เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชีวิตฝึกงานของเด็กวรรณกรรมkrittiya.n
2 : เปิดเทอมและห้องกล้วย
  • ?????????????????

          ในวันเปิดเทอมวันแรก ตัวฉันในสถานที่ใหม่กับข้อมูลที่ทราบว่าต้องมาที่โรงเรียน 7 โมงเช้าเท่านั้น ฉันเกิดความกังวลใจว่าเมื่อมาถึงควรจะทำอย่างไร ได้ดูแลนักเรียนในช่วงชั้นไหน ซึ่งเมื่อมาถึงคุณครูหลายท่านที่ทราบว่าพวกเราเป็นนักศึกษาฝึกงานในฐานะ "ครูผู้ช่วย" ก็ให้พวกเราประจำห้องอนุบาล1ซึ่งที่โรงเรียนเรียกว่าK1(เค-วัน)​ห้องใดก็ได้ทันที

          อ่า... คุณครูคะ ให้หนูเลืิอกห้องเองเลยหรอคะ ?

          ฉันและเพื่อน ๆ ได้ทำการเลือกห้องสรุปได้ว่า เพื่อนนามแฝง "เอ" ดูแลนักเรียนห้องK1CHERRY(เควันเชอรี่)​ที่อยู่ชั้นหนึ่งติดห้องK1 PAPAYA (เควันพาพาย่า)​

          ส่วนเพื่อนนามแฝง "บี" ดูแลนักเรียนห้องK1 COCONUT (เควันโคโคนัท) ​และฉันดูแลนักเรียนห้องK1 BANANA (เควันบานาน่า)​ ซึ่งที่อยู่ชั้นสองเป็นห้องติดกัน

          ฉันเข้าห้องบานาน่า สวัสดีคุณครูแนะนำตัวเล็กน้อย คุณครูก็ขอตัวไปรับนักเรียนของห้องขี้นมาก่อน
    ทำให้ฉันมีโอกาสสำรวจห้องเรียนค่ะ!!!


          เป็นห้องเรียนที่มีพื้นห้องเป็นรูปลิงนั่งบนกล้วยขนาดใหญ่พร้อมถือกล้วยปลอกเปลือกในมือหนี่งผลแสนน่ารัก โต๊ะเก้าอี้มีสีสันสดใสฟ้า เขียว ชมพู เหลือง บนโต๊ะมีแผงใสกั้นป้องกันโควิด เก้าอี้จัดให้เด็ก ๆ นั่งห่างกันรวมทั้งห้องนั่งได้ประมาณ10กว่าคน 

           มุมหลังห้องเป็นพื้นที่สำหรับชั้นวางของเด็กๆแต่ละคน มุมฝั่งหน้าต่างทำให้เห็นบรรยากาศหลังอาคารเรียน มีของเล่นเสริมทักษะ เช่น ตัวต่อ ตัวร้อยโซ่ ผลไม้จำลองของเล่นทำอาหารจำลองและของเล่นอื่น ที่เด็ก ๆ เห็นต้องชอบมากแน่นอน ถัดไปจากของเล่นก็คือมุมนิทาน มีนิทานสำหรับเด็กรูปเล่มขนาดเล็กใหญ่จัดใส่ชั้นวางอย่างเป็นระเบียบ ส่วนในมุมของทางเข้าออกของห้องเป็นมุมเก็บเอกสารและทำงานของคุณครูห้องนี้ ห้องมีความโล่งโปร่งสบายสัมผัสได้ถึงความน่าอยู่ที่สุด

           ไม่นานคุณครูก็พานักเรียนเข้ามาในห้อง เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชายดูท่าทางเงียบ ๆ อาจจะเป็นเพราะไม่คุ้นชิน ยิ่งฉันใส่แมสก์ด้วยก็ดูแปลกสำหรับเด็กละนะ ?

           คุณครูพาน้องนั่งที่ ถามน้องว่าอยากได้ของเล่นไหม น้องพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่คุณครูจะหยิบของเล่นตัวต่อใหม่จำนวนหนึ่งใส่ตะกร้าเล็กและวางไว้บนโต๊ะน้อง 

           เอาล่ะอย่างแรกที่ต้องทำคือ ถ้าน้องมาให้ถามน้อง ๆ ว่าอยากเล่นอะไรแล้วค่อยหยิบให้น้อง ๆ สินะ! 

           ฉันแอบเก็บข้อมูลเงียบ ๆ เมื่อน้อง ๆ หลายคนเริ่มมา ฉันก็เริ่มทำตามที่คุณครูทำทันที คอยถามและหยิบของเล่นให้ ถึงแม้ว่าน้องหลายคนจะไม่กล้าเล่น รู้สึกว่าฉันเป็นคนแปลกหน้า (ก่อนหน้านั้นนักเรียนที่นี่มีการเรียนออนไลน์จึงคุ้นเคยกับครูประจำห้องทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว)​ สักพักน้องก็ยอมเล่น เมื่อเด็กในห้องมาครบฉันก็เริ่มเล่านิทานในระหว่างที่เล่า โรงเรียนเปิดสัญญาณเพลงบอกว่าถึงเวลาเข้าแถวแล้ว

           การพานักเรียนเข้าแถวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับฉันเพราะเด็กหลายคนไม่สามารถยืนอยู่เฉยแม้จะมีจุดสีแดงตามพื้นเว้นระยะห่างให้เด็กยืนก็ตาม ฉันจึงคอยเดินตามน้อง พาน้องเข้าที่ ตลอดระหว่างทำกิจกรรมเข้าแถวหน้าชั้นเรียน

          กิจกรรมเข้าแถวหน้าชั้นเรียน มีการฝึกร้องเพลงชาตินำโดยพี่อนุบาล3 (K3)​ ตามด้วยร้องเพลงด้ว​ยการเปิดเพลงชาติประกอบ สวดมนต์ เต้นประกอบเพลงสำหรับเด็ก ก่อนจะค่อย ๆ พานักเรียนทุกคนเข้าห้อง 

           ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลานิทานและดื่มนม จะมีการเก็บของเล่นที่เล่นกันเมื่อเช้า คุณครูนำนมที่ผู้ปกครองใส่ไว้ในกระเป๋าวางไว้บนโต๊ะให้เด็กได้ฝึกแกะและเจาะทานเอง โดยที่เราสามารถช่วยเหลือได้ตลอดเวลาถ้าน้องไม่สามารถเกาะเองได้ 

          เมื่อเด็ก ๆ ทุกคนดื่มนมหมดจะเข้าสู่ช่วงเวลานิทาน ซึ่งฉันก็ได้เล่านิทานให้เด็กทุกคนฟัง หลังจากนั้นจะถึงเวลาเล่นอีกรอบและในช่วง11โมงเป็นช่วงเวลาเรียนภาษาอังกฤษ​กับคุณครู​ต่างชาติ

           เด็กทุกคนใส่รองเท้าแตะเพื่อเดินเรียนและทานข้าว ดังนั้นเด็ก ๆ จึงมีรองเท้าผ้าใบสำหรับใส่มาเรียนและกลับบ้าน 1 คู่และรองเท้าแตะไว้ที่โรงเรียน 1 คู่วางไว้ชั้นวางรองเท้าที่มีชื่อของตัวเองแปะอยู่ เป็นการฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักการหยิบเก็บรองเท้าด้วยตนเอง รู้จักวางให้ถูกที่เป็นการฝึกเล็กน้อย ๆ ที่จะปลูกฝังให้เด็กทำอะไรได้ด้วยตนเอง

           เมื่อเด็ก ๆ ใส่รองเท้าแตะครบเข้าแถวพร้อมเรียนวิชาภาษาอังกฤษคุณครูจะนำขบวนแถวพาเด็ก ๆ ลงบันได ให้เด็กทุกคนจับราวบันไดต่อแถวลงอย่างเป็นระเบียบ และพาเด็ก ๆ ถอดรองเท้าเรียงให้เป็นระเบียบเช่นเคย เข้าห้องเรียนภาษาอังกฤษต่อไป

           หลังจากเรียนภาษาอังกฤษ​เสร็จถึงเวลาเด็กทุกคนในห้องบานาน่าทานข้าว คุณครูและฉันก็คอยพาเด็กทุกคนใส่รองเท้าเข้าแถวเพื่อเตรียมพาเด็ก ๆ ไปทานข้าว

           การนั่งทานข้าวจะมีฉากใสกั้นเป็นรูปบวกบนโต๊ะทานข้าวเด็ก หนึ่งโต๊ะสามารถ​นั่ง​ได้​ 4 คน แบ่งเป็นแถวละ 1 ห้องสำหรับเด็กK1ทั้งระดับชั้น คุณครูต้องพาเด็ก ๆ ล้างมือก่อนแล้วค่อยพาเด็ก ๆ นั่งที่พร้อมแจกแก้วน้ำดื่มที่มีชื่อของเด็กแต่ละคนติดไว้ เมื่อแจกแก้วน้ำครบ จึงเริ่มพนมมือสวดมนต์แล้วให้เด็ก ๆ เริ่มทานได้

           หลังจากเด็กทุกคนทานข้าวเสร็จ จะให้เข้าแถวพากันขี้นไปหยิบรองเท้าผ้าใบใส่เตรียมกลับบ้าน จากนั้นคุณครูจะช่วยนักเรียนทุกคนใส่ ดูแลเรื่องการเปลี่ยนแมสก์สำหรับเด็กบางคนและให้ดื่มนมอีกครั้งก่อนกลับบ้าน 

           เมื่อถึงช่วงเกือบบ่ายผู้ปกครองของเด็ก ๆ จะเริ่มมารับเด็ก ๆ กลับบ้านต้องฟังประกาศจากโรงเรียนว่าเรียกเด็กชื่ออะไร ชั้นใดและห้องใด โดยวิธีส่งเด็กคือคุณครูประจำชั้นจะพาเด็กและกระเป๋าของเด็ก ส่งที่หน้าโรงเรียนเท่านั้น ในระหว่างที่คุณครูส่งเด็ก ฉันจึงมีหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ ที่เหลือที่ยังไม่กลับ มีการพูดคุยบ้าง เล่นด้วยบ้าง เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเด็กทุกคนก็กลับบ้านกันหมด

           เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ในทุกวันเลยล่ะค่ะ ต่างตรงที่เด็ก ๆ แต่ละห้องจะสลับกันมาครึ่งหนึ่งเป็นวันคู่และวันคี่ 

            มีความพิเศษสุดก็คงเป็นช่วงบ่ายของวันที่ 3 ผู้อำนวยการนัดฉันและเพื่อนประชุมเพื่อพูดคุยการฝึกงานของพวกเรา

            ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะมีการเวียนห้องเพื่อให้พวกเราได้ทำความรู้จักกับระบบการทำงานของคุณครูแต่ละห้องและทำความรู้จักเด็ก ๆ แต่ละห้องด้วย โดยวิธีการเวียนคือ ห้องละหนึ่งสัปดาห์ วนตามตัวอักษร จนกว่าจะวนครบค่อยกลับมาประชุมกันว่าพวกเราจะเวียนห้องต่อหรือไม่

           เป็นสามวันที่ผ่านไปไว ใจหายอยู่เหมือนกันเพราะอยู่ห้องนี้ได้แค่ไม่กี่วันก็ต้องย้ายห้องซะแล้ว ยังไม่ได้ทำความรู้จักกับน้องในห้องบานาน่าเท่าไหร่เลย ?

           ห้องที่ฉันต้องไปเนี่ย เด็กจะน่ารักเหมือนกับบานาน่ามั้ยนะ... 


    TBC

    ?????????????????




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in