เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
CHOCOLATE BOXfindingtheocean
เรื่องละเอียดอ่อน
  • วันนี้เราอ่านหน้าเฟสบุ๊คผ่านๆ เจอกระทู้นึงเปิดให้คนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศาสนา โดยคำถามคือ "ผมสงสัยมากทำไมคนบางคน ถึงมองคนที่ไม่นับถือศาสนาเป็นคนไม่ดีละครับ คนดีมันจำเป็นต้องมีศาสนาทุกคนด้วยหรอครับ อันนี้ผมสงสัยมากครับ" -  อ้างอิงจากเพจ contrast -  ซึ่งก็มีคนแสดงออกอย่างหลากหลายมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ 

    ปล. ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นแค่ความคิดเห็นของเราเท่านั้นผิดพลาดประการใดขอ อภัย มา ณ ที่นี้

    ตอนเราเป็นเด็กเรามักจะถูกปลูกฝังให้อยู่ในกรอบของศาสนา จนเรียกได้ว่าเรื่องพวกนี้อยู่ในชีวิตประจำวัน การทำตัวเป็นชาวพุทธ ศึกษาเล่าเรียนจากตำราจากระทรวงศึกษาที่ถูกตีแผ่ให้เรียนเหมือนกันทั้งประเทศ กรอบความคิดของเด็กเหล่านี้วันนี้ต้องไม่แตกแยก ต้องไปในทิศทางเดียวกัน เราแทบจะเป็นเด็กที่เรียกได้ว่าไม่กล้าที่จะแตกฝูง เราเกรงกลัวทุกกฏที่ศาสนาตั้งขึ้น บาป บุญ เป็นสิ่งที่เราถือเอามาเป็นเกณฑ์การดำเนินชีวิตมาจนถึงวัยยี่สิบ

    พอเราได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น เอาจริงๆ เรายอมรับว่าการเรียนมหาลัยมันทำให้โลกเราไปไกลกว่าคำว่าศาสนาคือสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เราเรียนเอกประวัติศาสตร์ ซึ่งเราได้เรียนประวัติศาสตร์ของหลายประเทศทั่วโลก ศาสนาถูกใช้เป็นเครื่องมือในสงครามหลายครั้ง เช่น ครูเสด หรือ สงครามศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น พอเรายิ่งเรียนรู้มากขึ้นภาพที่เราเข้าใจมาตลอดมันก็เริ่มเปลี่ยนไป

    reference: https://www.realmofhistory.com/2016/10/26/10-facts-medieval-crusader-state-armies
    ตามที่เราศึกษามาศาสนาเริ่มมาจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเริ่มจากการกำจัดความกลัว ความเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ และการรวมคนหมู่มากเข้าด้วยกัน เป็นกฏหมู่ที่เอาไว้ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือให้มดไม่แตกฝูง และเป็นเครื่องมือในการรวบรวมอำนาจให้แก่ตัวบุคคลอีกด้วยศาสนาเลยอยู่ในส่วนหนึ่งของการเมืองและการปกครองเสมอมา ในยุคที่ยังไม่มีกฎหมาย กฏหมู่ต้องมีกลไกที่สามารถสร้างความเกรงกลัวให้กับคนหมู่มากเพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน ศาสนาเลยมาในรูปแบบของ บาป บุญ ซึ่งต้องหนักแน่นพอที่จะสามารถทำให้เกรงกลัวได้

    ซึ่งเราไม่ได้มองว่าศาสนาเป็นเรื่องไม่ดี เราแค่มองว่าศาสนาเป็นเรื่องที่สามารถวิพากษ์ได้ และจับต้องได้ การไม่มีศาสนาไม่ได้เอามาเป็นเครื่องวัดของความดีความชั่วอีกต่อไป คนที่ไม่มีศาสนาไม่ได้แปลว่าเป็นคนไม่ดี เราไม่ว่าหรือทำตัวขว้างโลกต่อคนที่นับถือ 

    นอกจากสิงศักดิ์ที่เราเห็นเมื่อก่อนก็คงเป็นเรื่องของ การเพิ่มขึ้นของพุทธพานิชย์ กลายเป็นว่าทุกวันนี้ วัดมากมายร่ำรวยจากความศรัธทาของผู้คน หรือเรียกได้ว่าวัดบางวัดอาจมีรายได้มากกว่าโรงพยาบาลบางแห่งในชนบทด้วยซ้ำ เลยทำให้ความศรัทธาของผู้คนบางส่วนน้อยลง แต่ก็ยังไม่หมดไป

    ศาสนาไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดีทั้งหมด คนที่เค้านับถือจริงๆ เราก็ไม่ได้ว่าเค้านะ บางคนทำไปเพื่อให้คนรอบข้างสบายใจก็มี อย่างตัวเราเองถ้าไม่ได้ไปกับแม่หรือคนที่บ้าน เราก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรมากกับศาสนา แต่เพื่อให้แม่สบายใจบางครั้งเราว่าก็ยอมเถอะ มันไม่ได้หนักหนาอะไร เราเห็นด้วยกับคอมเมนท์หนึ่งที่มาแสดงความคิดเห็นคือ "ผมไม่นับถือศาสนาครับ และผมไม่สนใจด้วยว่าใครจะคิดว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี เฉยๆ ใครคิดไงก็คิดไปไม่เดือดร้อน แต่อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กันและกันในเรื่องการนับถือก็พอ
    และทุกวันนี้ยังไหว้พระ ถวายสังฆทาน กับที่บ้าน เพื่อให้ที่บ้านสบายใจแค่นั้น เพราะการทำให้แม่สบายใจนั้นสำคัญกว่าครับ"

    อันนี้เราเห็นด้วยมากเมื่อก่อนตอนเราเป็นเด็กเราอยากแสดงออกนะว่าเราต่อต้าน เรื่องต่างๆ ที่ผู้ใหญ่พยายามจะยัดเยือดให้ แต่พอโตขึ้น เรากลับมองว่าเออทำไปเถอะ สุดท้ายแล้วมันก็จบไปจริงๆ เรื่องเล็กๆ ก็ไม่ควรทำเป็นเรื่องใหญ่เกินพอดี
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in