"เจ้าไม่ชอบหนังสือหรือ?"
แมวลายส้มตัวนั้นถาม นัตสึกิ รินทาโร่
.
เป็นคำถามที่เหมือนจะถามกลับมายังเราด้วย...
เราที่ถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ
1
นัตสึกิ รินทาโร่ เด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาติดจะดูเงียบขรึมเก็บตัว เพิ่งสูญเสียปู่ผู้เป็นเจ้าของร้านหนังสือเก่าไปอย่างกะทันหัน ในระหว่างที่กำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรต่อไปนั่นเอง แมวลายส้มพูดได้ตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในร้านหนังสือ พร้อมบอก "ข้าขอยืมพลังของเจ้า" เพื่อช่วยเหลือ "หนังสือ" ให้รอดพ้นเงื้อมมือของ "ศัตรู"
แมวลายส้มพาเด็กหนุ่มเดินทางไปยัง "เขาวงกต" เพื่อช่วยเหลือหนังสือเหล่านั้น
เขาวงกตแห่งที่หนึ่ง - ผู้กักขัง
เขาวงกตแห่งที่สอง - ผู้ตัดฉับ
เขาวงกตแห่งที่สาม - ผู้ขายดี
และ
เขาวงกตแห่งที่สี่ - แห่งสุดท้าย
ภารกิจการช่วยเหลือหนังสือของเด็กหนุ่มผู้รักหนังสือ นำพาโดยแมวลายส้มลึกลับใน
"ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ" เขียนโดย
นัตสึคาวะ โซสุเกะ หนังสือที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ Japan Bookseller Award และแปลเป็นภาษาอื่นมาแล้วกว่า 15 ภาษา
2
เมื่ออ่านโปรยและเรื่องย่อโดยผิวเผิน หนังสือเล่มนี้ดูคล้ายนิยายแฟนตาซีที่มีธีมเป็น "หนังสือ" และมี "แมว" เป็นตัวละครหนึ่งอย่างที่นิยมนำเสนอกันในช่วงหลัง ดูอ่านง่ายและน่าจะอ่านได้ในวันสบายๆ
แต่ทันทีที่แมวลายส้มพารินทาโร่ไปถึงเขาวงกตแห่งแรก หนังสือเล่มนี้ก็เริ่มแสดงท่าทีที่แท้จริงของมันออกมาให้เห็น และยิ่งเดินทางไปยังเขาวงกตต่อๆ ไป ก็ยิ่งชวนให้ขบคิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างห้ามไม่ได้
เปลือกแฟนตาซีห่อหุ้มการวิพากษ์พฤติกรรมการอ่าน, การผลิตงานเขียน รวมไปถึงวงการหนังสืออย่างตรงไปตรงมาผ่านการโต้ตอบระหว่างรินทาโร่และเจ้าแห่งเขาวงกต
อ่านปริมาณมากเพื่อประดับประดาและโอ้อวดตัวหรือไม่
อ่านให้เร็วที่สุดโดยลืมละเลียดความสวยงามของงานเขียนหรือเปล่า
เขียนให้สั้นกระชับอ่านง่ายโดยทอดทิ้งความหมายลึกซึ้งระหว่างบรรทัดไปจะดีหรือ
ผลิตหนังสือขายดีแต่แน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือหนังสือทีดี
และ
พลังที่แท้จริงของหนังสือคืออะไรกันแน่
ขณะลากสายตาผ่านตัวอักษร คำถามเหล่านี้และมากมายกว่านี้ถูกโยนใส่ผู้อ่านอย่างเราเรื่อยๆ การหยุดอ่านเป็นระยะและจมจ่อมกับการหาคำตอบให้ตัวเองถือเป็นประสบการณ์ที่หนังสือไม่กี่เล่มจะมอบให้เราได้
ทว่า สิ่งที่คนในเขาวงกตคิดไว้เป็นเรื่องผิดจริงหรือ ความรักหนังสือของรินทาโร่เอาชนะทุกอย่างได้แน่หรือ...
3
"ในคำพูดของเขามีความจริงอยู่"
รินทาโร่ตอบแมวลายส้มเช่นนั้นขณะกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งเขาวงกต
การอ่านหนังสือเล่มนี้ชวนให้นึกถึงการอ่านหนังสือนิยายปรัชญาที่มีตัวละครมานั่งถามตอบถกเถียงความคิดและจุดยืนของตัวเอง โดยท้ายที่สุดก็ไม่ชี้ชัดหรอกว่าอะไรคือถูกผิด และยังคงปล่อยให้เป็นปัญหาปลายเปิดเช่นนั้นต่อไป
หากจุดยืนของผู้เขียนที่มีต่อการอ่านและหนังสือคือความคิดของรินทาโร่ สิ่งที่เขาปะทะด้วยในเขาวงกตคือความใหม่ในโลกที่วงการหนังสือกำลังปรับตัวเพื่ออยู่รอด
เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่เจ้าแห่งเขาวงกตพูดถึงการอ่านและหนังสือเป็นความจริง แม้เจ็บปวด แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ก็คือความจริง
การปะทะกันของความคิดทั้งสองฝั่งนั้นไม่มีใครผิดหรือถูกต้องทั้งหมด นอกจากนี้ "ความจริง" ที่อยู่ในทั้งสองฝั่งของความคิดนั้นก็มีอยู่จริง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ก่อนรินทาโร่จะยืนยันความคิดของเขา เขามักบอกว่า "ผมไม่รู้"
เขาไม่รู้หรอกว่าถูกหรือผิดคืออะไร เขาเพียงแต่บอกว่านี่คือความคิดของคนรักหนังสืออย่างเขา ถ้าเจ้าแห่งเขาวงกตยอมรับว่ามันมีส่วนถูกก็ควรปลดปล่อยหนังสือให้เป็นอิสระก็เท่านั้น
เจ้าแห่งเขาวงกตจะทำแบบเดิมต่อไปก็ใช่ว่าจะผิด แต่ถ้าจะหันกลับมาคำนึงถึงหัวใจของหนังสืออีกครั้งก็อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้
การปลดปล่อยหนังสือในที่นี้แท้จริงอาจไม่ใช่แค่หนังสือเท่านั้นที่เป็นอิสระ แต่เป็นหัวใจของนักอ่าน นักเขียน และคนในวงการหนังสือด้วยเช่นกัน
4
"เธอชอบหนังสือหรือ"
คำถามที่คนในเขาวงกตถาม นัตสึกิ รินทาโร่
.
เป็นคำถามที่เหมือนจะถามกลับมายังเราด้วย...
เราที่ถือหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือ
ส่วนคำตอบนั้น... ก็แล้วแต่เรานั่นละ
มีน เกวลิน.
-------------------------------------------------------------------------
Title: ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ Author: นัตสึคาวะ โซสุเกะ
Translator: ฉัตรขวัญ อดิศัย
Publisher: Bibli
ISBN: 978-616-93525-3-2
-------------------------------------------------------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in