เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
weeklycats’ diaryweeklycats
Bubble (2022) #NetflixReview
  • พอดูเรื่อง Bubble ใน Netflix จบแล้วก็รู้สึกว่าอยากเขียนถึงมันสักหน่อย (ระวังสปอยล์)

    อนิเมะเรื่องนี้เป็นผลงานของค่าย Wit Studio ค่ะ (เราก็ไม่ค่อยรู้จักค่ายนี้เท่าไรนะ แบบว่าเวลาดูอนิเมะไม่ค่อยสนใจว่าค่ายไหน ฮ่า)

    (ภาพจาก IMDb)

    ส่วนตัวเราชอบฟังเพลงประกอบอนิเมะหรือพวกดนตรีบรรเลงจากทางฝั่งญี่ปุ่นบ้างอยู่แล้ว สารภาพว่ากดเข้าไปดูก็เพราะไอ้โน้ตสี่ตัวที่บรรเลงคลอตอนตัวเอกกำลังกระโดดแบบพลิ้วสุด ๆ อยู่นั่นแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไร กะว่าถ้าไม่ใช่แนวที่ดูปกติก็จะปิด แต่พอลองดูไปในช่วงแค่สี่ห้านาทีแรก ก็เผลอดูต่อไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ แล้วก็เรื่อย ๆ จนจบ 

    ที่จริงมันก็มีแนวโน้มมาให้เห็นแล้วแหละว่าต้องมีช่วงที่ตับจะปวดแน่ ๆ แต่ในเมื่อเราตัดสินใจแล้วก็ต้องไปให้สุด



    เรื่องย่อ เรื่องนี้เกี่ยวกับ ฮิบิกิ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ป่วยด้วยภาวะที่หูมีความไวต่อเสียงมากกว่าคนทั่วไป แล้วในช่วงนั้นจู่ ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์บับเบิ้ลตกจากฟ้า ทำให้สภาพโตเกียวแปลกประหลาดไปเลย คนก็เริ่มอพยพหายไปเพราะอยู่ไม่ได้ ส่วนพวกคนที่ยังอยู่ ก็จะใช้วิธีการหาเสบียงจากการแข่งขันที่เรียกว่า ปาร์กัวร์ (Parkour - กีฬาชนิดนี้มีอยู่จริงและถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส) ถ้าใครชนะก็ได้จะข้าวสาร บะหมี่ เหล้า อาหาร พวกข้าวของเครื่องใช้มาไว้ดำรงชีวิต

    ฮิบิกิก็เป็นหนึ่งในนักแข่งปาร์กัวร์เหมือนกัน โดยสังกัดทีมที่ชื่อว่า Blue Blazes แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ด้วยความที่เจ้าตัวมีความพิเศษเรื่องเกี่ยวกับการได้ยิน ก็เลยได้ยินเสียงหนึ่งที่ดังมาจากทาวเวอร์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่มีบับเบิ้ลอยู่ ตรงนั้นอันตรายที่สุด และมันก็นำพาให้เขามาพบกับตัวเอกอีกตัวของเรื่อง ซึ่งก็คือสาวน้อยที่ชื่อว่า อุตะ 

    เราจะไม่เล่ารายละเอียดที่เหลือแล้วกัน อยากให้ทุกคนไปดูเอง (แต่ก็เล่ามาเยอะละนะนั่น ฮ่า) และต่อไปก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งการอวยล้วน ๆ


    เราประทับใจการเปรียบเปรยสิ่งต่าง ๆ ของเรื่องนี้มาก มันมีความสอดคล้องแล้วก็ลงตัวไปหมด แต่เราจะไม่บอกว่าเรื่องนี้มันเปรียบกับเรื่องอะไร ตัวละครแต่ละตัวก็น่ารักและมีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับความญี่ปุ่น แน่นอนว่าเรื่องภาพเคลื่อนไหว สีสัน ฉากอะไรต่าง ๆ ก็คือดีทั้งหมดค่ะ (ใช่ค่ะ ดิฉันอวย 555) และส่วนที่เราชอบที่สุดก็คือดนตรี ส่วนที่ใส่ดนตรีเข้ามามันดึงความรู้สึกของเราที่กำลังนั่งดูอยู่ได้เยอะมาก

    และด้วยความสงสัยหลังดูจบ ว่าใครทำดนตรี ถูกจริตเรามาก ๆ ก็เลยไปเสิร์ช แล้วก็ปรากฏว่า คนคนนั้น คือ...... คุณ Hiroyuki Sawano!!! (ผ่างงงงง) น้ำตาแตกอีกรอบ ฮ่า ๆ  เราชอบตั้งแต่ตอนที่คุณเค้าทำเพลงประกอบเรื่อง Guilty Crown ค่ะ หลายคนน่าจะเคยดู

    แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น พอไปเช็คว่าใครเขียนวะเรื่องนี้ เราร้องหนักมากก เพราะเค้าคือคนเดียวกับที่เขียน Psycho Pass ฮืออออ คุณ Gen Urobuchi นั่นเอง


    จากที่เขียนมาทั้งหมด เราคงจะไม่ให้คะแนนเรื่องนี้ เพราะไม่อยากวัดมันด้วยตัวเลข แต่ก็เป็นเรื่องที่แนะนำให้สายอนิเมะทุกคนลองกดเข้าไปดู มีบางช่วง บางคำพูดที่มันทัชใจเรามาก ๆ อาจเพราะมีทำนองที่เป็นเอกลักษณ์เข้ามาประกอบ (ดูจบแล้วเมโลดี้สี่ตัวนั้นยังติดอยู่ในหูอยู่เลย) มีการเล่าโดยใช้การเปรียบแต่ละสิ่งแต่ละอย่างเข้าด้วยกัน มันดูใหญ่มาก แล้วก็ทำให้เรารู้สึกว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่เล็กมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน แล้วยังมีอารมณ์ที่เข้ามากระทบอยู่เป็นช่วง ๆ ในระหว่างที่ดู ทำให้เราประทับใจมาก ๆ คือรู้ทั้งรู้แหละว่าสุดท้ายจะจบยังไง รู้ตั้งแต่เริ่มเรื่องด้วยซ้ำ แต่ก็อยากดูมันไปจนจบ 

    สำหรับใครที่กำลังจะไปดู อย่าลืมเตรียมทิชชู่ไว้สักแผ่นสองแผ่นนะ 






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in