ในนวนิยายเล่มหนึ่ง ผมเจอความทรงจำของเธอซุกซ่อนอยู่ในนั้น
ตลอดสองเดือนผมอ่านหนังสือไปร่วมสิบกว่าเล่มแล้ว ฟังดูเหลือเชื่อ ผมเองก็แทบไม่เชื่อตัวเองเช่นกัน แม้จะถูกวางซ้อนกันเป็นตั้งบนพื้นห้องแต่ทุกเล่มล้วนสะอาดเรียบร้อยในสภาพดี ไม่นับฝุ่นจากกาลเวลาในช่วงวันแรก ๆ ที่ผมเข้ามาอาศัย คอนโดหนังสือหลายสิบเล่มเรียงติดผนังกันเป็นแถวทั้งหมดเจ็ดตั้ง ที่เล่มล่าง ๆ ของแต่ละชั้นมักเป็นหนังสือภาพและหนังสือดีไซน์ที่มีขนาดใหญ่ จากนั้นขนาดของมันจึงลดหลั่นขึ้นมาเป็นหนังสือเล่มจิ๋วที่วางอยู่บนสุด ไม่มีเล่มไหนถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกแต่สภาพหน้าปกยังคงเรียบ กระดาษทุกหน้าไม่มีรอยยับรอยพับราวกับทุกเล่มยังเป็นหนังสือใหม่ที่ไม่เคยถูกเปิดอ่านมาก่อนยังไงยังงั้น
สิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่ามันเคยผ่านมือเจ้าของมาแล้วคือใบเสร็จจากร้านสะดวกซื้อ ตั๋วภาพยนตร์ ตั๋วเครื่องบิน มีสามสิ่งนี้ที่มักคั่นอยู่ระหว่างกระดาษแต่ละหน้าที่พลิกผ่าน มันกลายเป็นเกมส์ใหม่ที่ผมเริ่มกำหนดให้ตัวเอง คาดเดาว่าหนังสือจะถูกแทรงแซงด้วยอะไร ใบเสร็จเป็นสิ่งแรกที่ถูกพบเป็นจำนวนมากที่สุดโดยเฉพาะในหนังสือนิยายสืบสวนที่ผมหยิบอ่านเป็นเล่มที่สาม ในทุกเหตุการณ์น่าสงสัยที่ดำเนินในเรื่อง ผมเจอตั๋วภาพยนตร์สี่ใบจากหนังสือทั้งหมดที่อ่าน มันถูกคั่นอยู่ในนวนิยายและวรรณกรรมเยาวชนที่มีทิศทางเนื้อหาสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าภาพยนตร์แต่ละเรื่องก็เช่นกัน ที่น่าแปลกคือตั๋วเครื่องบินที่ผมพบ ทั้งสองใบเป็นตั๋วขาออกจากเชียงใหม่ทั้งคู่และยังไม่พบตั๋วขากลับ นอกจากนั้นแล้วทุกเล่มนั้นมีลักษณะภายนอกเดียวกันคือใหม่เอี่ยม เหมือนเพิ่งหยิบออกจากร้าน ปราศจากรอยช้ำบนปก ขอบหนังสือเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีรอยหมึกและดินสอขีดเขียน - ยกเว้นเล่มนี้
อาจมีหนังสือเล่มอื่นอีกเพียงแต่ผมยังไม่ค้นพบ นวนิยาย พิพิธภัณฑ์เสียง จึงนับเป็นเล่มแรกที่เจอว่ามีถ้อยคำถูกขีดเส้นใต้ไว้ด้วยปากกาสีฟ้า จะด้วยมันถูกใจหญิงสาวหรือเพราะเหตุผลอันใดก็ตามแต่ เส้นตรงถูกวาดด้วยน้ำหนักคงที่ ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดอื่น แค่เป็นการเน้นย้ำข้อความเท่านั้น
" เวลาเรารักใครมาก ๆ วิสัยทัศน์เรามักจะคับแคบ จินตนาการไม่ออกหรอกว่าถ้าเธอสูญหายไป
ไปมีคนอื่นหรือตายจากไป เราจะอยู่อย่างไร แต่นั่นล่ะ จนกว่าเราจะได้ประสบกับตัวเองจริง ๆ ถึงได้รู้ ชีวิตมันต้องเดินต่อไป " (จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์. 2013 : 69)
อาจเป็นฝีมือเพื่อนหรือใครซักคนที่พายยื่นหนังสือให้หยิบยืมแต่เมื่ออ่านต่อเนื่องไปผมจึงเจอเส้นตรงสีฟ้าอีกเป็นครั้งที่สองและสามตามมาติด ๆ พร้อมกับลายมือที่เขียนด้วยปากกาสีเดียวกันทำให้ผมคิดว่านี่ต้องเป็นเธอไม่ผิดแน่ ข้อความที่ถูกขีดไว้ระบุว่า
" ฉันนั่งร้องไห้เพราะถึงที่สุดแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะหลุดจากวงโคจรจากเขาไป
ไม่สิ คล้ายว่าฉันเองไม่มีแรงจูงใจอยากโคจรรอบเขาอีกแล้วมากกว่า ... " (p.104)
ใต้บรรทัดดังกล่าว ตัวหนังสือภาษาไทยที่ไม่มีหัวถูกเขียนไว้อย่างเรียบร้อย
กลับไปที่โลก - penguin villa
PP
ผมทึกทักเอาเองจากภาพพิมพ์ที่ยังเหลืออยู่บนผนัง ที่มุมล่างขวาของทุกกรอบมีตัวพีสองตัวบรรจุเคียงข้างกันเช่นเดียวกับประโยคในหนังสือ ดังนั้นตัวอักษรภาษาอังกฤษนี้ต้องหมายถึงชื่อเธอเป็นแน่ อย่างไรก็ตามผมไม่ได้เอ่ยถามว่านั่นเป็นตัวย่อของพายใช่หรือไม่เมื่อเราโทรศัพท์คุยกันเมื่อตอนบ่ายของวันนีี้คำถามที่ได้รับคำตอบคือ Penguin villa เป็นวงโปรดของเธอและวันต่อไปพายยังมีธุระต้องจัดการอีกทำให้พวกเขาอาจได้พบกันอีกครั้งในวันพฤหัสบดีก็เท่านั้น
.
.
.
ผมหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นมาอ่านบนเตียง ไม่พบหมึกสีฟ้าอีกไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบหน้าจนเรื่องราวในนวนิยายดำเนินมาใกล้จะถึงตอนท้าย ระหว่างกระดาษสองแผ่นนั้นมีรูปถ่ายโพลารอยด์คั่นตรงกลาง มีเส้นตรงอีกห้าเส้นในหน้าเดียวกันแต่ไม่ดึงดูดเท่าคนในภาพ เด็กสาวผมสั้นกุดยิ้มยิงฟันจนตาหยีให้กับกล้อง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทา มีพื้นหลังเป็นกำแพงอิฐมอญที่ไม่ถูกฉาบปูน ลงวันเดือนและปีสองพันสิบสอง - พายเมื่อห้าปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์เสียง ถูกตีพิมพ์ในปีสองพันสิบสาม รูปคงถูกนำมาคั่นภายหลัง รอยยิ้มของเธอยังเหมือนเดิมไม่มีผิด มันสดใสเหมือนฤดูร้อน ราวกับไม่เคยมีวันฝนตกในโลกของเธอ ยิ้มแบบเดียวกันปรากฏบนใบหน้าหญิงสาวที่เติบโตขึ้น ผมยาวขึ้น มอบให้ผมในระหว่างพายุหลายวันที่ได้พบกัน เขาเองข้องใจเช่นกันว่าเหตุใดเมื่อสองคนเคียงไหล่ถึงมีฝนตกตลอดเวลา ครั้นโทษลมโทษฝนไปก็ไม่มีประโยชน์ในเดือนตุลาคมผมจึงเลือกปิดตาลงเสีย
คืนนั้นผมนอนหลับไปโดยยังไม่เอะใจซักนิดว่าใครเป็นตากล้องที่ลั่นชัตเตอร์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in