“ เรื่องที่คุณเขียนอยู่มันไม่ใช่หนัง คุณจะต้องย้อนกลับไป แล้วใส่ดราม่า คุณอาจก้าวผิดทางหรือมีข้อบกพร่อง แต่ถ้าคุณทำให้ผู้ชมตื่นตะลึงในตอนจบได้ล่ะก็ หนังคุณฮิตแน่ ”
นี่ประโยคสุดท้ายที่เขาได้รับจากการพูดคุยกับวิทยากรรุ่นใหญ่ในวงการหลังจบคอร์ส และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของภารกิจแอบขุดคุ้ยชีวิตของสาวใหญ่นักเขียนหนังสือต้นฉบับ เพื่อค้นหาปมชีวิตอะไรซักอย่างของเธอมาดัดแปลงเสริมความน่าสนใจให้กับหนังเรื่องนี้ หลังจากนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เริ่มตื่นเต้น เกิดเหตุการณ์ประหลาดตามมาเรื่อยๆ จนนำไปสู่บทสรุปที่ไม่คาดฝันในช่วงท้ายเรื่อง (เล่ามากกว่านี้ไม่ได้ เดี๋ยวจะสปอยล่ะ ฮ่าๆ)
หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า นี่มันเป็นหนังซ้อนหนังชัดๆ สังเกตได้ว่าวิธีการเล่าเรื่องของหนังจะเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตและวิธีเล่าเรื่องของนักเขียนบทคนนี้ ในช่วงแรกๆของหนังถูกถ่ายทอดออกมาแบบเนิบๆเนือยๆ เหมือนกับชีวิตของพระเอกที่เป็นแค่ไอ้หนุ่มจืดขี้แพ้ ไม่มั่นใจตัวเอง หมกมุ่นอยู่กับการใช้ชีวิตคนเดียว เขียนบทหนังเงียบๆคนเดียวในห้องวันแล้ววันเล่า ชีวิตไร้สีสันโดยสิ้นเชิง แต่พอเดินทางมาถึงช่วงครึ่งหลังของหนัง เมื่อพระเอกของเราตัดสินใจเปลี่ยนวิธีคิดในการเขียนบทหนัง ความสนุก ความตื่นเต้น ปมขัดแย้งของเรื่องราวจึงตามมาอย่างไม่ขาดสาย บทหนังเรื่องนี้และ"บทหนังในหนัง"จึงมีความสอดคล้องและล้อเลียนกันอย่างน่าสนใจ
ดูเหมือนว่าคนเขียนบท(ตัวจริง)ตั้งใจจะแอบเสียดสีวิธีเล่าเรื่องแบบสูตรสำเร็จของฮอลลีวูดผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างแยบคาย โดยเฉพาะพวกหนังชีวประวัติทั้งหลายที่เคยสร้างขึ้นมา ภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นบางครั้งก็ดูไม่ต่างอะไรกับนิยายน้ำเน่า เรื่องเล่าแฟนตาซี หรือแม้กระทั่งโฆษณาชวนเชื่อให้เรารู้สึกอินไปกับประวัติศาสตร์เหล่านั้นโดยมองข้ามตรรกะของความเป็นจริง เป็นธรรมดาของมนุษย์เราที่ชอบเสพเรื่องราวดราม่า ตื่นเต้นเร้าใจ ถ้าไม่เศร้าให้สุด ก็ต้องสนุกจนลืมโลก หนังประวัติศาสตร์ทั้งหลายจึงประสบความสำเร็จได้ด้วยการดัดแปลงและบิดเบือนความจริงตลอดมา
แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีอายุอานามปาไปสิบกว่าปีแล้ว แต่เนื้อหาของมันยังคงสะท้อนแก่นคิดของคนในยุคสมัยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในยุคที่คนเรายังคงนิยมดัดแปลงและบิดเบือนความจริงอยู่ทุกวันๆ เพียงแต่การกระทำเหล่านั้นไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงหนังสือและภาพยนตร์อีกต่อไป แต่มันอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่านั้น ถ้าไม่เชื่อ คุณลองเปิดดูแฟนเพจเฟซบุ๊คข่าวสักสองสำนักที่มีอุดมการณ์การเมืองขั้วตรงข้ามกันสิ ลองอ่านข่าวที่พูดถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดียวกันแล้วลองนำมาเปรียบเทียบกันดู
ผมเชื่อว่าคุณจะค้นพบศิลปะแห่งการดัดแปลงความจริง ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in