12 ตุลาคม 2563
ถึงเธอ...
ในที่สุดฉันก็กลับมาเขียนไดอารี่อีกครั้ง คราวนี้ฉันไม่ได้เขียนในลงในสมุดอย่างที่เคยทำ แต่เลือกที่จะเก็บไว้ในอากาศแบบนี้ เข้ายุค เข้าสมัยดีใช่มั้ยล่ะ
เหตุผลอะไรที่ทำให้ฉันเลิกเขียนไดอารี่น่ะเหรอ ข้อแรกก็คือ ฉันคิดว่าสมุดไดอารี่คือพื้นที่ส่วนตัวม้ากกกก ยอมรับว่าฉันก็อายเหมือนกันนะในสิ่งที่คิดและเขียนลงไป แล้วถ้าฉันตายไป เกิดมีใครมาพบไดอารี่พวกนี้แล้วฉันจะทำอย่างไร .... โอยๆๆ แค่คิดก็หน้าร้อนผ่าวๆ แล้ว ฟังดูเหมือนฉันไม่อยากให้ใครอ่านไดอารีเลยเนอะ
แต่นี่ฉันกลับมาเขียนในอากาศ แปลว่าอยากให้คนได้อ่านล่ะสิ ฉันนี่ช่างสับสนยอกย้อนเสียจริง...
ใช่แล้วล่ะ...หลายครั้ง หลายหน ฉันเป็นคนยอกย้อน ซ้อนกล โดยเฉพาะในเรื่องหัวใจของตัวเอง
เคยมั้ยล่ะ...อยากมีความรัก อยากได้ความรัก อยากให้คนมารัก แต่ปิดประตูหัวใจลงกุญแจสองชั้นหนาแน่นมาก...นั่นล่ะฉัน!!!
จนกระทั่งเมื่อฉันได้มาเจอเธอ...เหมือนอะไรบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป
ผีเสื้อที่เคยกระพือไหวในท้องของฉัน...บินกลับมา
จะบอกว่าฉันตกหลุมรักหรือ...คงไม่ใช่หรอก...ฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิดเช่นนั้นกับเธอเลย
แค่รู้สึกว่า...เธอเป็นใครบางคนที่ฉันอยากคุยด้วย อยากเล่าเรื่องต่างๆ สารพัดสารพันในชีวิตให้เธอฟัง
แต่ฉันก็เลือกเล่าให้เธอฟังในโลกใบนี้...โลกที่เธอจะไม่มีวันรู้ว่าฉันเป็นใคร
โลกที่จะไม่มีใครรู้ว่า...ใครคือ "เธอ" สำหรับฉัน...
ก่อนที่ฉันจะเล่าอะไรสารพัด ฉันเล่าถึงเธอก่อนดีกว่า...
มันเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรก...ที่เธอเดินเข้ามาในพื้นที่ของฉัน...เมื่อปี 2562
ร้านขายหนังสือเล็กๆ...ในวันเหงาๆ วันหนึ่ง
ผู้ชายผมยาวเดินเข้ามา...ถามหาหนังสือ
เธอใช้เวลาเลือกหนังสืออยู่ครู่ใหญ่...ไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นในระหว่างนั้น
แต่...ทำไมหัวใจของฉันเต้นตูมตาม...ฉันได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ได้เห็นอะไรที่ผิดสังเกตเลยใช่มั้ย
เธอถามหาหนังสือ...พูดคุยเล็กน้อย...จ่ายเงิน...ฉันได้แต่ทิ้งท้ายว่า "ถ้าอยากได้เล่มอื่นอย่าลืมแวะเข้ามาอีกนะคะ"
....
วันต่อมา เธอกลับมาที่ร้าน...เราอยู่กันสามคน...ฉันได้แต่พยายามเก็บอาการ...ไม่กล้าพูดอะไร
เธอคุยกับพี่เจ้าของร้านอย่างออกรส
ในขณะที่หัวใจฉันยังไหวตูมตามเหมือนเดิม...
นั่นคือภาพจำของปีที่ผ่านมา
....
ปีนี้...เธอกลับมาที่ร้านอีกครั้ง
ฉันทักทายด้วยความดีใจ...เป็นความจดจำได้...แต่ยังไม่ถึงกับคุ้นเคย...คำทักทายระหว่างคนขายหนังสือและคนซื้อหนังสือ...เกิดขึ้นอย่างปกติ ธรรมดา
เธอมาตามหาหนังสือ เล่มที่เธอยังไม่ได้อ่าน ...พูดคุยกับเจ้าของร้าน โดยที่ฉันแอบฟังอยู่เงียบๆ
วันต่อมาเธอกลับมาอีก...
คราวนี้เธอมาเล่าว่าเธอหลงรักการอ่านหนังสือมากแค่ไหน ถึงขนาดตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านให้ได้ปีละ 200 เล่ม!!!! แม่เจ้า ฉันไม่เคยเห็นใครที่บ้าอ่านหนังสือขนาดนี้
"ผมเป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมาย แล้วก็ต้องทำให้ได้...อ่านแล้วผมก็จดโน้ตเอาไว้ด้วยนะ"
ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา...ฉันคิดในใจ
....
...วันรุ่งขึ้นเธอกลับมาอีก...คราวนี้ฉันเลือกที่จะไม่อยู่ที่ร้านอย่างจงใจ...ฉันคิดว่าเธอไม่ได้มาที่ร้านเพื่อมาหาฉัน
เธออาจจะมาหาหนังสือ เธออาจจะอยากมาคุยกับน้องอีกคน...ฉันจึงไม่ควรอยู่ในพื้นที่นั้น
ก็เสียดายนะ...ที่ไม่ได้เจอกับเธอ...
....
ก่อนที่งาน Book Fair จะจบลง...เธอกลับมาอีกครั้งในวันสุดท้าย
ในบูธของเรามีมิตรรักนักอ่านเป็นหญิงสาว อัธยาศรัยดีนั่งอยู่...ฉันจึงแนะนำให้เธอทั้งสองคนรู้จักกัน
เผ่ื่อว่าคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน จะคุยกันถูกคอ
ส่วนฉันก็ทำเป็นง่วนวุ่นวายกับการปิดร้าน
ฉันประทับใจที่เธอเอาสมุดโน้ตนักอ่านมาเปิดให้ดู
ในใจฉันคิดว่า "ผู้ชายอะไรกัน จดบันทึกละเอียดยิบขนาดนี้"
ลายมือตัวเล็กๆ เป็นระเบียบสวยงาม ร้อยเรียงอยู่ในหน้าบันทึกการอ่าน
เธอจดบันทึกในแต่ละวัน ว่าเธอผ่านอะไรบ้าง
หนังสือเล่มไหนที่เธออ่าน...อ่านแล้วเธอได้อะไร
ฉันไล่ไต่ตาไปทีละหน้าสมุดบันทึกที่เธอเปิดให้ดู...ในใจฉันเต้นโครมคราม
ถ้าแรงสั่นสะเทือนมันเคลื่อนที่อยู่ในอากาศ เธอคงจะพอรู้แล้วล่ะว่าฉันคิดอะไร...
...หัวใจของฉันกำลังสัั่นไหว...
....
มิตรรักนักอ่านของฉัน...นับจากนี้ฉันจะเรียกเธอแบบนั้น
นี่คือชื่อของเธอ...นี่คือความทรงจำของฉันที่มีต่อเธอ...นี่คือความประทับใจของฉันที่มีต่อเธอ
....
ขอบคุณที่เธอเดินเข้ามา
สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข สร้างแรงบันดาลใจ คืนชีวิตผีเสื้อน้อยๆ ให้กระพือปีกไหว
ขอบคุณในมิตรภาพ ขอบคุณในความน่ารัก ขอบคุณในการแบ่งปัน
ขอบคุณที่ทำให้เดือนตุลาคมปีนี้เป็นช่วงเวลาที่แสนดี...
ขอบอกให้เธอรู้ว่า...ตอนนี้เธอมีพื้นที่พิเศษในใจของฉัน...
และโลกแห่งตัวอักษรแห่งนี้...ฉันขอมอบให้เธอ
มาเรียน
#ความรัก #ไดอารี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in