ในสายตาของคนทั่วไป หนังเรื่องนี้คงเป็นเพียงโศกนาฏกรรมสะท้อนปัญหาวัยรุ่นแบบที่เคยมีมาทุกยุคทุกสมัย แต่หากลองมองให้ลึกในรายละเอียด จะพบว่ามันเต็มไปด้วยประเด็นมากมายที่น่าสนใจ น่าค้นหา และน่าหลงใหล ชวนให้พยายามทำความเข้าใจกับโลกส่วนตัวอันแสนลึกลับของพี่น้องสาวสวยทั้ง 5 คนจากตระกูลลิสบอน
ภายใต้กฎระเบียบอันเคร่งครัดจากพ่อแม่ ทำให้บ้านหลังใหญ่ของเด็กสาวกลุ่มนี้แทบไม่ต่างอะไรกับห้องคุกนักโทษที่คุมขังจิตวิญญาณวัยรุ่นของพวกเธอเอาไว้ จิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความฝัน ความหวัง ความรัก และความต้องการทางเพศ ความรู้สึกโดดเดี่ยวและแปลกแยกอย่างมหาศาลนี้คงยากที่จะรับมือได้สำหรับช่วงชีวิตแห่งการเติบโตและเปลี่ยนแปลง
เรื่องราวต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ถูกเล่าผ่านสายตาซึ่งจ้องมองจากอีกฟากฝั่งนึงของละแวกบ้าน เด็กหนุ่มน้อยผู้ไม่ประสีประสากับโลกของเพศตรงข้าม กำลังจับกลุ่มเรียงรายกันเฝ้ามองดูชีวิตของพวกเธอวันแล้ววันเล่า ราวกับฝูงหมาน้อยมองฝูงเครื่องบินที่ถูกขังไว้ในอู่
สำหรับเด็กหนุ่มสี่คนนี้ ความสนุกและท้าทายของช่วงชีวิตวัยรุ่นคือการพยายามทำความรู้จัก พยายามทำความเข้าใจกับโลกสีชมพูใบนั้นที่ถูกกักขังไว้ในบ้านตระกูลลิสบอน ยิ่งพวกเธอดูลึกลับ เข้าใจยากเพียงใด นั่นก็ยิ่งเป็นเสน่ห์เย้ายวนใจชวนให้เด็กหนุ่มพวกนี้กระหายใคร่รู้ในเรื่องราวต่างๆของพวกเธอ
เด็กหนุ่มเหล่านี้พยายามปะติดปะต่อตัวตนของพวกเธอ ผ่านสิ่งของประดับห้อง ผ่านสมุดไดอารี่ ผ่านแผ่นเสียงที่เธอเปิด ผ่านบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค หรือแม้กระทั่งผ่านเรื่องราวบ้าๆบอๆของเพื่อนบ้านจอมขี้โม้คนหนึ่ง พวกเขาได้แต่ตั้งคำถามและสับสนกับสารพัดคำตอบที่มีความเป็นไปได้ที่มีนับร้อยนับพัน โลกของพวกเธอในสายตาของเด็กหนุ่มจึงเต็มไปด้วยการปะติดปะต่อระหว่างข้อเท็จจริงและจินตนาการปลายเปิด
ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับกลุ่มเด็กสาวในบ้านลิสบอน แก๊งเด็กหนุ่มข้างบ้านก็ยังคงพยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเธออย่างเต็มที่ หากจะพูดตามความเป็นจริง ความหวังดีเหล่านี้มันอาจไม่ใช่ความบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่นัก แต่คงเป็นเพราะความเสน่หาอันเปี่ยมล้นจากฮอร์โมนเพศชายเสียมากกว่าที่ผลักดันให้เด็กหนุ่มกลุ่มนี้ยังคงเฝ้าติดตาม และหาทางติดต่อกับพวกเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าถ้ำมองชีวิตพวกเธอในมุมหน้าต่าง การแอบโทรหาแล้วใช้แผ่นเสียงเพื่อเล่นบทเพลงสื่อความในใจ การแอบสั่งแคตตาล็อกแบบเดียวกับพวกเธอ เพื่อติดตามงานอดิเรกความสนใจทุกอย่างที่พวกเธอเป็น การสื่อสารผ่านข้อความเล็กๆน้อยๆ ที่แนบไว้ในกระดาษแผ่นเบาบาง เพื่อแสดงถึงความห่วงใย
ฟังดูอาจเหมือนพวกโรคจิตเล็กน้อย แต่นี่ก็คงเป็นทางเลือกเดียวในการวางแผนปีนข้ามกำแพงคุกเพื่อพาพวกเธอหนีจากดินแดนที่ถูกคุมขังไว้ภายใต้อาณัติของบุพการี
" เห็นได้ชัดว่า คุณหมอคนนี้ไม่เคยเป็นเด็กสาวอายุ 13 "
ประโยคดังของซิซีเลีย น้องสาวคนสุดท้องในตระกูลลิสบอน จากฉากช่วงแรกๆ ในหนัง
เธอเอ่ยประโยคนี้เพื่อตอกกลับนายแพทย์รุ่นใหญ่ซึ่งกำลังพูดดูถูกดูแคลนปัญหาที่เธอเผชิญ
ท้ายที่สุดแล้ว เวลากว่าชั่วโมงครึ่งก็ไม่ได้ทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจโลกของพวกเธอมากขึ้นซักเท่าไหร่นัก เพราะทุกสิ่งล้วนถูกบอกเล่าในสายตาของผู้สังเกตการณ์อย่างกลุ่มเด็กหนุ่มข้างบ้านก็เท่านั้น ปริศนาต่างๆก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป ความห่วงใย ความปรารถนาดี ที่เด็กหนุ่มพยายามมอบให้พวกเธอ กลับไม่เคยถูกตระหนักถึงเพียงสักครั้ง ในสายตาของพวกเขา โลกของพวกเธอจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว แม้จะพยายามเท่าไหร่แล้วก็ตาม เช่นเดียวกับที่คุณหมอคนนั้นไม่เข้าใจความรู้สึกของซิซีเลียซึ่งอยากฆ่าตัวตาย ตราบใดที่เด็กหนุ่มไม่เคยเป็นวัยรุ่นผู้หญิง และไม่เคยถูกกดทับด้วยอำนาจของผู้ปกครองเช่นนี้
ในเมื่อไม่สามารถเดินทางไปสู่โลกของพวกเธอได้ สิ่งที่เด็กหนุ่มเหล่านี้พอทำได้บ้างก็คงเป็นเพียงแค่การจินตนาการถึงสิ่งต่างๆ ที่อาจมีอยู่ในโลกของพวกเธอ การวาดฝันถึงทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ สายลมพัดพาอากาศภายนอกที่แสนบริสุทธิ์ แสงแดดสีทองส่องประกายมาตบกระทบปลายเส้นผมของเด็กสาววัยแรกแย้ม ความสวยงามสดใสที่อยู่เหนือกาลเวลา อิสรภาพทั้งหลายที่ไม่เคยมีอยู่จริง โลกของพวกเธอจะเป็นเช่นนั้นไปตลอดกาลในความทรงจำของเด็กหนุ่ม ผู้เฝ้ามองเธอจนตราบวันสุดท้าย
ในโลกความจริงของพวกเธอที่ถูกปิดตาย
บางที... พวกเธออาจกำลังโบยบินไปที่ใดซักแห่งในโลกของความฝัน
The Virgin Suicides (1999) / Sofia Coppola
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in