คิมซอกจินเป็นคนประหลาด
ไม่เคยพกร่ม ชอบเดินตากฝน
วันนี้ก็เหมือนกัน แม้พยากรณ์อากาศจะบอกว่า ฝนอาจะตกในช่วงเย็นถึง90% คิมซอกจินก็ยังเลือกที่จะเดินท่ามกลางสายฝนเหมือนเช่นเคย จอนจองกุกคิดในใจเสมอว่า คนๆนี้เป็นอะไรของเขากันนะ
เพี้ยน?
ก็น่าใกล้เคียงล่ะนะ
“ระวังเป็นหวัดนะครับ”
บอกคนแก่กว่าไปแบบนั้น อีกฝ่ายแค่หันหน้ามามองเล็กๆด้วยนัยน์ตากลมคู่นั้น มุมปากจุดรอยยิ้มขึ้นมา เหมือนจิ้งจอกตัวเล็กเจ้าเล่ห์ แม้ที่จริงแล้วขนาดตัวพวกเขาก็ไม่ค่อยต่างกันนัก นัยน์ตาสีเข้มที่ทอประกายอะไรบางอย่าง ซุกซ่อนมันไว้ในความวิบวับนั้น มันดึงดูดจองกุกอย่างน่าประหลาด เขาได้แต่สงสัยในสายตาคู่นั้น
คิมซอกจินกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
คุณยังคงคาดเดาไม่ได้เหมือนฝนที่ตกในลอนดอน
x
พวกเขาถึงอพาร์ทเม้นต์ตอนหัวค่ำ เสื้อผ้าเปียกโชกไปหมด จองกุกยีผมที่เปียกลู่ ถอดเสื้อโค้ทสีดำออกมาสะบัด เสื้อเชิ้ตสีกรมชุ่มน้ำไปหมดแม้จะใส่เสื้อโค้ททับไว้ก็ตาม ซอกจินหลบไปอีกมุมไม่ไกลนัก ถอดโค้ทสีน้ำตาลออก บ่นถึงงานที่หนักหนาสาหัสในวันนี้ จองกุกฟังซอกจินบ่นอย่างผ่านๆ เพราะนัยน์ตาคมของจองกุกจดจ่ออยู่ที่ซอกจิน ไม่รู้ว่าเพราะ เสื้อเชิ้ตของซอกจินเป็นสีขาว หรือว่าน้ำฝนเปียกซึมเข้าไปถึงด้านใน
แต่นั่นล่ะเป็นอะไรที่ดึงดูดสายตาที่สุด เพราะอะไรที่ซ่อนไว้ใต้ร่มผ้ากลับเผยออกมาเสียหมด
จองกุกลอบมองเงียบๆ มองเก็บทุกรายละเอียด มองเนื้อผ้าโปร่งบางพวกนั้นแนบสนิทกับผิวสวย มองเส้นโครงหุ่นที่ปรากฏขึ้นเพราะเนื้อผ้าที่เรียบชิดติดกับผิว เมื่อเลื่อนสายขึ้นอีกครั้งก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีเข้มของเจ้าของร่างกายที่ถูกเขาละเลียดมองอยู่ พวกเขาสบตากันท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงแค่เสียงฝนกระทบหน้าต่าง
เหมือนเกมแข่งกันจ้องตา หากใครหลบตาก่อน คนนั้นล่ะที่พ่ายแพ้
และจองกุกเลือกที่จะพ่ายแพ้เกมนี้เสียเอง
“ ฮยองรีบไปอาบน้ำเช็ดตัวสิครับ ”
จองกุกว่าพลางจับตัวซอกจินหมุนและดันหลังไปยังห้องน้ำ คนแก่กว่ากลั้วหัวเราะเบา ก้าวตามแรงดันหลังอย่างไม่รีบร้อน ช้าลงเล็กน้อยเมื่อใกล้ถึงประตูห้องน้ำ จนหยุดอยู่ที่หน้าประตูนั่นล่ะซอกจินถึงหันกลับมามองสบนัยน์ตาคมคู่โตของคนอ่อนกว่า จองกุกสบสายตากลับ สบนัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นดูทอประกายอย่างประหลาดแม้อยู่ท่ามกลางแสงสลัว ประกายตาที่สื่อความหมายบางอย่างที่จองกุกเองก็รู้ดี
มือเรียวดึงแขนท่อนแขนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด ให้ร่างของอีกฝ่ายเข้ามาชิดใกล้พร้อมๆกับก้าวถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังกว้างของซอกจินแนบสนิทกับประตูห้องน้ำ
ระยะห่างของร่างสองร่างแคบลง เป็นระยะที่ลมหายใจเริ่มปะปนกันเสียหมด ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดใบหน้า มันจั๊กจี้ เหมือนถูกหยอกเย้าแม้จะเป็นแค่ลมหายใจ ซอกจินยิ้ม รอยยิ้มซุกซนของจิ้งจอก จอนจองกุกไม่ต่างอะไรกับหมาป่าที่กำลังตกหลุมพรางของจิ้งจอกตัวเล็กที่ใจใหญ่กว่าใจหมาป่า
“นี่ ”
ซอกจินกล่าวเนิบนาบ เสียงที่เปล่งออกมาดูแหบพร่ากว่าปกติจนแทบจะขาดห้วง
“ ทำไม--------
‘ เรา ’
ไม่ลองใช้
ผิวของนายซับน้ำบนตัวพี่ดูล่ะ?"
" จองกุกอ่า ”
ที่จริงแล้ว หมาป่าน่ะไม่ได้ตกหลุมพรางของจิ้งจอกเจ้าเล่าห์ตัวน้อย
มันเต็มใจที่จะตกลงไปทั้งๆที่รู้อยู่แล้วต่างหาก
x
ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขามาอยู่ห้องนอนตอนไหน
แต่ข้าวของในห้องน้ำหล่นกระจัดกระจายไปหมด
ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้จองกุกก็คงจะเก็บให้
ตอนนี้เนื้อตัวของพวกเขายังคงเปียกชื้น เตียงคงจะเปียกไปหมดแน่
ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ซอกจินจะเอาผ้าปูที่นอนกับผ้านวมไปซักเอง
แต่จะให้หยุดสัมผัสกันและกันตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก
ผิวที่ยังพราวไปด้วยหยดน้ำ ตอนนี้ร่างกายของพวกเขา แนบสนิท , บดเบียด , ชิดใกล้ เหมือนริมฝีปากที่ยังป้อนจูบให้กัน เป็นอย่างที่ซอกจินว่าไว้จริงๆ ผิวของจองกุกกำลังซับหยดน้ำพราวบนผิวแดงปรั่งของซอกจิน ฝ่ามือกร้านไล้สัมผัสซับหยดน้ำพวกนั้นไปทั่วร่างเรียกครางเสียงพร่าจากเจ้าของร่าง
ผิวสวยของคิมซอกจินเป็นสิ่งที่จองกุกชอบสัมผัสมากที่สุด
แต่จริงๆสิ่งที่จองกุกชอบที่สุดเกี่ยวกับคิมซอกกจินก็คือ กลิ่น มันไม่ใช่กลิ่นหอมหวานอะไรเหมือนของจองกุก จองกุกน่ะชอบใช้กลิ่นน้ำหอมแบบผู้หญิงใช้ (กลิ่นมันค่อนไปทางunisexมากกว่า) กลิ่นหวานจางๆของดอกไม้ กลิ่นหวานที่ซอกจินชอบมาซุกดมที่ลำคอยามที่เข้ามาออดอ้อนคลอเคลีย
แต่ว่าซอกจินน่ะตรงกันข้าม
เป็นกลิ่นที่ สะอาด , สดชื่น , แต่เย้ายวน
กลิ่นของซอกจินเป็นแบบนั้น กลิ่นชาดาร์จีลิ่งผสานดอกลาเวนเดอร์อย่างนุ่มนวล กลั้วซิตรัสและมัสก์อย่างบางเบา ยิ่งเวลาที่กลิ่นนั้นปะปนกับกลิ่นเหงื่ออ่อนๆของซอกจิน กลายเป็นกลิ่นของวูดดี้โทนร้อน มันยั่วยวนจองกุกอย่างน่าประหลาด
ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอม ก่อนริมฝีปากเรียวทาบเข้าที่ผิวสวย เม้มเบาๆ แต่งแต้มรอยจูบลงบนผิวตามใจชอบ ถึงได้โดนคนแก่กว่าฟาดไปที่ไหล่ทีนึง " อย่าเม้มแบบนั้นสิ มันเป็นรอย " จองกุกมองสบตาแป๋ว ไหวไหล่ข้างที่โดนตี ทำหน้าซื่อตาใสเป็นลูกกระต่ายห่มหนังหมาป่า
ซอกจินย่นจมูก ขยี้แก้มเจ้าเด็กตาแป๋วอย่างหมั่นเขี้ยว
หึ เจ้าลูกกระต่ายเอ้ย
x
ฝ่ามือกร้านฟอนเฟ้นเอวเพรียวช้าๆ ไต่ระดับอารมณ์ที่ให้พลุ่งพล่านขึ้น จอนจองกุกรู้จักร่างกายนี้ดีเกินพอ รู้ดีว่าทำแบบไหน ซอกจินถึงจะชอบ หยอกเย้าจนอีกฝ่ายเรียกร้องด้วยเสียงหวาน เร่งเร้ามากขึ้นให้ร่างกายพวกเขาร้อนมากกว่านั้น บีบเค้นให้มันใกล้จะท่วมท้น ไม่นานนักก็ป้อนตัวตนเติมเต็มให้
นั่นทำให้ซอกจินครางเสียงพร่า แต่ไม่เป็นไร
พวกเขาเชื่อมต่อ สบตา และปล่อยตัวตนของพวกเขาไปตามที่ร่างกายต้องการ
เข้าสัมผัสตัวตนของกันและกันอย่างลึกซึ้ง หลอมรวมกันให้เป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสัมผัส , อุณหภูมิ , กลิ่น , ความชื้น , น้ำเสียงที่พร่ำเรียกหา ทุกอย่างเหมือนถูกสลักลงให้ร่างกายจดจำ อะไรก็ตามที่บ่งบอกถึงตัวตนของอีกฝ่าย พวกเขาสังเกต และจดจำมันได้ดียิ่งกว่าตัวตนของตัวเองเสียอีก จองกุกขบกรามแน่นจนสันกรามนูน พยายามอ่อนโยน ไม่รุนแรงกับคนใต้ร่าง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะนัยน์ตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำฉ่ำวาว ริมฝีปากที่ขบเม้มอย่างอดกลั้นแม้สุดท้ายจะหลุดครางเสียงหวาน สีหน้าแสนเว้าวอน ผิวที่แดงปลั่งของซอกจิน มันกระตุ้นมากเกินไป ห้ามอย่างไรก็อดรุนแรงไม่ได้เสียที
แต่ไม่เป็นไร ถ้าเป็นจองกุก ซอกจินชอบมันทั้งหมด
แม้จังหวะของจอนจองกุกไม่อ่อนโยน ออกจะดุดันเกินไปด้วยซ้ำ
แต่เพราะจองกุกปรารถนาตัวเขานั่นล่ะ ซอกจินเลยชอบมากๆต่างหาก
"อืม"
"ซอกจินอา"
จองกุกกระซิบเรียกชื่อคนรักด้วยเสียงแหบพร่าริมใบหูแดงจัด ซอกจินเองก็ตอบสนองแฟนเด็กแสนเอาแต่ใจคนนี้อย่างดี รู้ดีว่าจองกุกน่ะชอบแบบไหน เลยมอบให้เช่นกัน
" อ-อื้ม ตรงนั้น ตรงนั้น"
"มากกว่านี้ ได้โปรด พี่ต้องการนาย"
"จองกุกอา"
ป้อนสัมผัสที่กันและกันชอบ เอ่อล้นไปหมดตอนที่จองกุกเติมเต็มให้ซอกจิน ซอกจินเองก็ให้จองกุกตักตวงความหวานจากร่างกายนี้เต็มที่ เพราะยังไงก็มีมากพอที่จะป้อนให้กว่าจองกุกจะพอใจ แต่ก็คงยากที่จะพอใจ เพราะเด็กคนนี้มีความกระหายไม่จบสิ้นเสียที ชอบเอาเปรียบอยู่เรื่อย
เสียงหอบหายใจหนัก สัมผัสของร่างกำยำชื้นเหงื่อที่ทาบทับลงมา เสียงทุ้มพร่าของจองกุกพร่ำกระซิบบอกรักข้างหู จองกุกกระชับแขนกอดร่างกายของคนรักไว้แน่น การกระทำแสนขี้อ้อนทำให้คนแก่กว่านึกเอ็นดู ซอกจินคลี่รอยยิ้มกว้าง มือเรียวประคองใบหน้าของคนรักขึ้น นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยรอยแผลเป็นบนแก้มแผ่วเบา กดริมฝีปากลงบนรอยแผล พร้อมกระซิบเสียงเบาให้
“พี่ก็รักนายนะ จองกุกอา”
เจ้าจิ้งจอกกระซิบกลับด้วยน้ำเสียงซุกซนเช่นเคย
x
ข้าวของในห้องน้ำถูกเก็บเข้าสู่ที่เดิม ผ้าปูที่นอนและผ้านวมถูกเอาไปซัก อบแห้งเรียบร้อย
กิจกรรมเมื่อคืนทำให้ซอกจินปวดเอวนิดหน่อยยังพอทำงานบ้านได้ ผิดกับเจ้ากระต่ายกล้ามที่หน้าใสกิ๊ง
ซอกจินได้แค่เบะปากใส่เท่านั้นล่ะ
x
อาหารเช้าคือออมเล็ต เบค่อน และขนมปังปิ้งอย่างง่ายๆ
"จินฮยอง"
"หืม?"
"ทำไมฮยองถึงชอบตากฝน"
จองกุกถามขึ้นระหว่างมื้อเช้า นัยน์ตากลมมองแก้มกลมๆของซอกจินที่เคี้ยวตุ้ยๆ ซอกจินคิดพลางมองเพดานสีขาว เหมือนว่าถ้าจ้องไปเรื่อยๆ คงมีคำตอบออกมา
"ไม่รู้อ่ะ"
"ห๊ะ"
"ก็แค่ชอบ"
"เพี้ยนจริงๆ"
จองกุกถอนหายใจเฮือกใหญ่ คนถูกว่าหัวเราะตาหยี ซอกจินเอนตัวไปหาคนที่นั่งด้านข้าง ยื่นหน้าไปใกล้ๆ นัยน์ตาสีเข้มยังทอประกายวิบวับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ยามเช้า กระซิบเสียงเบา ยังคงเจือความหยอกเย้าไว้ในน้ำเสียงเหมือนทุกครั้ง
"แต่เจเค
ก็ชอบแอบมองคนเพี้ยนตอนเปียกบ่อยๆนี่นา"
Sh*t
จองกุกสบถในใจ ใช้ลิ้นดุนแก้ม หรี่นัยน์ตาลงมองหน้าคนที่ยังยิ้มระรื่น และยิ้มเย็นเมื่อนึกวิธีแก้เผ็ดคนข้างตัวได้ เจ้ากระต่ายกล้ามลุกขึ้น กอดอก มองหน้านิ่ง ใช้สายตากดดันจนซอกจินรู้สึกตัวเล็กลงทั้งๆที่สูงกว่าตั้งหนึ่งเซ็นต์และไหล่กว้างกว่า แต่ยังไม่ทันจะถามว่าอะไร จองกุกก็จัดการรวบตัวคนแก่กว่าเข้าที่เอว แน่นอนว่าซอกจินตกใจ ทั้งโวยวายทั้งตีเข้าที่ไหล่ แต่ไม่นานมันก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ เมื่อจองกุกเริ่มหมุนตัวคนในอ้อมแขนไปรอบๆ มันเหมือนนั่งเครื่องเล่น ซอกจินหัวเราะด้วยเสียงแปลกๆประจำตัว แขนกอดคอจองกุกแน่น แสงอาทิตย์ฉาบเข้าที่ร่างกาย ย้อมทุกอย่างให้ดูสว่างไสว เหมือนฉากในหนังเรื่องโปรดของจอกกุก แต่มันดียิ่งกว่าในหนังเสียอีก
อาจจะเพราะรอยยิ้มของคิมซอกจินที่จอนจองกุกตกหลุมรักตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นมัน
แต่จริงๆเพราะตัวตนเพี้ยนๆของคิมซอกจินต่างหากที่ทำให้จอนจองกุกถอนตัวไม่ขึ้น
เพราะยังไงจอนจองกุกก็รักคิมซอกจินคนเพี้ยนไปแล้ว
คุณเหมือนฝนที่ตกในลอนดอน
นึกอยากจะตกเมื่อไหร่ก็จะตก ไม่เกี่ยวกับฤดู แค่ชอบทำอะไรตามใจเท่านั้น
ร่มถูกลืมทิ้งไป และไม่เคยถูกนำออกมาใช้
ถ้าตากฝนไปพร้อมกับคุณ คุณก็จะส่งยิ้มกว้างตาหยีมาให้
แม้ว่าวันถัดไปพวกเราจะพากันเป็นหวัดทั้งคู่ เป็นคนเพี้ยนๆ ที่พากันทำอะไรเพี้ยนๆ
ผมก็ยังยอมทำอะไรเพี้ยนๆไปกับคุณอยู่ดี
เพราะเป็นคุณนั่นล่ะ ผมถึงได้ยอมยังไงล่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in