ปกติแล้วเราไม่ค่อยอ่านคอลัมน์ดูดวงรายสัปดาห์หรือรายเดือนตามเว็บไซต์หรือนิตยสารเท่าไหร่ค่ะ แต่มีคอลัมน์ดูดวงประจำสัปดาห์ที่มาทุกวันจันทร์ของ Vogue Girl ญี่ปุ่นคอลัมน์หนึ่งที่เราติดตามอ่านอยู่ตลอดค่ะ คอลัมน์นี้ชื่อ "しいたけ占い" (Shiitake Uranai) ในที่นี้เราจะขอเรียกเขาว่า "คุณเห็ดทำนาย" นะคะ

     คอลัมน์คุณเห็ดทำนายจะทำนายดวงรายสัปดาห์ตามแต่ละราศีค่ะ (เป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ) ซึ่งสิ่งที่ทำให้เราชอบคอลัมน์คุณเห็ดทำนายมากก็เป็นเพราะวิธีการใช้คำหรือเขียนคำทำนายของเขาค่ะ เขาจะไม่ได้บอกแค่ว่าสัปดาห์นี้เราจะเจอกับอะไร แต่เขามักแทรกด้วยว่าพื้นฐานนิสัยของราศีนั้นๆ และควรทำยังไงหากเกิดสถานการณ์อย่างนี้ขึ้น นอกจากนี้น้ำเสียงการเขียนของเขายังอ่านแล้วสบายใจ เหมือนมีเพื่อนคอยบอกว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้และไม่เป็นไรหรอกหากมันจะเกิดขึ้นบ้างและเธอต้องผ่านไปได้

     และวันก่อนเราบังเอิญเจอหนังสือ しいたけ占い：12星座の蜜と毒 ในร้านหนังสือมือสองซึ่งคุณเห็ดเจ้าของคอลัมน์คุณเห็ดทำนายเป็นคนเขียน เราเลยซื้อมาเพราะสนใจมากว่าเขาเขียนเกี่ยวกับแต่ละราศียังไง แม้หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ปลายปี 2017 เพื่อทำนายภาพรวมของแต่ละราศีในปี 2018 แต่เรารู้สึกว่าเนื้อหาและอะไรดีๆ ของเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่ดวงในปีนั้นเลยอยากหยิบส่วนนั้นมาเล่าให้ฟังค่ะ

2
     しいたけ占い：12星座の蜜と毒 (Shiitake Uranai: 12 Seiza no Mitsu to Doku) แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวได้ว่า "คุณเห็ดทำนาย : น้ำผึ้งและยาพิษของ 12 ราศี" และโปรยหน้าปกหนังสือว่า "เรียนรู้ 'น้ำผึ้งและยาพิษ' ของตัวเอง แล้วทำให้ดวงมาอยู่ข้างเรา!"

     คุณเห็ดให้คำนิยาม 'น้ำผึ้ง' ว่าคือ ข้อดี, เสน่ห์, ด้านดีที่แสดงออก และด้านที่มีชีวิตชีวาของคนคนนั้น เป็นสิ่งที่แม้ไม่ได้ตั้งใจทำแต่ก็แสดงออกมาได้โดยไม่ฝืน มีหรือเป็นอยู่โดยธรรมชาติ พูดง่ายๆ ก็คือ 'จุดแข็ง' ของคนคนนั้นล่ะค่ะ

     ส่วน 'ยาพิษ' คือ 'จุดอ่อน' ค่ะ ข้อเสีย, ด้านที่พอแสดงออกมาเมื่อไหร่ก็ทำให้เจ้าตัวรู้สึกห่อเหี่ยวหมดกำลังใจ และปมด้อยต่างๆ หรือเป็นสิ่งที่ต่อให้พยายามทำแค่ไหนก็ไม่ราบรื่นหรือได้ผลดีสักที

     คุณเห็ดบอกว่า หากใช้ 'น้ำผึ้ง' และ 'ยาพิษ' ที่เป็นอัตลักษณ์ส่วนบุคคลให้ดี เราก็จะรู้จักการใช้ชีวิตให้ลึกซึ้งขึ้นค่ะ

     ใช่ว่า 'น้ำผึ้ง' มีแต่ข้อดีอย่างเดียวหรือ 'ยาพิษ' จะน่ากลัว แต่หากใช้ยาพิษให้พอดีมันก็จะกลายเป็นยาได้ และหากกินน้ำผึ้งมากเกินไปก็จะแน่นหน้าอกได้ ดังนั้นการทำความรู้จักทั้งสองสิ่งนี้ของตัวเองให้ดี แล้วอาจสามารถเปลี่ยนเรื่องต่างๆ ให้เป็นบวกได้

     ในความเห็นของคุณเห็ด เขาบอกว่านิสัยที่เหมือน 'ยาพิษ' ของแต่ละคนที่จริงแล้วอาจเป็นจุดที่ซ่อนเสน่ห์และปมด้อยก็เป็นตัวตนที่แท้จริงของคนคนนั้น เราทุกคนมีนิสัยหรือพฤติกรรมบางอย่างที่น่ารำคาญอยู่แล้ว เราไม่ควรทิ้งหรือมองข้าม 'ยาพิษ' ที่ว่านี้ไป ลองหัวเราะไปกับมันดูอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ 

     คุณเห็ดเพิ่มเติมว่าจากที่เขาเป็นนักทำนายดวงชะตามา เขาพบว่าคนเรามักแยกออกได้เป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือ "คนที่รู้จักใช้เสน่ห์ของตัวเองอย่างเต็มที่แม้จะไม่มีใครบอกเขาก็ตาม" และ "คนที่ท้อแท้แล้วบอกว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์อะไรเลย" แต่ไม่ว่าจะเป็นคนประเภทไหนก็ตาม ทุกคนล้วนแต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองทั้งสิ้น

     แน่นอนว่าอาจมีบางคนดวงดี ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้ 'น้ำผึ้ง' ของตัวเองอย่างเต็มที่ มีชีวิตที่มีทั้งความพึงพอใจและความมั่นใจในตัวเอง ยิ่งตอนนี้ทุกคนต่างโชว์ด้านดีๆ ของตัวเองผ่าน SNS กันอยู่ตลอด ทำให้การเป็นคนคิดบวกกลายเป็นมารยาทอย่างหนึ่งในการแสดงออกต่อผู้อื่น จนถึงตัวเองจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่สามารถบอกออกไปได้ ได้แต่พูดว่า "ไม่เป็นไร" เท่านั้น เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าเราจะไม่เหนื่อยจากการเป็นคนสมบูรณ์แบบตลอดเวลาในสายตาคนอื่น

     ซึ่งคุณเห็ดบอกว่าการมองโลกในแง่ดีแบบนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่เขารู้สึกว่าหากทุกคนผ่อนคลายลงบ้าง หัวเราะแล้วยอมรับส่วนที่เป็น "ยาพิษ" ของตัวเอง ทุกคนก็อาจใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างสบายใจ 

3

     สำหรับบางคนอาจอ่านแล้วดูเหมือนว่าเป็นการมองโลกในแง่ดีมากจนโลกสวย แต่สำหรับเราแล้วตัวอักษรที่คุณเห็ดร้อยเรียงค่อนข้างเยียวยาใจและจริงอยู่มากค่ะ

     ในฐานะของคนที่ตัดสินใจเผชิญหน้ากับทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเอง การรู้จักทั้ง 'น้ำผึ้ง' และ 'ยาพิษ' ของตัวเองและยอมรับว่ามีมันอยู่ในตัวทำให้เรารู้สึกชอบตัวเองในวันนี้มากกว่าเมื่อวานเสมอ

     เรารู้สึกว่าหากเราชอบตัวเองในปัจจุบันมากกว่าตัวเองในอดีต มันหมายความว่าเราเติบโตและดีขึ้นในบางอย่าง เป็นตัวเองเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อวาน ซึ่งบางครั้งอาจไม่ดีกับคนที่คาดหวังให้เราเหมือนเดิมตลอดไป แต่ดีกว่าสำหรับตัวเองและคนที่อยู่ใกล้ใจเรามากพอแน่ๆ

     เหมือนที่คุณเห็ดบอก ถ้าเรารู้และยอมรับ 'ยาพิษ' หรือข้อเสียของตัวเอง เราอาจใช้จุดด้อยของตัวเองให้เป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ได้ ตีลังกามองในมุมใหม่ จับมันแต่งตัวให้เหมาะสมและใช้มันให้ถูกกาลเทศะ 'พิษ' ก็กลายเป็น 'ยารักษา' ได้ แล้วเราก็อาจป้องกันบางสิ่งบางอย่างให้ไม่เกิดขึ้นเพราะปมด้อยของเราได้เช่นกัน

     ส่วน 'น้ำผึ้ง' ในตัวเรานั้นมีข้อดีอยู่แล้วแน่ๆ เพราะมันคือสิ่งที่เราทำได้ดีและบางทีต่อให้ไม่ได้พยายามมากมายอะไรมันก็ประสบความสำเร็จได้ แต่บางทีความง่ายดายหรือราบรื่นเกินไปอาจทำให้เรามองข้ามอะไรบางอย่างที่สำคัญและส่งผลเสียในท้ายที่สุดได้เช่นกัน

     การกินของหวานปริมาณพอเหมาะและการกินยาขมบ้างในบางเวลาทำให้ร่างกายเราแข็งแรง
     สุขภาพใจเราก็เช่นกันค่ะ

4
     แล้ว 'น้ำผึ้ง' กับ 'ยาพิษ' มันมาเกี่ยวกับการทำนายดวงชะตายังไงล่ะ?
     จากที่เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้และติดตามอ่านคอลัมน์ทำนายดวงประจำสัปดาห์ของคุณเห็ด รวมถึงในฐานะของคนที่เรียนรู้การอ่านไพ่ Tarot และอ่านลายมือ เรายิ่งรู้สึกว่า 'น้ำผึ้ง' กับ 'ยาพิษ' เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องเรียนรู้ค่ะ

     การอ่านดวงชะตาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอนาคตเท่านั้น หลังจากอ่านดวงชะตาแล้วมันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเองเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

     ดังนั้นหลังจากรู้ว่าชีวิตช่วงนี้มีแนวโน้มอะไรกำลังจะเกิดขึ้น การใช้ข้อดีกับข้อเสียของตัวเองจัดการกับมันถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการเชื่อทุกอย่างที่หมอดูบอกค่ะ (เขียนอย่างนี้แล้วจะยังมีใครอยากดูดวงกับเรารึเปล่าเนี่ย? >> IG รับอ่านไพ่และอ่านลายมือของเราค่ะ Read Ura Tarot & Palmistry ไทด์อินกันดื้อๆเลยนี่ล่ะ?)
.

.
     ครั้งนี้เราขอเขียนถึงแค่เนื้อความในส่วนนี้ค่ะ เรายังไม่ได้แปลเนื้อหาว่า 'น้ำผึ้ง' กับ 'ยาพิษ' ของแต่ละราศีมีอะไรบ้าง (อาจจะแปลหรือไม่แปลต้องขอดูเวลาชีวิตตัวเองก่อนค่ะ และถ้าแปลอาจใช้เป็นคอนเทนต์ในIGค่ะ)

     แต่ถ้าใครอยากหา 'น้ำผึ้ง' กับ 'ยาพิษ' ของตัวเอง อาจเริ่มต้นง่ายๆ จากการอยู่กับตัวเอง ถามตัวเองและยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่านิสัยดีและนิสัยเสียของตัวเองคืออะไร
     เราว่าอาจจะเจออะไรดีๆ ก็ได้ค่ะ?

มีน เกวลิน.

Title: しいたけ占い 12星座の蜜と毒

Author: しいたけ占い

-------------------------------------------------------------------------