เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
INTERNSHIT - ภารกิจฝึกงานNeiw Chayanuns Mekasut
01 : 'Imagine all of me is in ปารีส'
  • ปัจจุบันหรือสี่ปีถัดมา

    “มึงนัดกูมาแบบนี้ ต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างใช่มั้ย?”

    คำถามนี้ถูกยิงออกจากปากของเพื่อนผมทันทีที่มันเจอหน้าผมตามเวลาและสถานที่ที่เราได้นัดกันไว้เมื่อตอนต้นสัปดาห์ (จริงๆแล้วผมมาสายสัดๆทั้งที่เป็นคนนัดเอง)  ใช่ครับ โดยปกติแล้วถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรือต้องการที่จะเจอใครขึ้นมาจริงๆผมไม่มีทางนัดมันไปกินข้าวกันสองคนหรอกครับ โดยเฉพาะกับผู้ชายแล้วฝันไปเถอะ แต่ที่นัดมาแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างตามที่เพื่อนผมถามแน่ๆ

    เพื่อนผมคนนี้ชื่อ “ไปป์” (นามสมมติ) ผมขอแนะนำมันแค่นี้ก่อนนะครับเพราะว่าคงจะต้องกล่าวถึงมันจนแบบ “นี่กูต้องเขียนถึงมันอีกแล้วหรอวะเนี่ย” ในแทบจะทุกบทต่อจากนี้

    “คือกูมีปัญหาหวะ”

    “เรื่องไรวะมึง (คีบเนื้อสไลด์เข้าปาก)”

    “คือกูจะเขียนหนังสือ ขึ้นมาหวะ”

    “เอ้ย จริงดิๆ ว่าแต่เรื่องไรวะ(คีบเนื้อสไลด์อีกหนึ่งชิ้นเข้าปาก)”

    “มึงจำตอนที่เราไปฝรั่งเศสด้วยกันตอนปีสามได้ปะวะ”

    “จำไม่ค่อยได้ละหวะ ทำไมวะ?”

    “เอ้าเชี่ย!!”

    “เห้ยทำไมวะ มึงด่ากูทำไม (และมันก็คีบเนื้อสไลด์เข้าปากอีกไปอีกคำ)”

    “กูจะเขียนเรื่องที่เราไปฝึกงานกัน!”

    “เอ้าเชี่ยยยยย!!”

    สุดท้ายแล้วโปรเจคนี้ที่คาดหวังไว้ว่าจะลองเขียนดูก็ได้พังทลายลงเพราะว่าไม่มีใครสามารถที่จะจำรายละเอียดหรือใจความสำคัญอะไรได้เลย

    ล้อเล่นหนะครับ (ใครเค้าจะหลงกลมึงวะ)

    เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ คือเมื่อประมาณสามสี่ปีที่แล้วผมกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ คณะนานาชาติสาขาการจัดการโรงแรม หรืออีกชื่อนึงที่เรียกว่า “&^#@” (อ่านว่าเชี่ยไรวะนั่น)

    “&^#@” หรือ “&@*^#” เป็นสถาบันแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสที่เปิดสอนในหลักสูตรการจัดการบริหารในด้านของโรงแรม มีทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท โดยตามหลักสูตรของปริญญาตรีก็จะสอนครอบคลุมไปในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโรงแรมก็จะรวมตั้งแต่แผนกแม่บ้านยันเป็น CEO ระดับสูงเลย ส่วนทางปริญญาโทผมเองก็ไม่ทราบฮะเพราะยังไม่เคยเรียน (อ้าวอีนี่) ว่าแต่ “&^#@” เนี่ยมันมาเกี่ยวข้องอะไรคณะที่ผมเรียนอยู่กันแน่??

    สถานบัน “&^#@” เป็นสถาบันแห่งหนึ่งที่จัดว่ามีหลากหลายสาขากระจายออกไปตามที่ต่างๆทั่วโลกโดยมีความตั้งใจที่จะเปิดสอนและพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพให้กับวงการโรงแรมโดยทางสถาบันก็ได้มาเปิดอีกหนึ่งสาขาที่ประเทศไทยโดยจับมือกับทางมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์นั่นเอง


    'เอาโลโก้เค้ามาใช้โดยที่ไม่รู้ว่าจะโดนฟ้องรึเปล่า' (กลัวโดนฟ้องเลยทำการเซนเซอร์เองซะเลย)

    โดยตามหลักสูตรแล้ว นักศึกษาจะต้องออกไปฝึกงานทุกชั้นปีครับแต่ไฮไลท์มันอยู่ตรงที่พอเราขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ปีสาม ทางสถาบันได้มีนโยบายให้นักศึกษาทุกคนต้องไปฝึกงานที่ประเทศฝรั่งเศสในระยะเวลาสามเดือนด้วยกัน โดยจะจับคู่กันไปแบบบัดดี้หรือสองคนต่อหนึ่งที่ครับ แต่ในบางกรณีก็อาจจะมากกว่านั้น เช่น จัดแล้วไม่ครบคู่หรือทางโรงแรมรับมากกว่าสองคน (อารมณ์ประมาณว่าต้องไปที่ฝรั่งเศสสิจะได้สัมผัสถึงความออริจินัลของหลักสูตรจริงๆ) แต่อยู่ๆมาปีผมก็เป็นปีแรกที่สามารถให้นักศึกษาเลือกที่จะไปประเทศอเมริกาได้ ห้ะ!! นี่ไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย!? โอ้ววววว อเมริกา!! ดินแดนแห่งเสรีภาพกำลังรอเราอยู่  เปรี้ยง!! ฟ้าผ่าเข้าความฝันอันสวยงามของผม อดไปครับ “มึงมาเรียนคณะนี้ก็ต้องไปฝรั่งเศสสิวะ” พ่อไม่ให้ไป จบกันอดไปไถบอร์ดเก๋ๆที่เซนทรัลปาร์คเลย ลาก่อนนะนิวยอร์คคคคคคคของพี่

    'ไม่ได้ไปเองยืมรูปเพื่อนมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเก๋ไก๋ในเซนทรัลปาร์ค ฮืออออ'

    แต่ในปัจจุบันรู้สึกว่าทางสถาบัน “&^#@” กับทางคณะนานาชาตินั้นได้ทำการแยกทางกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสาเหตุที่ค่อนข้างคลุมเครือสร้างความระหองระแหงในจิตใจของตัวผมและเหล่าผองเพื่อนเป็นอย่างมาก (เค้าก็แค่ไม่ต่อสัญญาและหันไปจับมือกับทางคณะการจัดการกันเองมึง)

    ตลอด 10 กว่าปีมานี้ที่สถาบัน “&^#@” (สรุปมันอ่านว่าอะไรกันแน่วะ) และมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ (นี่ก็ชื่อยาวจัง) ได้ร่วมกันผลิตนักศึกษากันอย่างเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อให้ได้มาซึ่งบุคลากรที่มีคุณภาพมาประดับวงการอาหาร วงการโรงแรมและธุรกิจอื่นๆกันอย่างมากมาย (ชมตัวเองอยู่)

    เอาหละกลับมาที่เนื้อเรื่องหลัก หลังจากที่เพิ่งจะอกหักจากอเมริกามาได้หมาดๆ ผมก็ได้ตั้งคำถามขึ้นมาในใจ “ทำไมต้องประเทศฝรั่งเศสด้วยวะ ทำไมและเพราะอะไร” ก็เพราะว่าฝรั่งเศสมีปารีสไง เออ ใช่ ฝรั่งเศสยังมีปารีสรอเราอยู่เมืองที่มีเสน่ห์เป็นอันดับต้นๆของโลก ขนมรสเลิศอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ก็ตั้งอยู่แถวๆปารีสทั้งนั้น เสื้อผ้าไฮแบรนด์ต่างๆก็มีให้เลือกซื้อมากมายในปารีส ปารีสสสสสสจ๋า แต่ก็ตู้มม!! ฟ้าผ่าซ้ำเข้าไปแม่งที่เดิม จู่ๆเราจะมาเลือกเมืองที่จะไปฝึกงานเองสุ่มสี่สุ่มห้าสุ่มหกแบบนี้ไม่ได้มันไม่ถูกต้อง

    การที่จะไปฝึกงานที่ฝรั่งเศสได้ในครั้งนั้นเราต้องผ่านการคัดเลือก คัดกรองและวิเคราะห์ตามเกรดของวิชาฝรั่งเศสที่เรียนมาโดยอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าของภาษาโดยตรงก่อนว่านักศึกษามึงจะรอดมั้ย? ถ้ากูส่งนักศึกษาไปเมืองที่มีการแข่งขันแย่งชิงดุเดือดสูงอย่างปารีสแล้วเสือกจะงอแงกลับบ้านขึ้นมาลำบากพวกกูอีกที่ต้องมาคอยตามประสานงาน (เสียงของอาจารย์ค่อยๆเฟดอินเข้ามา) ผมเห็นด้วยนะครับที่มีวิธีคัดเลือกแบบนี้ขึ้นมา ถ้าปล่อยตามใจตัวนักศึกษาแน่นอนพวกมันคงจะไปปารีสกันทั้งรุ่น คนไหนเอาชีวิตรอดก็กอบโกยประสบการณ์กันไปคนไหนเอาชีวิตไม่รอดก็สร้างความชิบหายแก่ตัวเองและคนรอบข้างที่เกี่ยวข้องเป็นแน่แท้

        'สาเหตุที่อยากไปแอ่วอยู่แถวปารีสภาค 1'   

    แต่เผอิญว่าเกรดวิชาฝรั่งเศสของผมที่สะสมรวมกันมา2ปีกับอีก1เทอมเนี่ยจัดได้ว่าสารเลวมากๆครับ พูดก็ไม่เป็น ฟังก็ไม่รู้เรื่อง เขียนก็ไม่ได้ อ่านก็แปลไม่ออกอีก วัดความเป็นไปได้ที่จะได้ไปปารีสนั้นติดลบครับ (ถึงน้องๆทุกคนต้องตั้งใจเรียนนะครับ เราจะได้ไปปารีสกัน) 

       'สาเหตุที่อยากไปแอ่วอยู่แถวปารีสภาค 2'    

    ผมกับไปป์สองคนจึงโดนจัดให้ไปอยู่ เมืองต่างจังหวัดทางตอนใต้อย่างอาคาชอง (Arcachon) ครับ อยู่แถวๆเมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) เมืองที่มีสโมสรฟุตบอลนั่นแหละครับ ห่างกันแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงถ้าเดินทางโดยรถไฟ อีกทั้งบอร์กโดซ์นั้นยังเป็นเมืองที่ติดอันดับน่าท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียวคือเป็นเมืองท่องเที่ยวนั่นแหละ จะพะเน้าพะนอทำไมให้เยอะแยะและบอร์กโดซ์นั้นยังมีย่านช็อปปิ้งชิคๆ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปเดินเก๋ๆคูลๆกันได้ทั้งวัน โดยรวมแล้วเป็นเมืองที่เจริญมากๆเมืองนึงเลยก็ว่าได้ แต่ว่าไอประเทศอาคาชองอะไรของผมเนี่ยแม่งคือที่ไหนก็ไม่รู้เกิดมาก็เพิ่งจะเคยได้ยินครั้งแรก แล้วยิ่งเมืองต่างจังหวัดคนเค้ายิ่งไม่สปีคอิงลิสกันอีกไม่ใช่เรอะ!!??

    แล้วที่เกรดกูไม่ดีเกี่ยวอะไรวะ!!!????

    เอาปารีสของกูคืนมา!!!!!!


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in