ปัจจุบันหรือสี่ปีถัดมา
“มึงนัดกูมาแบบนี้ ต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างใช่มั้ย?”
คำถามนี้ถูกยิงออกจากปากของเพื่อนผมทันทีที่มันเจอหน้าผมตามเวลาและสถานที่ที่เราได้นัดกันไว้เมื่อตอนต้นสัปดาห์ (จริงๆแล้วผมมาสายสัดๆทั้งที่เป็นคนนัดเอง) ใช่ครับ โดยปกติแล้วถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรือต้องการที่จะเจอใครขึ้นมาจริงๆผมไม่มีทางนัดมันไปกินข้าวกันสองคนหรอกครับ โดยเฉพาะกับผู้ชายแล้วฝันไปเถอะ แต่ที่นัดมาแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างตามที่เพื่อนผมถามแน่ๆ
เพื่อนผมคนนี้ชื่อ “ไปป์” (นามสมมติ) ผมขอแนะนำมันแค่นี้ก่อนนะครับเพราะว่าคงจะต้องกล่าวถึงมันจนแบบ “นี่กูต้องเขียนถึงมันอีกแล้วหรอวะเนี่ย” ในแทบจะทุกบทต่อจากนี้
“คือกูมีปัญหาหวะ”
“เรื่องไรวะมึง (คีบเนื้อสไลด์เข้าปาก)”
“คือกูจะเขียนหนังสือ ขึ้นมาหวะ”
“เอ้ย จริงดิๆ ว่าแต่เรื่องไรวะ(คีบเนื้อสไลด์อีกหนึ่งชิ้นเข้าปาก)”
“มึงจำตอนที่เราไปฝรั่งเศสด้วยกันตอนปีสามได้ปะวะ”
“จำไม่ค่อยได้ละหวะ ทำไมวะ?”
“เอ้าเชี่ย!!”
“เห้ยทำไมวะ มึงด่ากูทำไม (และมันก็คีบเนื้อสไลด์เข้าปากอีกไปอีกคำ)”
“กูจะเขียนเรื่องที่เราไปฝึกงานกัน!”
“เอ้าเชี่ยยยยย!!”
สุดท้ายแล้วโปรเจคนี้ที่คาดหวังไว้ว่าจะลองเขียนดูก็ได้พังทลายลงเพราะว่าไม่มีใครสามารถที่จะจำรายละเอียดหรือใจความสำคัญอะไรได้เลย
ล้อเล่นหนะครับ (ใครเค้าจะหลงกลมึงวะ)
เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ คือเมื่อประมาณสามสี่ปีที่แล้วผมกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ คณะนานาชาติสาขาการจัดการโรงแรม หรืออีกชื่อนึงที่เรียกว่า “&^#@” (อ่านว่าเชี่ยไรวะนั่น)
“&^#@” หรือ “&@*^#” เป็นสถาบันแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสที่เปิดสอนในหลักสูตรการจัดการบริหารในด้านของโรงแรม มีทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท โดยตามหลักสูตรของปริญญาตรีก็จะสอนครอบคลุมไปในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโรงแรมก็จะรวมตั้งแต่แผนกแม่บ้านยันเป็น CEO ระดับสูงเลย ส่วนทางปริญญาโทผมเองก็ไม่ทราบฮะเพราะยังไม่เคยเรียน (อ้าวอีนี่) ว่าแต่ “&^#@” เนี่ยมันมาเกี่ยวข้องอะไรคณะที่ผมเรียนอยู่กันแน่??
สถานบัน “&^#@” เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่จัดว่ามีหลากหลายสาขากระจายออกไปตามที่ต่างๆทั่วโลกโดยมีความตั้งใจที่จะเปิดสอนและพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพให้กับวงการโรงแรมโดยทางสถาบันก็ได้มาเปิดอีกหนึ่งสาขาที่ประเทศไทยโดยจับมือกับทางมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์นั่นเอง
แต่ในปัจจุบันรู้สึกว่าทางสถาบัน “&^#@” กับทางคณะนานาชาตินั้นได้ทำการแยกทางกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสาเหตุที่ค่อนข้างคลุมเครือสร้างความระหองระแหงในจิตใจของตัวผมและเหล่าผองเพื่อนเป็นอย่างมาก (เค้าก็แค่ไม่ต่อสัญญาและหันไปจับมือกับทางคณะการจัดการกันเองมึง)
ตลอด 10 กว่าปีมานี้ที่สถาบัน “&^#@” (สรุปมันอ่านว่าอะไรกันแน่วะ) และมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ (นี่ก็ชื่อยาวจัง) ได้ร่วมกันผลิตนักศึกษากันอย่างเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่มีคุณภาพมาประดับวงการอาหาร วงการโรงแรมและธุรกิจอื่นๆกันอย่างมากมาย (ชมตัวเองอยู่)
เอาหละกลับมาที่เนื้อเรื่องหลัก หลังจากที่เพิ่งจะอกหักจากอเมริกามาได้หมาดๆ ผมก็ได้ตั้งคำถามขึ้นมาในใจ “ทำไมต้องประเทศฝรั่งเศสด้วยวะ ทำไมและเพราะอะไร” ก็เพราะว่าฝรั่งเศสมีปารีสไง เออ ใช่ ฝรั่งเศสยังมีปารีสรอเราอยู่เมืองที่มีเสน่ห์เป็นอันดับต้นๆของโลก ขนมรสเลิศอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ก็ตั้งอยู่แถวๆปารีสทั้งนั้น เสื้อผ้าไฮแบรนด์ต่างๆก็มีให้เลือกซื้อมากมายในปารีส ปารีสสสสสสจ๋า แต่ก็ตู้มม!! ฟ้าผ่าซ้ำเข้าไปแม่งที่เดิม จู่ๆเราจะมาเลือกเมืองที่จะไปฝึกงานเองสุ่มสี่สุ่มห้าสุ่มหกแบบนี้ไม่ได้มันไม่ถูกต้อง
การที่จะไปฝึกงานที่ฝรั่งเศสได้ในครั้งนั้นเราต้องผ่านการคัดเลือก คัดกรองและวิเคราะห์ตามเกรดของวิชาฝรั่งเศสที่เรียนมาโดยอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าของภาษาโดยตรงก่อนว่านักศึกษามึงจะรอดมั้ย? ถ้ากูส่งนักศึกษาไปเมืองที่มีการแข่งขันแย่งชิงดุเดือดสูงอย่างปารีสแล้วเสือกจะงอแงกลับบ้านขึ้นมาลำบากพวกกูอีกที่ต้องมาคอยตามประสานงาน (เสียงของอาจารย์ค่อยๆเฟดอินเข้ามา) ผมเห็นด้วยนะครับที่มีวิธีคัดเลือกแบบนี้ขึ้นมา ถ้าปล่อยตามใจตัวนักศึกษาแน่นอนพวกมันคงจะไปปารีสกันทั้งรุ่น คนไหนเอาชีวิตรอดก็กอบโกยประสบการณ์กันไปคนไหนเอาชีวิตไม่รอดก็สร้างความชิบหายแก่ตัวเองและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องเป็นแน่แท้
แต่เผอิญว่าเกรดวิชาฝรั่งเศสของผมที่สะสมรวมกันมา2ปีกับอีก1เทอมเนี่ยจัดได้ว่าสารเลวมากๆครับ พูดก็ไม่เป็น ฟังก็ไม่รู้เรื่อง เขียนก็ไม่ได้ อ่านก็แปลไม่ออกอีก วัดความเป็นไปได้ที่จะได้ไปปารีสนั้นติดลบครับ (ถึงน้องๆทุกคนต้องตั้งใจเรียนนะครับ เราจะได้ไปปารีสกัน)
แล้วที่เกรดกูไม่ดีเกี่ยวอะไรวะ!!!????
เอาปารีสของกูคืนมา!!!!!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in