เขียนโดย จิราภรณ์ วิหวา

สำนักพิมพ์ Salmon Books

ออกจะช้าไปสักหน่อยที่เพิ่งมาพูดถึงหนังสือเล่มนี้ที่นี่ในตอนนี้ แต่อย่างนั้นก็อยากจะรีวิวเก็บไว้กันลืม สำหรับสนธิสัญญาฟลามิงโกของสำนักพ์แซลมอนที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2016 เห็นปกสีชมพูฟลามิงโกมาเนิ่นนานแต่ไม่มีจังหวะและโอกาสที่จะได้อ่านสักที และแล้วเว็บมินิมอลก็จัดโปรโมชันหนังสือของแซลมอนในช่วง 8.8 เราก็ได้สอยหนังสือมาสองเล่มคือ ใต้แสงธูป และสนธิสัญญาฟลามิงโก เราหยิบมาอ่านแล้วทั้งสองเล่ม ด้วยแรงดึงดูดบางอย่างพวกมันเลยไม่ถูกจัดไปอยู่ในหมวดกองดองเหมือนเล่มอื่น ๆ ก่อนหน้านี้

สนธิสัญญาฟลามิงโก เป็นเรื่องที่ใช้สัตว์นำแสดงราวกับมันเป็นมนุษย์ สามารถพูด คิด และตัดสินใจได้แบบเดียวกัน มีทั้งฟลามิงโกผู้ลึกลับอย่างรัตติ และแมวหนุ่ม-สาวคู่หนึ่ง คือ ทอนน์และมี เลขาแพะ คุณกระต่าย และตัวอื่น ๆ 

มีและทอนน์ เป็นคู่รักที่ระหองระแหงกันมาสักระยะแล้ว พวกเขาคบกันมานานหลายปี ทะเลาะกันเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แมวสาวเบื่อที่จะต้องฟังแมวหนุ่มพูดประโยคเดิม ๆ ทุกวันช่างน่าเบื่อ เธอเป็นนักเขียนผู้ขาดแรงบันดาลใจมากพอ ๆ กับคนรักที่ขาดแพชชั่นในชีวิตคู่ กระทั่งได้พบกับรัตติ ฟลามิงโกที่เป็นซีอีโอของบริษัทที่แปรรูปความลับเป็นพลังงาน ทั้งสองคุยกันถูกคออย่างมาก มีเองก็ไม่แน่ใจว่านี่คือการจีบกันหรืออะไรแต่ทั้งคู่ก็มีคนของตัวเองอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นเธอจึงสบายใจที่จะติดต่อกับรัตติ ฟลามิงโกหนุ่มให้ข้อเสนอบางอย่างที่เย้ายวนใจแมวสาวมาก ข้อเสนอที่จะช่วยให้เธอมีแรงบันดาลใจมาเขียนหนังสืออีกครั้ง มันเกี่ยวกับความลับของสัตว์ทั้งหลาย

ความลับต่าง ๆ ดึงดูดให้มีเข้าใกล้กับเส้นแบ่งศีลธรรมมากขึ้นทุกที การล่วงรู้ความลับของสัตว์ตัวอื่นทำให้แมวสาวดำดิ่งลงไปในเรื่องราวเหล่านั้น เริ่มสับสนระหว่างความจริงกับเรื่องโป้ปด วันแล้ววันเล่า เธอทั้งไม่สบายใจ อึดอัดใจ กระทั่งได้รู้ความลับที่ทอนน์ซ่อนไว้ นั่นคือจุดแตกหักในใจของแมวสาว

ในเรื่องพูดถึงความเรียบเฉยและความหวือหวาในความสัมพันธ์ บางครั้งคนเราก็ต้องการอะไรแปลกใหม่ในชีวิตคู่ และความลับก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ แต่การมีชีวิตที่ซ้ำซากจำเจก็อาจเป็นความสงบสุขเพียงพอแล้ว ก็เหมือนกับการที่มีเบื่อทอนน์แต่เธอก็ยังคงยินดีกับการเป็นคนสำคัญของใครสักคน และทอนน์เองก็ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ แม้จะต้องทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ เขาก็ยังอยากอยู่กับแมวสาว มันคงไม่มีคำตอบที่ตายตัวสำหรับความสัมพันธ์ การจะเดินหน้าต่อหรือหยุดก็อยู่ที่ทั้งสองจะตัดสินใจ

....................................................................................................................

Photo credit :