GOBLIN (도깨비)
Guardian:The Lonely and Great God
วันที่ดูจบ Jan 22, 17 เขียนเมื่อ Jan 24, 17 แก้ไขเมื่อ Feb 02,17
ถึงคุณก็อบลิน
อันยองฮาเซโย อาจอชี่! รักนะคะ แต่งงานกันเถอะ…! /ได้เหรอ
หลังจากดูจบก็เกิดอยากเขียนอะไรสักอย่างระบายความรู้สึกที่ปริ่มล้นเต็มใจนี้ ตั้งใจว่าจะเขียนตั้งแต่ดูจบแต่ไม่มีเวลา ก็เลยต้องผลัดมาสองวัน แต่ความรู้สึกมันก็ยังอยู่…ได้ว่ะ
อยากเขียนเพราะไม่อยากลืมความรู้สึกของตัวเองตอนที่ดูเรื่องนี้จบ มันเป็นมวลความรู้สึกที่ประทับใจมาก อยากเก็บเอาไว้เป็นไดอารี่เตือนว่าครั้งหนึ่งก็เคยได้ดูซีรีส์ที่โคตรจะตราตรึงใจขนาดนี้
ถึงจะจั่วหัวว่ารีวิว แต่สิ่งที่เขียนนี้จะเรียกว่ารีวิวก็ไม่ถูกมันเหมือนเป็นการรวบรวมความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างทางที่เพลิดเพลินไปกับ Goblin ซึ่งก็เคยได้ทวิตไว้ในทวิตเตอร์ (มากมาย) นำมาร้อยเรียงเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นถ้าเจอประโยคคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นทวิตขอให้เข้าใจว่านั่นคือเราเอง 5555
WARNING
นักแสดงหลักของเรื่องทุกคนหรือแม้แต่นักแสดงรองบางคนคือคนที่ติดตามงานแสดงมานานแล้ว
ดังนั้นจะว่าเราอวยก็ได้แต่ถ้าอยากรู้ว่าอวยหรือไม่ ควรพิสูจน์ด้วยการดูด้วยตัวเอง
ดูมาก่อนแล้วค่อยมาอ่านกันนะคะ
…
สิ่งที่เขียนขึ้นมาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ดูซีรีส์จบลงเรียบร้อยแล้ว
ผู้ที่เข้ามาอ่านขอให้ระวังสปอยล์ให้ดี เราขอเตือน
เริ่มจากตอนที่ช่อง TVN ประกาศจะทำเรื่องนี้พร้อมกับรายชื่อนักแสดง เราแทบลุกขึ้นรำวงเพราะว่ากงยูโอป้าคนดีคนเดิมที่ติดตามมาตั้งแต่ Coffee Prince ในสมัยเฮียแกยังเอ๊าะและเรายังเป็นเด็กด๋อยไปวันๆ (ประมาณป.6 ได้มั้ง) คัมแบ็กวงการซีรีส์อีกครั้งหลังจากหายไปสามปี บวกกับ คิมโกอึน ซึ่งเราชื่นชอบเธอมาตั้งแต่ซีรีส์ Cheese in the Trap และโคตรประทับใจในการแสดงที่แสนธรรมชาติและซึมลึก (ติดใจจนต้องไปหาหนังของเธอมาดู) ก็มารับบทเป็นนางเอกเรื่องนี้ ทำให้ความอยากดูพุ่งปรี๊ดไปอีก
นอกจากนี้ตัวละครหลักคนอื่นๆ ทั้งอีดงอุกโอป้า ซองแจ ยูอินนา ก็ยิ่งทำให้สนใจจะติดตามกว่าเดิมเพราะเขาได้นักแสดงดีๆ ทั้งนั้น
เรียกว่า เป็นเรื่องที่ดึงดูดใจได้ตั้งแต่เห็นนักแสดง ทีเซอร์ จนได้ดูตอนที่หนึ่งก็ประทับใจและตกหลุมรักตั้งแต่ตอนนั้น…
Goblin เป็นซีรีส์ว่าด้วยเรื่อง ‘คิมชิน’ แม่ทัพยุคโครยอคนหนึ่งที่ถูกดาบจากผู้ที่เขาจงรักภักดีแทงเข้ากลางอก เขาได้ตายลง และฟื้นคืนชีพอีกครั้งจากคำขอของผู้ที่รักและเทิดทูนเขาเหมือนเป็นพระเจ้า
พระเจ้าตัวจริงช่วยให้เขาฟื้นขึ้นพร้อมกับมอบคำสาปให้กลายเป็นก็อบลิน มีชีวิตเป็นอมตะ มีพลังอำนาจเหนือมนุษย์ เป็นเหมือนตัวแทนพระเจ้าคอยให้ความสุขและการลงโทษแก่มนุษย์ …นั่นคือความพิเศษที่เขาได้รับ แต่สิ่งที่แถมมาด้วยก็คือ การที่ต้องเห็นคนที่รู้จักคนที่รักตายลงไปหลายต่อหลายรุ่น ดังนั้น เขาจึงเฝ้าฝันที่จะได้ไปสู่สุขคติ และทางเดียวที่ทำได้คือ เขาต้องตามหาเจ้าสาวก็อบลินให้เจอ เพราะเธอเป็นมนุษย์คนเดียวที่มองเห็นและสามารถดึงดาบที่ปักอยู่กลางอกออกได้ เพื่อให้ร่างเขาสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไป คิมชินตามหาเจ้าสาวมาเป็นเวลา 938 ปี จนกระทั่งได้พบกับเธอ 'จีอึนทัก' เด็กสาวผู้มองเห็นดวงวิญญาณ เจ้าสาวของเขา…
มันเหมือนเป็นเวรกรรมอะไรสักอย่างที่ทำให้เราต้องมาติดซีรีส์ไบโพลาร์จนจะเป็นไบโพลาร์ตาม เพราะตอนหนึ่งมีล้านแปดอารมณ์ หัวเราะอยู่ก็ร้องไห้ได้ หรือจะกลับไปหัวเราะกลับไปฟิน แล้วร้องไห้ใหม่อีกรอบก็ยังได้
อยากจะกราบคนเขียนบทรัวๆ ที่เขียนพล็อตออกมาได้โคตรจะเพอร์เฟ็กต์สำหรับเรา เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ พล็อตแข็งแรงจนแทบหาข้อกังขาไม่ได้เลย ปมเรื่องแน่นหนามาก เหมือนจะเป็นซีรีส์รอม-คอม ตลกๆ ขายโบรมานซ์และผู้ชายหล่อ แต่เอาจริงๆ คนเขียนบทนางซ่อนปมไว้เยอะมาก แม้แต่ในบทตลกๆ ก็ยังซ่อนให้คิดกันเพลิน มันทั้งโคตรสนุกและโคตรดราม่า สรุปคือ เราถูกใจพล็อตมาก ดูไปแค่สองตอนก็ติดงอมแงมจนต้องนับวันรอและดูตอนเก่า (วนไปค่ะ) ที่สำคัญ มันมีจุดพีกจุดหักมุมที่ทำให้ร้องเห-ยหลายซีนมาก โดยเฉพาะตั้งแต่ตอนที่สิบลงไปมันมีเรื่องทหักมุมและให้ความรู้สึกพีกเยอะมากจริงๆ ยิ่งสามตอนสุดท้ายคือสุดยอดไปเลย คนดูเกือบตายกันเลยทีเดียว
นอกเหนือจากพล็อต ไดอาล็อกหรือบทพูดต่างๆ ก็สวยงามเข้ากับนักแสดง บทบรรยายสวยงามมีคุณค่า มีปรัชญาแฝงอยู่เต็มไปหมด จังหวะของเรื่องเป็นอะไรที่พอเหมาะพอเจาะเหลือเกิน เล่นกับอารมณ์คนดูได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากตลกหรือฉากอารมณ์ เพลงประกอบซีรีส์ก็เป็นอีกอย่างที่น่าชื่นชม ออกมาเป็นสิบเพลง ไม่มีเพลงไหนไม่เพราะเลยสักเพลง แถมเลือกเพลงที่ใส่ในฉากนั้นๆ ได้โคตรเข้า เรียกว่าจังหวะเรื่องโคตรดี
การลำดับเรื่องและลำดับภาพดีงามและลื่นไหลช่วยเสริมให้เราอินกับเรื่องมากขึ้นไปอีก (ลำดับภาพเป็นอย่างหนึ่งที่ชอบมากเป็นพิเศษ) ภาพและมุมกล้องสวยชิบผาย มองเพลินไปหมด สวยจนอยากไปเที่ยว อยากไปเปาเทียนฟู่ๆ ให้ลุงก็อบลินปรากฏตัว
เรื่องนี้นักแสดงจัดเต็มกันมากปล่อยของกันออกมาเป็นคาร์นิวัลเลย
พี่กงยูโคตรไร้สติ บทฮานี่นางเล่นใหญ่ หัวเราะจนปวดท้อง (หล่อมากแต่บ้ามาก และไม่เคยบ้าขนาดนี้ Coffee Prince เป็นรอม-คอมยังได้เท่ทั้งเรื่องไม่รั่วเท่าเรื่องนี้ 5555) มาถึงซีนอารมณ์ก็เล่นลึกจนเราอิน ยิ่งฉากนางร้องไห้นี่ใจจะขาดตาม (ไม่รู้เพราะความติ่งหรืออะไร 555) ชอบฉากร้องไห้ในอีพี 16 มาก แววตาและเสียงสะอื้นมันโคตรเรียล ร้องไห้ตามเลยนึกว่าตัวเองเป็นนางเอก (?) เฮียแกเป็นคนที่แววตา สื่ออารมณ์ได้ดีมาก แสดงมีมิติ (และหล่อมาก) ทีมงานเขาเลือกนักแสดงดีมากอะ แบบที่ว่านึกไม่ออกว่าใครจะรับบทก็อบลินถ้าไม่ใช่กงยู บทนี้มันสร้างมาเพื่อเฮียเลย (ซึ่งก็จริง เพราะคนเขียนใช้พี่กงเป็น- ต้นแบบ)
พี่ดงอุกที่โดนปฏิเสธบทยมทูตหลายครั้งก็สร้างยมทูตในแบบของพี่แกได้ออกมามึนอึน น่ารัก เฟอะฟะ อมทุกข์ หล่อ ผสมปนเปกันไป สำหรับอีดงอุก เราเคยดูเขาเล่นแค่เรื่อง My girl (ซึ่งนานมากแล้วและไม่เคยดูเรื่องอื่น) ตอนนั้นก็รู้สึกว่านางโอเค หล่อดี แต่พอเล่นเรื่องนี้คือโคตรหลง พี่เขาเล่นได้น่ารัก และมีมิติเช่นกัน บทยมทูตมันไม่ใช่เย็นชา มันต้องเล่นเป็นคนที่นิ่งเหมือนเย็นชา แต่จริงๆ คือมีความรู้สึกและความสงสัยมากมายที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ มันคือบทของคนที่ต้องทุกข์กับความไม่มีอะไรพวกนั้น ซึ่งพี่เขาเล่นออกมาได้ดีมาก ชอบเวลาร้องไห้ ดูน่าสงสารปนน่าเอ็นดูเหลือเกิน
คิมโกอึน อย่างที่บอกคือเราชอบการแสดงของหมวยมากอยู่แล้ว จริงๆ นางคือคนที่ได้รับแรงกดดันหนักมากตอนที่ซีรีส์ออนในช่วงแรก เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บอกว่าไม่เหมาะบ้างอะไรบ้าง แต่เราว่าบท จีอึนทักก็ต้องเป็นคิมโกอึนเท่านั้นเหมือนกัน เพราะหมวยเป็นคนที่แสดงได้ธรรมชาติ เล่นลึก และแสดงอารมณ์ได้หลายชั้นนางสามารถเป็นอึนทักในวัย 19 และ 29 ได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ (ตอนเล่นเป็นเด็กอายุ 19 ก็น่ารักสดใสมาก เหมือนอายุเท่านั้นจริงๆ) ฉากพีกของอีพี 13 โกอึนทำได้ดีมาก โคตรดี จนไม่รู้จะชมอะไร นางทำให้เชื่อได้ว่านี่คือเด็กคนหนึ่งที่พยายามจะรั้งบางอย่างเอาไว้ คือทำทุกอย่างที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ ตอนร้องไห้ก็ร้องแบบใจสลาย เราก็ร้องไห้หนักมากตามอึนทักไป (โคตรอิน) สุดท้าย โกอึนก็ทำให้ข้อวิจารณ์เหล่านั้นกลายเป็นคำชื่นชมมากมายได้ นับถือเลย
เรายิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเขาเลือกนักแสดงนำได้ดี พี่กงยูกับคิมโกอึนเป็นนักแสดงสายหนังทั้งคู่ มีจุดเด่นที่ความเล่นลึก มีมิติและสมจริง ทำให้การแสดงมันธรรมชาติมากทั้งที่เรื่องเป็นแฟนตาซี คือเรารู้สึกว่ากงยูเป็น ก็อบลิน และโกอึนมองเห็นวิญญาณได้จริงๆ
คุณยูอินนาเรื่องนี้สวยมาก ร้องไห้ยังสวย เราเคยเห็นเล่นมาหลายเรื่อง แต่ชอบการแสดงของเธอเรื่องนี้มากๆ ซองแจก็เล่นเก่งขึ้นเยอะ ตอนเล่นเป็นด็อกฮวากับไม่ใช่ด็อกฮวาก็ต่างกัน เล่นมีมิติขึ้น ตัวละคร คนอื่นๆ ก็เล่นได้น่ารักน่าเอ็นดู อย่างเช่น คุณเลขาคิม (แอบไปเห็นมาว่าช่วงที่ถ่ายทำเขามีแฟนแคมของตัวเองด้วยนะ ป๊อบสุด 555) คุณปู่ด็อกฮวา เทพฮัลมอนี ยมทูตรุ่นน้อง แม้แต่ตัวละครลับ เราก็ชอบ เพราะเขาเล่นกันดี อีกอย่างคือ เขาแบ่งบทให้นักแสดงโอเคมาก มันพอดี ไม่ขาดไม่เกิน
ชอบโมเมนต์ของพระ-นางเรื่องนี้ที่สุดตั้งแต่ดูซีรีส์ของปี 2016 มา มันมีความคลาสสิก กลมกล่อม น่ารัก อบอุ่น และไม่ยัดเยียด ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติ จากภาษากาย สีหน้า แววตา ดูแล้วอินมาก ฉากน่ารักคือเขินมาก ฉากโรแมนติกก็แทบจะจิกหมอน ดราม่าก็อินตาม รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ที่เห็นลูกต้อง เจ็บปวด 555
โมเมนต์โบรมานซ์ ก็อบลินกับคุณยมทูตหรือคู่ยักษ์ยมก็ไม่แพ้คู่หลักเลยค่ะ มันเป็นโบรมานซ์ที่โคตรธรรมชาติ พี่กงกับพี่อุกเล่นได้เข้ากัน มิตรภาพและความโรแมนติกอบอวล น่ารักมาก ฉากฮาคือตลกจนร้องไห้กันเลยทีเดียว (ขอมอบให้ซีนรันเวย์ซื้อผักรับปีใหม่ค่ะ 5555) ฉากอารมณ์ก็สุดๆ เหมือนกันแม่ยกรวดร้าวกันเป็นแถว
สำหรับปมเรื่อง สิ่งที่เคยดูตอนแรกๆ แล้วคิดว่าคนเขียนเขาทำอะไรตกหล่นไปหรือเปล่า ที่แท้มันคือ Hint ที่เขาตั้งใจทิ้งไว้เราต่างหาก ดูไปโดนหลอกไป (อารมณ์แบบถูกผู้ชายหลอกแต่เต็มใจให้เขาหลอก) ปมแน่นมากจนพอถึงช่วงดราม่าของเรื่องนี่แทบจะไปไม่เป็น หาทางลงให้ตัวละครไม่ได้เลย คิดจนหัวจะระเบิดก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวละครไม่เจ็บปวด แล้วแต่ละอีพีก็ชอบจบให้อารมณ์ค้างด้วย
ที่น่าชื่นชมมากๆ คือ "การคลายปม" กิมมิกการคลายปมของคนเขียนบทสำหรับเรื่องนี้โคตรสร้างสรรค์ เช่น ฉากเปิดเผยตัวตนคุณยมด้วยดอกท้อ (แถมเป็นดอกท้อที่มาจากความดอกไม้บานเต็มทุ่งของพี่ก็อบ) ฉากการเจอรักแรกของพระเอกผ่านนิมิต ฉากเทพเจ้าเปิดเผยตัวตน แต่การคลายปมที่ชอบที่สุดเรื่อง คือ ทำไมยมทูตถึงไม่มีชื่อ ไม่มีความทรงจำ มันโคตรจะเริ่ด อยากกราบคนเขียนบทเลยจริงๆ
Goblin เป็นซีรีส์ที่จบได้สมเหตุสมผลสุดๆ และจบปมได้สมบูรณ์แบบมาก ไร้ข้อกังขา มีครบทุกอารมณ์ทั้งสุขเศร้า เหงา ฮา เล่นกับอารมณ์คนดูได้จนจบ เราชอบอารมณ์ทุกอย่างในเรื่อง ชอบความพีก ความหักมุม ความฮา ความฟิน โรแมนติก ละมุนละไม ขมหวานดราม่ากระจายของเรื่อง ชอบเพลงประกอบด้วย
คือมันไม่ใช่แค่สนุก นักแสดงเล่นดี หรือแค่ภาพสวยนะ ถ้าดูดีๆ จะพบว่า เขาสอนเรื่องการใช้ชีวิตดีมากจริงๆ ข้อคิดก็ดีมาก ประทับใจสุด รักค่ะ มอบหัวใจให้เป็นค่าอนันต์เลยสำหรับเรื่องนี้ (มอบหัวใจให้ทีมงานด้วย เก่งกันจริงๆ)
ผูกพันกับทุกตัวละครมากจริงๆ เหมือนเป็นลูกเป็นหลานเขา ตอนนี้เราไม่สามารถเอา Goblin ออกไปจากสมองได้ ทรมานพอตัว โหวงมาก จะไม่ได้ดูซีรีส์ดีๆ แบบนี้อีกแล้ว ก็เลยต้องมาเขียนเวิ่นยาวเหยียด นี่แหละค่ะ T^T
ลากันด้วยประโยคเด็ดคนดัง
อาจอชี ซารังเฮโย<3
จากเจ้าสาวก็อบลินแต่ไม่ใช่จีอึนทัก
The best drama of me is Goblin.
ปอจุดลอจุด
#Goblin
อันนี้คืออันไหนคะ^^