ ไม่ว่าประตูจะโดนบล็อกหรือเราไม่สามารถเปิดประตูได้ อาจจะหมดสติหรือเสียชีวิตไปแล้ว ยังไงมันก็จะมีคนอื่นมาเปิดประตู ผู้โดยสารของเราสามารถวิ่งไปที่ประตูอื่นได้ คือเขามีโอกาสรอดที่จะรอดชีวิต คือทุกคนจะโอเคดีเป็นอะไร หายใจได้ อวัยวะครบ 32

    แต่สำหรับเคสที่เขาป่วย ชีวิตเขาอยู่ในมือเราจริงๆอะ เรารู้สึกว่านี่คือความรับผิดชอบของเรา ถ้าเราทำอะไรพลาดไป หรือทำอะไรช้าไปนิดเดียว เขาอาจจะไม่อยู่กับเราแล้ว เราเป็นเหมือนความหวังสุดท้ายของเขาในการที่เขาจะมีชีวิตอยู่แล้วก็ได้อะ



    เรากลัวมากจริงนะๆ



    หนักสุดคือการทำ Mock-up ที่ได้จำลองสถานการณ์จริงๆ เราได้เหตุการณ์ที่ผู้โดยสารอายุแปดสิบกว่า อยู่ๆก็เส้นเลือดหัวใจตีบและหัวใจวาย

    จุดนั้นเราคิดว่าเพื่อนในแบชเราที่หายใจฟืดฟาดและบ่นว่าเจ็บหน้าอกคือผู้โดยสารจริงๆที่เขาอาจจะตายได้ทุกเมื่อ แล้วเราทำพลาด แม้ว่าเป็นจุดเล็กๆน้อยๆก็ตามเถอะ (ลืมเช็คว่าผู้โดยสารแพ้ Aspirin มั๊ย กับลืมเช็คว่าหมอที่จะมาช่วยดื่มแอลกอฮอล์ก่อนรึเปล่า) ตอนฟังฟีดแบคจากเทรนเนอร์อยู่ๆก็บ่อน้ำตาแตก เครียดมาก เพราะเราคิดว่าถ้าในสถานการณ์จริงๆแล้วเราทำพลาดแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เขาตายได้เลยนะ ถ้าเป็นสถานการณ์จริงๆผู้โดยสารคนนี้อาจจะไม่ได้อยู่กับเราแล้วก็ได้

    ทุกคนก็มาปลอบๆว่ายูคิดมาก ยูเครียดเกินไปแล้ว เฟอร์เฟคชั่นนิสไปแล้ว บนเครื่องก็มีคนอื่นที่พร้อมจะช่วยอยู่นะ นั่นนู่นนี่ ซึ่งเราก็รู้ไง แต่มันก็อดคิดแบบนี้ไม่ได้นี่นา แต่ก็รู้สึกดีขึ้นนะ รู้สึกว่าต้องเรียนรู้มากกว่านี้ ฝึกฝนมากกว่านี้ ตั้งใจให้มากกว่านี้อีกเยอะๆเลยล่ะ



    สุดท้ายเราก็สอบผ่าน ผิดไปแค่ข้อเดียว เจ็บใจมากเลย และเราจะจำความรู้สึก สิ่งที่เราคิดตลอดการเรียน GMT ไว้ เราจะเป็นแอร์ที่ดีให้ได้เล้ยยยยยย :D










    พัง!

    ช่วงเรียน GMT เป็นสัปดาห์ที่จิตใจเราแย่มาก คิดถึงบ้าน แต่ก็ดีเพราะเป็นการฝึกฝนไปในตัวว่าถ้าบินขึ้นมาจริงๆแล้วเกิดเหตุการณ์อะไรแย่ๆขึ้น ไม่ว่าเมื่อคืนจะนอนดึกร้องไห้น้ำตาไหลตาบวมขนาดไหน เช้าวันรุ่งขึ้นจงปาดคอนซีลเลอร์ได้ตาซะ ทาลิปแดง ยิ้มสวยๆให้ตัวเองในกระจกหนึ่งที แล้วออกจากบ้าน ไปทำงาน ไปใช้ชีวิต ไปเป็น Happy girl ผู้มีความสุข ประหนึ่งว่าชีวิตนี้ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ใจใดๆ



    เชี่ย… ต้องสตรองขนาดไหน ถามใจตัวเองดู



    ตอนนี้โอเคแล้ว สุขภาพจิตกลับมาเป็นปกติ กลับมาทำกับข้าว ซักผ้า ไปฟิตเนส ออกไปเที่ยวเล่นร่าเริงตามประสา ก็ดี๊ (เสียงสูงงงงงงงงงงงงง) กลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เข้มแข็งขึ้นนะ เรียนรู้อะไรเยอะเลยล่ะ

    ในส่วนนี้ต้องขอขอบคุณ ญี่ปุ่น พี่เก๋ ขวัญ และเต็งมากๆเลยนะคะที่ส่งกำลังใจมาปลอบโยน :)









    All I want for Christmas is MONEY!

    สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ รอคอยวันเงินเดือนออกอย่างเดียวเลยตอนนี้ เดือนนี้เราใช้จ่ายเยอะมาก หมดไปกับอะไรก็ไม่รู้ซะเยอะเลย ซึ่งแย่ ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะจริงๆ

    ไปเที่ยวทุกสัปดาห์ ไปกินข้าวข้างนอกแล้วเราสั่งอะไรที่ไม่แพง แต่เพื่อนแม่งสั่งของดีมีราคาแล้วหารรวมกันหมด นี่ก็ไม่หือไม่อือ เพื่อนให้ออกค่าแท็กซี่ไปก่อนแล้วไม่เคยคืน เราก็ไม่กล้าทวง เพื่อนยืมเหรียญไปกดกาแฟแล้วไม่คืน พอรวมๆกันหลายๆรอบก็หมดไปเยอะเหมือนกันนะ

    ประกอบกับ SEP สัปดาห์ที่สองกับ GMT เราพังมาก ไม่ได้ทำอาหารไปกินที่คอลเลจ ซื้อเขาทุกวัน ตกเย็นมาก็ขี้เกียจทำกับข้าว เหนื่อย ซื้ออีก หมดไปกับการกินเป็นส่วนใหญ่

    ก็เป็นซะอย่างเงี้ย แย่ แต่ก็มีเงินเก็บนะ แม่ควรภูมิใจ ฮือออออออ ตอนเริ่มบินชีวิตน่าจะดีกว่านี้แหละ









    23

    พรุ่งนี้วันเกิดเราแล้วแหละ อายุ 23 แล้วนา

    มีอะไรที่จะต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย

    สู้นะ










    อร่อยรอบดูไบในสัปดาห์นี้

    สัปดาห์ที่แล้วไปนั่งชิวที่ร้าน Cielo Sky Lounge ที่ Dubai Creek Yacht Club มา บรรยากาศดี๊ดี เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไร

    จากนั้นก็ไปทานอาหารที่ Casa de Tapas เป็นร้านอาหารสเปนล่ะ เป็นการลองทานอาหารสเปนครั้งแรกในชีวิต ทุกอย่างอร่อยมากเลย เราให้เพื่อนชาวสแปนิชสั่งทุกอย่างให้ ได้ Tapas มาทั้งหมด 5 จาน (Tapas คืออาหารจานเล็กๆอะ เลยสั่งหลายจาน) ที่จำได้ก็มี สแปนิชออมเล็ต กุ้งซักอย่าง มันฝรั่ง ปลาหมึกยักษ์กับมันฝรั่ง หางวัวซัมติงที่อร่อยน้ำตาไหลแสงพุ่ง โอ้… สวรรค์อยู่ตรงหน้าจริงๆ

    ระหว่างนั่งกินไปนั้นก็ได้นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องอาหาร วัตถุดิบ วิธีการปรุง รวมไปถึงสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมืองของทั้งไทยและสเปน โดยมีอาหารตรงหน้าเป็นสื่อกลางที่ร้อยเรียงบทสนทนาของพวกเราไว้ เป็นการคุยกับแบบสบายๆแต่ลึกและมีประโยชน์ ดีมากๆ เพราะตั้งแต่มาที่นี่เราไม่ได้คุยแบบนี้มานานมากแล้วอะ รู้สึกประเทืองปัญญา เพราะในชีวิตประจำวัน เราแค่คุยว่าจะไปไหน กินอะไร เม้ามอยนู่นนี่รอบตัว สุดสัปดาห์นี้ไปไหน จบ

    แต่จากบทสนทนาในวันนั้นทำให้เราได้รู้ถึงเรื่องการสู้วัวกระทิง ความคิดเห็นเกี่ยวกับคาตาลันที่อยากแยกตัวออกไป สูตรอาหารที่เราอยากลองกลับมาทำเองที่บ้าน เทศกาลต่างๆ ความแตกต่างของคนระหว่างเหนือใต้ ทั้งเรื่องอาหาร การใช้ชีวิต และสำเนียงการพูด คือดีอะ ชอบ



    เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้เลย แต่ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกจะเอาภาพบรรยากาศมาฝากนะ



    ส่วนสัปดาห์นี้เราไปเที่ยวทะเลทรายมาแหละ กะว่าจะเขียนเกี่ยวกับทะเลทรายแยกไว้อีกทีเพราะเนื้อหาค่อนข้างยาว เอาเป็นว่าสนุกมาก ชอบ อยากไปอีก ฮาาาาาา







    กล่าวโดยสรุป

    อะไรๆเกิดขึ้นเยอะแยะเลยในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เวลาผ่านไปไวมากจริงๆ วันที่ 26 นี้ก็จะได้ตารางบินแล้วนะ ตื่นเต้นมากเลยแหละ ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว เย๊



    เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

    ด้วยรัก...จากดูไบ :)










Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in