เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Cloud flow , tears runxundae
day fifteen : someday
  • ผมต้องสารภาพก่อนว่าตนเองนั้นหลงรักในวันอาทิตย์มากแค่ไหน วันจันทร์ไม่มีความผิดใดทั้งนั้นเช่นเดียวกับวันอื่น ๆ ในสัปดาห์ ผมมักเอนอ่อนไปให้วันอาทิตย์อยู่เสมอ ยึดถือกำหนดเป็นพิเศษว่ามันมีความหมาย ดังนั้นเมื่อเรามาหยุดที่คาเฟ่ร้านเดียวกับที่ผมได้พบเธอเป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์มันจึงถือเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าหลงไหลทีเดียว ซึ่งผมจะตระหนักในภายหลังว่ามันช่างเป็นหายนะทางความรู้สึกชัด ๆ


    เรามีเรื่องคุยกันมาตลอดทางนับตั้งแต่ผมบิดกุญแจสตาร์ทรถ (ขี้เกียจขับ - พายอ้างเช่นนั้นก่อนจะเปิดประตูขึ้นนั่งข้างคนขับ) ชี้ชวนกันดูตึกราม รถรา เสาไฟฟ้า แต่ครั้นนั่งประจันหน้ากันบทสนทนากลับถูกตัดจากระบบไป เมื่อเจ้าขนมหวานถูกย้ายมวลไปอยู่ในร่างกายเราก็จนคำพูดกันขึ้นมาเฉย ๆ


    เธอบอกว่าชอบขนมปังไส้คัสตาร์ดของที่นี่มากเป็นพิเศษ - ผมรู้แน่ชัดอยู่แล้ว และนั่นเป็นหัวข้อพูดคุยล่าสุดของเรา บ่ายวันนี้เธอเลือกนั่งในมุมสุดของร้านซึ่งสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของทุกชีวิตได้ในการกวาดสายตาครั้งเดียว ผู้คนเดินเข้าออกไม่ต่ำกว่าสิบคนตั้งแต่เราหย่อนตัวลงนั่งภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ สายฝนเริ่มทิ้งตัวลงจากฟ้าแต่ยังไม่สามารถหยุดผู้คนที่จะเข้ามาได้ กาแฟร้อน ๆ เป็นตัวเลือกที่ดีเสมอสำหรับสภาพฟ้าฝนเช่นนี้และการมีเธออยู่ด้วยยิ่งควรนับเป็นเรื่องดีขึ้นไปใหญ่ แม้มันน่าอึดอัดในห้านาทีแรกแต่ครั้นเห็นเธอมีไม่มีท่าทีรำคาญใจและเราต่างก็ไม่รีบร้อน ปริมาณของเหลวในแก้วกาแฟจึงคล้ายเป็นอนันต์ ผมและเธอเพียงสลับกันยกขอบแก้วจรดริมฝีปาก สบตากันเป็นครั้งคราวโดยมีเสียงฝนเป็นพื้นหลังเช่นเคย ไม่มีสายตาของใครแวะพักที่นาฬิกาข้อมือ ราวกับมันไม่มีตัวตนอยู่ในห้วงมิตินี้



    .
    .
    .



    "ปอนด์เคยเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลบ้างไหม" เธอถาม ผมส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ


    "เราก็ยังไม่เคย แต่มีช่วงหนึ่งต้องไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลบ่อย" พายยกลาเต้ร้อนขึ้นมาถือ สองมือเกาะกุมไออุ่นจากผิวเซรามิค "น่าจะตอนปีสองหรือปีสาม ก่อนสอบมิดเทอมมีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าคนหนึ่งติดเชื้อในลำไส้ แล้วก็เพื่อนในสาขากับกับรุ่นพี่ในคณะเรารถชนในเวลาไล่เลี่ยกัน เดินเข้าออกตึกผู้ป่วยในจนเกือบจะสนิทกับพยาบาลเลยแหละ"


    "ตอนนี้ปลอดภัยดีกันทุกคนใช่ไหมครับ"


    "อื้ม แล้วรุ่นพี่คนนั้นเป็นพี่รหัสเราเอง ตอนนั้นเฟสบุ๊กยังไม่บังคับให้ใช้ชื่อจริง ยังจำตอนที่เพื่อนโทรบอกว่าพี่อยู่ห้องฉุกเฉินได้อยู่เลย เราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบตรงไปที่โรงพยาบาล ถลาเข้าไปเกาะเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แล้วก็ค้างภาพตัวเองไว้อย่างนั้น"


    เธอดื่มลาเต้ไปอีกใหญ่ อมไว้ในแก้มก่อนจะกลืนทั้งหมดลงคอ


    "ตอนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่รหัสเรามีชื่อจริงว่าอะไร ไม่มีแม้แต่พยัญชนะแรกแวบขึ้นมาในหัวเลยด้วยซ้ำ เห็นความทรงจำของกันย้อนมาเป็นฉาก ๆ มานึกดูตอนนี้ก็ประหลาดดี"


    "ผมหายไข้แล้วนะครับ เผื่อกำลังกังวลอยู่"


    "เรื่องนั้นก็นิดหน่อย สำคัญคือยังมีเวลาให้บอกลาต่างหาก"


    "คงไม่ใช่แค่อุบัติเหตุหรือโรคร้ายที่ทำให้ใครจากไปเท่านั้นหรอกครับ บางทีคนเราก็จากกันไปทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่"


    เราสบตากันเงียบงัน


    "ผมไม่รู้นะครับว่าระหว่างจากกันไปช้า ๆ หรือลาไปแบบฉับพลันอย่างไหนที่แย่กว่ากัน ไม่ว่าจะมีโอกาสลาหรือไม่ผมก็เห็นว่ามันแย่ทั้งคู่ ลงท้ายแล้วเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี"


    "จริงด้วยซิเนอะ" เธอเอ่ยเสียงค่อย หลุบตามองต่ำ เสียงกรุ๊งกริ๊งดังมาจากประตูทุกหนที่มีคนเข้าออก ฝนยังโปรยลงมาไม่ขาดสายตอนที่ถ้วยกาแฟของเราว่างเปล่า



    จนกว่าความทรงจำนี้จะจากไป
    เวลานั้นผมและพายไม่รู้ว่าเราจะยังเคียงข้างกันอยู่หรือไม่





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in