เมื่อชงแล้ว กาแฟที่บดเองส่งกลิ่นหอมกรุ่น ผมจงใจให้มันเข้มข้นกว่ากาแฟในร้านที่บรัสเซลส์และปารีสอยู่บ้าง
ผมอยากลืมอะไรบางอย่างที่ไม่อาจลืมเลือน...
ลมหนาวโบกโบยมาแล้ว แต่ยังไม่ได้โหมกระหน่ำรุนแรง* ที่จริงอากาศข้างนอกนั่นร้อนอ้าวคล้ายฝนกำลังจะตก ผมอดคิดไม่ได้ว่า การเดินทางครั้งนั้นคล้ายว่าเริ่มจากฝน** ในวันที่จู่ๆ ดวงตะวันก็หม่นลง
อากาศที่นั่นหนาวและชื้น ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ที่นั่น เด็กหนุ่มในหลุมฝังศพนับหมื่นอาจลืมเลือนไปเนิ่นนานแล้วก็ได้—ว่าการมีชีวิตอยู่คืออะไร
แต่บางที—การลืมเลือนทุกสิ่งก็อาจเป็นเรื่องดี...
กาลเวลาโยนเราเข้าไปในอวกาศกว้างใหญ่
สิ่งนั้นหมุนไป เหวี่ยงเราสู่ความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุด
เหมือนคลื่นในแม่น้ำซัดเราให้จม
ไม่มีหลักใดๆ ให้เกาะ
ไม่ใช่วินาทีที่แล้ว
ไม่ใช่วินาทีหน้า
มีแต่วินาทีนี้เท่านั้น
ที่คือหลักเล็กจิ๋วในห้วงแห่งกาล-อวกาศ
มันไร้ความมั่นคง
แต่ก็มีเพียงเท่านี้ที่เราจะยึดเกาะได้
เพื่อบอกตัวเอง
ว่าเราได้มาถึงบ้านแล้ว...
__________________
* ข้อความจากหนังสือ เจ้าการะเกด: เรื่องรักแต่ครั้งบรม
สมกัปป์ ของ แดนอรัญ แสงทอง
** ชื่อเรื่องสั้นจากหนังสือ แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ โดย จเด็จ กำจรเดช
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in