ค่ะ หลังจากที่คิดหนักมาพักนึงว่าจะเอายังไงกับภาคผนวกดี อยากแชร์ความป่วงผ่านรูปภาพให้ดูเหมือนกันนะ แต่มันติดชื่อเรา ชื่อเราก็ไม่ค่อยโหลด้วย กลัวคนรู้จักมาเจอ หรือเราจะเซ็นเซอร์ดี โอ้ยยย คิดไม่ตก
วันนี้อยู่ดี ๆ ก็คิดได้ว่า แอคเค้าท์นี้ลิ้งค์กับทั้งบล็อกส่วนตัว ลิ้งค์ทั้งแอคเค้าท์เฟซบุ๊ค แถมชื่อแอคเค้าท์นี่ถ้าคนรู้จักมาเจอยังไงก็รู้แน่ ๆ ก็พี่เล่นใช้ชื่อนี้ในทุกวงการขนาดนี้ ยังมีอะไรให้ปกปิดอีกหรอ เออว่ะ งั้นกด publish เลยละกันเนาะ
บันทึกลง Blog ครั้งแรกเมืื่อ 04/09/16
ผ้าม่านสีฟ้าอมเหลืองขี้มูกที่คอยปลอบใจเราตอนร้องไห้ตลอดทาง ขอบคุณนะ
เอ้กอี๊เอ้กตลอดทางเลยนะมึง
ส่วนสองกล่องนี้ร้อง อ่อกๆๆๆ
เมื่อเราเข้าไปอยู่หอพักผู้ป่วยจิตเวช ของใช้ทุกอย่างจะถูกยึดทุกอย่างของเราไป ทุกอย่างจริงๆ ยกเว้นแค่ชุดชั้นในกับกางเกงใน และจะถูกเขียนชื่อ หรือเขียนชื่อติดสก็อตเทปแล้วติดของใช้ แต่รูปที่เราเอามาให้ดูนี้เราลอกสก็อตเทปออกหมดแล้วล่ะ เขาจะจัดเซ็ตของจำเป็นให้ อันได้แก่ขัน แปรงสีฟัน(โคตรแข็ง แข็งจนเหล็กจัดฟันเราเบี้ยวอะ) ยาสีฟันคอลเกต แชมพูรีจ๊อยซ์ สบู่ลักซ์ แป้งเด็กแคร์ แก้วน้ำ หวี(ปลายโคตรแหลม หวีเสร็จรู้สึกเหมือนโดนไถหน้าดินบนหัวเลยอะ) และก็ผ้าเช็ดตัว
คอลเลคชั่นขันจิตเวช นี่ยอมเปิดเผยชื่อจริงเลยนะเนี่ย
คอลเลคชั่นแก้วจิตเวช เราลอกสก็อตเทปออกแล้ว
สบู่ก้อนจิตเวชพรีเมี่ยม จริงๆ มีฝาปิดด้วย แต่เราหาไม่เจอ อันที่สองเราไม่ได้ใช้ เราก็บริจาคให้โรงพยาบาล
ผ้าเช็ดตัวก็เขียนชื่อ แต่เจ้ฝ้ายนางเคยใช้ผ้าเช็ดตัวชั้นเช็ดผมด้วยเหตุผลที่ว่า ก็สีมันเหมือนกัน แต่ของนางสีแดงแจ๊ดเลยนะ เช็ดเสร็จนางก็คืน ที่เรามีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเพราะคราวที่แล้วเราไม่อาบน้ำวันแรก แล้ววันต่อมาเพื่อนก็เอาผ้าเช็ดตัวเรามาให้
ด้านหน้าลายมุ้งมิ้งจ๊ะทิงจาเด้อจ้า
อันนี้คงเป็นสิ่งเดียวมั้งที่ไม่ได้เขียนชื่อ เพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยเขาใส่รองเท้าแตะมาโรงบาลกัน มีอีนี่แหละ ใส่คัชชูไปสวยๆ อยู่คนเดียว เออแต่รองเท้านี้ใส่ดีนะ เบาดี
เห็นรอยดำๆ หยึกๆ หยักๆ ใต้คำว่า FEED ME มั้ย มันคือชื่อเราที่เขียนด้วยปากกา เราแค้นสุด เขาเขียนตั้งแต่แอดมิดครั้งแรก แต่เราเพิ่งเห็นสามอาทิตย์หลังจากนั้น โมโหมาก พอแอดมิดครั้งที่สอง แม้ว่าเราจะน้ำตานองหน้าอยู่ สิ่งแรกที่เราพูดเมื่อเข้าหอจิตเวชคือ ทำไมครั้งที่แล้วถึงเขียนชื่อบนกระเป๋าเราแบบนี้ มันไม่เมกเซ้นส์เลย กระเป๋าเป็นผ้า ทีแก้วน้ำเป็นพลาสติกยังใช้สก็อตเทปติดเลย เราบันดาลโทสะทั้งน้ำตาเลยตอนนั้น พยาบาลก็ขอโทษเรา เขาก็ไม่รู้ว่าใครเขียน ตอนมาซักประวัติเราเขาก็ขอให้เราอภัยให้คนทำได้มั้ย แบบปล่อยให้มันแล้วๆ กันไปได้มั้ย (เราไม่สงสัยพยาบาลคนนี้หรอก เพราะคนนี้เป็นพยาบาลใหม่) เราตอบตั้งแต่พยาบาลยังถามไม่จบว่า ไม่! แต่อย่าให้รู้ว่าใครเขียนก็พอ (แค้นลึก) ตอนหลัง เราออกมา เราก็ได้ทรัพย์สินเราคืน เราพบว่ารอยเขียนจางลง สงสัยคุณพยาบาลใหม่ที่ซักประวัติให้เราพยายามลบออกให้มั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครลบให้ เราก็รู้สึกดีขึ้นที่เขาพยายามแก้ไขสิ่งที่พลาดไปแล้ว ไม่เฉยเมยทั้งๆ ที่จะไม่ใส่ใจกับมันก็ได้ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ
ชุดที่เราใส่อยู่ 20 วัน เราชอบนะ มันใส่สบายมาก และสะอาดมาก ทุกตัวสัมผัสได้ถึงการฆ่าเชื้อมาแล้ว และฟรีไซส์ทุกตัว ทุกคนใส่ไซส์เดียวกัน ไม่มีการถามไซส์ให้ต้องตอบแบบปวดใจ ชอบ เอ้อ จริงๆ เสื้อมีกระเป๋าตรงข้างล่างด้วยนะ เราลืมวาดรายละเอียดตรงนี้ คล้ายๆ กระเป๋าเสื้อของนักเรียนมอต้นอะ แต่นี่มีสองข้างเลย ใหญ่ด้วย เราชอบซุกมือไว้ในนั้น อุ่นดี
นี่คือคอลเลคชั่นของ souvenir จากกิจกรรมบำบัดที่เราทำเอง ใครสนใจติดต่อซื้อได้ ชิ้นละ 300 บาทเท่านั้น
จบแล้วค่ะ
ปล. เดี๋ยว side story จะตามมาเด้อ
ปล. ใน ปล. ด้วยความคิดไม่ตกที่กล่าวมาตอนต้น ทำให้เราปล่อย side story ออกมากก่อนภาคผนวกแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in