จริงๆ แล้ว หากมองว่าเราใช้กรุ๊ปนี้เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของคนแปลกหน้าที่ไว้ใจกัน (trustable strangers) ก็อาจจะมีประโยชน์มากขึ้น คือในกรุ๊ป ทุกคนดู "มอบความไว้เนื้อเชื่อใจกัน" มาก เช่น มีการบอกชื่อจริง นามสกุล เบอร์ห้อง ถ่ายรูปตัวเองมาลง ถ่ายรูปในห้อง หรือประตูมาลง ฯลฯ โดยความเชื่อใจนั้นจริงๆ ไม่ได้มาจากการไว้เนื้อเชื่อใจในระดับปัจเจก แต่เป็นการมอบความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับผู้ปกครอง (คือนิติบุคคลของคอนโด ที่ชักชวนคนเข้ามาในกรุ๊ป) ว่าจะไม่ชักชวนนอก หรือคนไม่ดี ท่ีอาจทำอันตรายให้เข้ามาอยู่ในกรุ๊ปนี้ได้ ซึ่งก็น่าหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าเราสามารถมอบความเชื่อใจให้กับอำนาจที่ (ดูเหมือนว่า) สูงกว่า นี้ได้จริงหรือ นี่คล้ายกับระบบ Sharing Economy ที่ทุกคนเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน แต่มอบความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันชั่วคราว เพราะเชื่อในระบบ

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือนิติบุคคลผู้เป็นคนชักชวนคนอื่นๆ เข้ามานั้นตั้งตำแหน่งตน (และเรียกตนเอง) ว่าเป็น "กำนันคอนโด" และพยายามใช้อำนาจในทางต่างๆ เพื่อ regulate กฎของคอนโด เช่น ห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่มีการใช้อำนาจนอกจากทางตรง คือการใช้ "กฎ" ของคอนโดมาอ้างแล้ว ยังมีการใช้อำนาจในทางอ้อม คือใช้การอ้างถึงความดีงามเข้ามาด้วย เช่น บอกให้คนอื่นๆ ดูตนเอง ที่แม้จะอยากเลี้ยงแมว ก็เลี้ยงไม่ได้ จึงต้องติดรูปแมวแทน และเรียกร้องให้คนอื่นทำอย่างเดียวกัน (พร้อมบอกว่า คนเลี้ยงสัตว์นั้นมักจะหน้าตาดีและนิสัยดี ซึ่งอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าคิด) ซึ่งนอกจากตัวกำนันคอนโดเองแล้ว ก็ยังมีลูกบ้านที่เริ่มก่อร้างสร้างชื่อ หรือสร้าง perception บางอย่างให้กับคนในกรุ๊ปไลน์ด้วยวิธีต่างๆ กันด้วย ทั้งหมดนี้น่าสนใจมาก เหมือนกับได้เห็นการเริ่มต้นประเทศใหม่ จนน่าจับตามองว่าเหตุการณ์จะคลี่ออกมาอย่างไรในอนาคต