เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
above the cloudsployapha.j
Emirates Process Review - Assessment Day (23 Aug 2015)





  • Attention please!
    เรียนท่านผู้อ่านโปรดทราบ...






    ตอนนี้ Process การสมัครเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วเด้อ
    เราเอามาเขียนไว้เผื่อใครอยากได้แนวทางประกอบการเตรียมตัว

    สู้ๆนะจ๊ะ แล้วมาช่วยกันเซิ้ง ฮูเร่!






    ------------------------------------------------------------------





    23 August 2015 – Assessment Day

     สิ่งที่ต้องเตรียม : ปากกาดำ

     

     

     


    วันนี้เป็นวันที่ยาวนานและหนักหน่วงมากเลยค่ะ โดยเรามาถึงที่โรงแรมตั้งแต่แปดโมงเช้า เข้าไปนั่งคุยกับเพื่อนๆให้หายตื่นเต้น ระหว่างนั้นก็พยายามรู้จักคนเยอะๆ เพราะต่อไปเราต้องทำ Group Discussion เพราะฉะนั้นรู้จักชื่อกันไว้ก่อนเป็นการดีค่ะ :) (ไม่รู้จะคุยอะไรก็หยิบลูกอมมาแจกแก้อาการตื่นเต้นกันไปค่ะ ฮาาาา)

     


    พอถึงเวลาเก้าโมงก็เข้าห้องไปทำ Group Discussion โดยรอบนี้โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มค่ะ นั่งหน้าห้องกับหลังห้องเรียงตามลำดับเลขที่ เราได้อยู่กลุ่มที่ 2 นั่งหลังห้อง เก้าอี้จะจัดเรียงเป็นวงกลม ก็นั่งล้อมวงแนะนำตัวกันนิดหน่อย


    จากนั้นกรรมการจะก็แบ่งเป็นกลุ่มย่อย 3 คนและได้รับการ์ดอาชีพกลุ่มละ 1 ใบ โจทย์คือให้คุยกันว่าอาชีพนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง คิดมาตามจำนวนคนในกลุ่ม ซึ่งอาชีพที่ได้รับแจกก็มี Party Planer, Architectect, Photographer, TV Presenter, Radio Presenter และ Flouriest ประมาณนี้ค่ะ

     


    กลุ่มของเราได้ Photographer

     

     

    ก่อนจะเริ่มคุยกันกรรมการก็บอกว่า เขารู้ว่าทุกคนคงไปอ่านเว็บบอร์ดหรือบล็อกต่างๆว่าจะต้องทำตัวยังไง เนี่ยดูออกนะว่านั่นคือตัวตนจริงๆของคุณหรือที่คุณทำแบบนี้เพราะคุณอ่านๆมาก็อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องกดดัน ถือว่าการสมัครในครั้งนี้ก็มาเป็นประสบการณ์


    พอพูดจบทุกคนก็โอเคกันอย่างแข็งขัน บรรยากาศที่ตึงๆก็หายไป จากนั้นก็เริ่มคุยปรึกษากันค่ะ ซึ่งรอบนี้ให้เวลา 5 นาที เราผู้ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรก็อาสาทำหน้าที่เป็นคนคอยดูเวลาให้เพื่อน ส่วนกรรมการ(มิร่า)ก็เดินๆวนๆจดๆอยู่รอบตัว น่ากลัวมาก เราก็พูดไปคุยไปไม่หันมองกรรมการค่ะ

     

    พอปรึกษากันเสร็จก็มาซ้อมพูดและก็นั่งดูเพื่อนๆกลุ่มอื่นพรีเซ้นท์ ซึ่งรอบนี้ได้ยืนขึ้นพูดทุกคนเล้ยยย

     

     

    เมื่อทุกคนพรีเซ้นท์เสร็จแล้วต้องมานั่งคุยกันใหม่รอบสอง ทีนี้เราจะได้รับการ์ดใบที่สองเป็นสิ่งของที่นำมาใช้กับอาชีพนี้ ซึ่งกลุ่มของเราได้ ผ้าปิดตา ก็มานั่งคุยกันว่าจะเอามาทำอะไรได้บ้างกับช่างภาพเนี๊ยยยยยย และที่น่าตื่นเต้นไปกว่าเดิมคือรอบนี้กรรมการจะเลือกคนพรีเซ้นท์ค่ะ ตัวเราไม่โดนแต่ก็ลุกขึ้นยืนให้กำลังใจเพื่อนเวลาเพื่อนพรีเซ้นต์ พอทุกกลุ่มพูดเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปรอด้านนอกค่ะ ตอนรอก็กระวนกระวาย ไม่รู้กลุ่มที่สองจะเสร็จเมื่อไร ไม่กล้าไปกินข้าว ถึงจะกินข้าวก็กินไม่ลง ลุ้นเหลือเกิ๊น

     

     

    ประมาณเที่ยงๆกรรมการก็เรียกทุกคนมาร่วมกันหน้าห้อง กล่าวขอบคุณและแจ้งให้ทราบว่าว่า ถ้าไม่ผ่านรอบนี้จะสามารถสมัครได้อีกทีหลังจากเกิน 6 เดือนไปแล้ว จากนั้นก็ถึงเวลาที่พวกเรารอคอย นั่นคือการแปะกระดาษ ผลปรากฎว่าเราผ่านนนนนนนน (กรี๊ดดดดดดดด)

    ก็เข้าไปนั่งรอในห้องเพื่อรอทำ Group Discussion รอบที่ 2 ต่อไป...

     

     



    และเมื่อทุกคนเข้ามาในห้องกันครบแล้ว กรรมการก็แจกเอกสารเกี่ยวกับการแต่งกายและเครื่องแบบให้อ่านค่ะ เนื้อความอธิบายเกี่ยวกับยูนิฟอร์ม อะไรห้ามใส่ อะไรที่ใส่ได้บ้าง จากนั้นก็เรียกแต่ละคนเข้าไป Declare เรื่องรอยสักและแผลเป็น เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วก็แบ่งคนออกเป็น 3 กลุ่มย่อย โดยกลุ่มแรกนั่งรอทำกรุ๊ปต่อเลยจ้า ส่วนเราอยู่กลุ่มที่ 2 มีเวลาพักเบรก 25 นาที และกลุ่มที่ 3 มีเวลาพักเบรก 1 ชั่วโมงค่ะ ตอนนี้เราก็ออกไปนั่งรอข้างนอก


    หิวก็หิวแต่ก็ตื่นเต้นทานอะไรไม่ลงอีกแล้ว +______+


    พอหมดเวลาเบรกก็ไปรอหน้าห้องค่ะ พอเพื่อนๆกลุ่มแรกออกมา ทุกคนดูซีดเซียวเหมือนโดนดูดพลัง น่ากลัวม๊ากกกกกก เราก็ยิ่งซีดหนักกว่าเดิมไปอี๊กกกกก

     

     

     

    สำหรับ Group Discussion ในรอบนี้เป็นการจำลองสถานการณ์ในร้านอาหาร

    โดยมีทั้งหมด 6 สถานการณ์ คือ

    1. ลูกค้าสั่งล่วงหน้าแล้วว่าอาหารทั้งหมดที่เสิร์ฟต้องเป็นออร์แกนิคเท่านั้น แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ที่ร้านไม่ได้สั่งของมา และร้านค้าแถวนั้นปิดหมดแล้ว
    2. พนักงานพูดจาหยาบคายกับลูกค้า ลูกค้าจึงปฏิเสธการจ่ายเงิน
    3. ลูกค้าเซเลปปฏิเสธการจ่ายเงินเนื่องจากโต๊ะข้างๆถ่ายรูปตลอดเวลา ไม่มีความเป็นส่วนตัว
    4. ลูกค้าเป็นคุณแม่มากับลูกเล็กๆสองคน ต้องการให้พนักงานมาดูแลลูกให้เพราะตัวเองจะทานข้าว แต่ในขณะนั้นไม่มีพนักงานคนไหนว่างเลย
    5. พนักงานทำซอสมะเขือเทศหกใส่กระเป๋าราคาแพง ลูกค้าจ่ายเงินค่าอาหารแล้ว ไม่ยอมรับ voucher ซ่อมกระเป๋า ต้องการให้ทางร้านหักเงินเดือนของพนักงานเพื่อคืนค่ากระเป๋าเต็มจำนวน
    6. ลูกค้าฝากเสื้อโค้ทไว้กับทางร้าน แต่เงินในกระเป๋าเสื้อโค้ทของลูกค้าหาย

     

     

    กรรมการ(กลุ่มเราได้เจอกับมิร่าอีกแล้ว)ให้เวลาคุยกัน 5 นาที โดยให้เรียงลำดับความสำคัญว่าควรจะแก้ปัญหาอะไรก่อนกัน ซึ่งในกลุ่มเราก็ช่วยกันดีทุกคนค่ะ แต่ว่าคุยกันยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนก็หมดเวลาก่อน มิร่าเลยถามเพื่อนคนนึงว่าพวกเราเรียงลำดับอะไรไปบ้าง เพื่อนก็ตอบๆไปในแนวทางที่ทุกคนคุยกัน กรรมการก็ถามต่อว่าโอเคกับการเรียงลำดับแบบนี้มั๊ย เพื่อนก็บอกว่าโอเคโดยให้เหตุผลประกอบ

     

    จากนั้นกรรมการก็จะเล่น role play เป็นลูกค้าโดยสุ่มไล่ถามเป็นรายคน เหมือนจะดูว่าเราจะพูดยังไง จะตอบคำถามอย่างไร ซึ่ง...กรรมการไม่ได้เรียกเราค่ะ เป็นคนเดียวที่ไม่มีโอกาสพูดตอน role play ตอนนั้นใจแป้วมากกกกกกกกก ไม่ได้ชัวร์ ตกรอบแน่ๆกรรมการไม่ถามไม่เรียกเราเลย เดินออกจากห้องด้วยความห่อเหี่ยวใจ...

     

     

    ประมาณบ่ายสามครึ่งกรรมการก็ออกมาประกาศผลค่ะ แปะกระดาษตามเคย ซึ่งเฮ้ยยยยย เราผ่านนนนนนนนน (ได้ยังไงก็ไม่รู้ ฮือออออออ) 

     






    และด่านต่อไปเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษค่ะ โดยข้อสอบมีทั้งหมด 2 ชุด แบ่งเป็น Reading, จับคู่คำศัพท์ที่ความหมายใกล้เคียงกัน, จับคู่คำศัพท์กับความหมาย, เติมและเรียงลำดับเนื้อเรื่อง, อ่านป้ายประกา และเลือกเติมคำให้ถูกต้องโดยให้ noun adverb adjective มาค่ะ


    ความเห็นของเราคือข้อสอบยากง่ายประมาณสอบโทอิคเลยค่ะ โดยให้เวลาทำข้อสอบ 1 ชั่วโมง เสร็จเรียบร้อยก็รอนอกห้อง

     

     

    ตอนนี้เป็นนาทีที่ระทึกขวัญมาก เป็นการรอคอยที่ยาวนานเหลือเกิน ปลอบกันไปมา เดินเข้าห้องน้ำ จิ้มมือถือ นั่งเม้าแบบเครียดๆ และหลังจากที่รอร๊อรอ กรรมการก็เดินออกมาเรียกผู้สมัครเข้าไปพบ 5 คนและให้คนที่เหลือรออยู่ด้านนอกก่อน....

     

     

    ทุกคนก็กระวนกระวายใจมากว่าคนที่เข้าไปคือคนที่ผ่านเข้ารอบรึเปล่า ทำไมคนผ่านน้อยจัง ตอนนั้นเริ่มนั่งไม่ติดแล้วค่ะ เดินวนเวียนกันอยู่หน้าห้อง จนสุดท้ายพอ 5 คนนั้นออกมาก็ทราบว่าเพื่อนๆไม่ผ่านเข้ารอบ พวกเราเหลือก็ค่อยๆเดินเข้าไปในห้อง กังวลใจว่าจะประกาศคนที่ตกรอบเพิ่มเติมอีกรึเปล่า พอเข้ามาในห้อง กรรมการก็ประกาศว่าพวกเราผ่านเข้าสู่ Final Interview ทุกคนก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ โอ้ยยยย ตายยยยย หัวใจจะวายตายแล้วจ้าาาาา พอหายดีใจก็ค่อยๆแยกย้ายกันไปนั่งที่ค่ะ

     

     

    บนโต๊ะมีเอกสารวางอยู่เยอะแยะ กรรมการก็อธิบายเกี่ยวกับการกรอกข้อมูลต่างๆและย้ำว่าการสัมภาษณ์จะเกี่ยวกับ CVองเราเท่านั้น เพราะฉะนั้นโปรดกลับไปอ่าน CV ของตัวเองด้วยนะจ๊ะ ไฟนอลของที่นี่ไม่มีคำถามเกี่ยวกับสายการบินค่ะ ไม่ต้องอ่านมาและจะใช้เวลาในการสัมภาษณ์เดี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง

     

    เอกสารที่ใช้ใน Final Interview ประกอบด้วย

    • เอกสารเกี่ยวกับเรื่องรอยสักและรอยแผลเป็น
    • เอกสารเกี่ยวกับความสามารถด้านภาษา (สองอย่างนี้ให้เขียนและส่งในห้องนะคะ)
    • Pre-joining Form
    • เอกสารเกี่ยวกับการทำเทสจิตวิทยา(ทำให้เสร็จก่อนเที่ยงคืน และทำในคอมเท่านั้นเด้อ)
    • Checklist เอกสารทั้งหมดที่ต้องส่งค่ะ

    จากนั้นก็ให้มาลงเวลาสัมภาษณ์ ซึ่งเราได้สัมภาษณ์วันจันทร์ เวลาสี่โมงเย็นค่ะ เป็นคนสุดท้ายของวันเลย หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนค่ะ

     

     

    วันนี้เหนื่อยมากจริงๆค่ะ ยิงยาวตั้งแต่เก้าโมงจนถึงทุ่มครึ่ง แต่คาดว่าพรุ่งนี้จะต้องหนักหน่วงกว่านี้เลยรีบกลับไปทำเทสแล้วก็นอนยาวๆค่ะ :)

     

     



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in