เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Once in Glacier National Parkleedeepk
Get to know each other
  • เห้ย! กี่โมงแล้ววะเนี่ย

    เราสะดุ้งตื่นมาช่วงห้าโมงเย็นซึ่งเลทจากเวลานัดไปเกือบสองชั่วโมงได้ หลังจากรีบสวมเสื้อกันหนาวขนเป็ดแล้ววิ่งออกจากหอหญิงไป EDR เราได้ยินเสียงสัตว์อะไรสักอย่าง

    'ปี๊บ... ปี๊บ.. ปี๊บ..'
    ตัวอะไรหว่า
    สังเกตเห็นบนพื้นดินรอบ ๆ โรงแรมและหอพัก จะมีรูกระจายอยู่ทั่ว ยืนนิ่ง ๆ ดูสักพักจึงเริ่มเห็นว่ามีเจ้าของรูค่อย ๆ โผล่ออกมา

    หนูหรอวะ หรือกระรอก ไม่เคยเห็นเลย

    สิ่งมีชีวิตมีขนตัวเล็ก ๆ รูปร่างคุ้นเคย แต่ไม่สามารถชี้ตัวได้ว่าคือสัตว์ชนิดไหนเดินออกมาจากรูอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เราที่ชอบสัตว์อยู่แล้วอยากจะเดินไปลูบมาก แต่นายจ้างและป้ายรอบโรงแรมบอกไว้ชัดเจนว่า Do not feed wildlife. จึงทำได้แค่ยืนมอง ผ่านไปพักใหญ่เจ้าของรูแต่ละรูเริ่มยืนประจำที่อีกครั้ง แล้วส่งเสียงเหมือนเดิม

    'ปี๊บ... ปี๊บ.. ปี๊บ..'
    เมื่อยืนชมสัตว์ปริศนาจนหนำใจแล้ว เรากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาโจแต่โดนเรียกเสียก่อน

    " แก นี่รูมเมทเค้า เป็นคนโดมินิกัน ชื่ออลิสัน "
    โจที่นั่งเล่นอยู่หน้าหอพักชายข้าง EDR ตะโกนเรียกเรา ข้าง ๆ เป็นผู้ชายหน้าตาคมเข้ม ตากลมโต ไว้เคราเป็นทรงสวย 
    " Hello Alison! It's Leedee from Thailand. "
    " Gu Na Ma "
    หาาาาาา ภาษาอะไรเนี่ย ฟังยังไงก็ได้ยินเป็น 'กู หน้า หมา'

    " What? I'm sorry. Can you say that again? "
    " Gu Na Ma. Tan told me this word means 'I am handsome' in Thai. "

    มึงโดนเล่นแล้วอลิสัน

    ตาลเป็นเพื่อนคนไทยที่มาถึงเป็นกลุ่มแรก ๆ ซึ่งตาลจะคอยอัพเดตข่าวคราวและสถานการณ์ลงในไลน์กลุ่มเด็กเกลเช่ออยู่เสมอเพื่อให้กลุ่มที่มาทีหลังได้เตรียมตัวหรือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์ที่ตาลอยู่ที่เลคแมค ซึ่งมากพอที่จะทำความรู้จักกับเด็ก WAT จากประเทศอื่น ๆ ที่มาทำงานในเวลาไล่เลี่ยกัน

    " Oh... Alison... Well... Nice to meet you! "

    มาเคลียร์กันเองแล้วกันนะเพื่อน

    ก่อนพวกเราจะลุกไปกินข้าวเย็นกันที่ EDR ตาลกระโดดลงมาจากรถตู้สีขาวพร้อมกระเป๋าเป้คู่ใจ 

    " หวัดดี "
    " หวัดดี ๆ ตาลใช่มั้ย เราลีดี ส่วนนี่โจนะ ที่เคยคุยกันในกลุ่ม "
    " เออ ปะมึง ไปกินข้าว เดี๋ยวเราพาไปรู้จักคนอื่น "

    ตาลเดินนำเรา โจ และอลิสันไปยัง EDR โดยตาลเล่าว่าตาลได้ตำแหน่ง Room Attendant นี่ล่ะ แต่ตาลมาถึงที่นี่เร็ว ทางนายจ้างเลยให้ไปทำงานที่ Apgar Village ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริม Lake McDonald ฝั่งตะวันตก สามารถนั่งรถจาก Lake McDonald Lodge ไปได้เพียง 15 นาที ตาลยังบอกเราด้วยว่ารูมเมทเราก็ทำงานกับตาลนี่ล่ะ 

    " เมทแกสวยมาก "
    ตาลทิ้งท้ายไว้สั้น ๆ

    เปิดประตูเข้ามาที่ EDR ฝั่งขวามีโต๊ะพูลขนาดใหญ่ ส่วนฝั่งซ้ายมีโทรทัศน์และโซฟาให้นั่งพักผ่อน เดินตรงมาเรื่อย ๆ มีโต๊ะยาวปูผ้าลายสก็อตสีขาวแดงและเก้าอี้จำนวนมาก เริ่มมีพนักงานเข้ามารับประทานอาหารเย็นบ้างแล้ว ตาลจึงบอกให้พวกเรารีบจับจองที่นั่งก่อนเดินไปตักอาหาร

    เราเดินตามตาลเข้าไปด้านใน เห็น fountain drink, ตู้นม และตู้ซีเรียล เหมือนที่ตาลส่งให้ดูในไลน์ไม่มีผิด แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ

    มีสลัดบาร์!

    ไข่นกกระทาต้ม ผักสลัด พริกหยวก แครอท น้ำสลัด ฯลฯ วางกระจายตามหลุมอย่างเป็นระเบียบ นี่มันสวรรค์ชัด ๆ ตาลบอกให้เราไปเลือกอาหารก่อนค่อยมาตักสลัดบาร์ เพราะหากอาหารหมดเราจะไม่สามารถเลือกได้แล้ว บาร์อาหารจะอยู่ในตู้กระจกเหมือนข้าวแกงร้านป้าร้านลุง โดยจะมีเชฟประจำ EDR หรือ EDR Attendant คอยตักอาหารให้พวกเรา วันแรกที่เราไป เจอเชฟรูปร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดเข้ม ชื่อโฮเวิร์ต

    " Hello, I want fried chicken. "
    เราบอกโฮเวิร์ตไปแบบกล้า ๆ กลัว ๆ

    ระหว่างนั่งกินข้าว ตาลชี้ให้เราดูริน่า รูมเมทชาวรัสเซียที่ตาลบอกว่าสวยมาก 

    สวยจริง!

    ริน่าไว้ผมยาวตรงสีบลอนด์เข้ม ปากนิดจมูกหน่อย ตาหวาน กำลังนั่งกินอาหารเย็นอย่างเรียบร้อย เรายังไม่ได้เดินไปทักริน่าในทันที แต่ตั้งใจกินข้าวและสังเกตการณ์บรรยากาศรอบข้าง เพื่อนคนไทยเริ่มเข้ามาร่วมวงรับประทานอาหารเราบ้างแล้ว บ้างก็เป็นช่วงพักกินข้าวจากครัวกะเย็น บ้างก็อาบน้ำแต่งตัวหลังจากผ่านวันหนัก ๆ มาเรียบร้อยแล้ว 

    มิน สาวไทยจากมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือของไทยผู้ที่ยังอยู่ในยูนิฟอร์มครัวแชร์ให้เราฟังว่าตนทำงานเป็น Prep Cook โดยมีหน้าที่หลักคือเตรียมวัตถุดิบ เตรียมอาหาร เพื่อให้สามารถรันครัวต่อไปได้ บางทีก็ไปเป็น Line Cook ช่วยปรุงอาหารหน้าเตา ในครัวจะมีทั้งชาวอเมริกัน โดมินิกัน ฟิลิปปินส์ และไทย โดยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนตามตาราง แต่หากว่างจากงานประจำตัวเองพวกเราก็จะช่วยกันทำงานของแต่ละคนให้เสร็จ เพราะครัวต้องรันเป็นทีมเสมอ

    เริ่มง่วงอีกแล้วหรือนี่คืออาการเจ็ทแล็กจริง ๆ นะ เราที่เข้าใจว่าตัวเองเป็นเด็กอนามัยมาตลอด 4 วันในอเมริกาเริ่มเอะใจแล้วว่านี่คงเป็นอาการเจ็ทแล็กของตัวเองทยอยบอกลาเพื่อน ๆ เพื่อเตรียมเดินไปเข้านอน

    เปิดประตูห้องเข้าไปเจอริน่า ริน่าเล่าว่าตัวเองเป็นคนรัสเซียแต่แม่ได้กรีนการ์ดมาอยู่อเมริกา ส่วนริน่ากำลังดำเนินการขอกรีนการ์ดตามแม่เพื่อจะได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราแนะนำตัวคร่าว ๆ ก่อนจะแยกย้ายกัน ริน่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังจะไป EDR อีกรอบเพื่อแฮงก์เอาท์กับเพื่อน ๆ รอบดึก ส่วนเราเตรียมเข้านอนแล้ว 

    ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีของเรานะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in