เมื่อกี้นั่งกินข้าวอยู่ดีๆ ก็นึกถึงฉากหนึ่งในเรื่อง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ตอนที่น้ำสารภาพรักกับพี่โชน
"พี่โชนคะ น้ำมีเรื่องจะบอกพี่โชน คือ น้ำชอบพี่โชนมาก ชอบมา 3 ปีแล้ว น้ำทำทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างก็เพื่อพี่ น้ำ.. ไปคัดเลือกนางรำ เล่นละครเวที ไปเป็นดรัมเมเยอร์ เรียนหนังสือให้เก่งก็เพื่อพี่ แต่ตอนนี้น้ำรู้แล้วว่า สิ่งที่น้ำควรจะทำมากที่สุดและน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว คือ บอกกับพี่โชนตรงๆว่า... น้ำชอบพี่โชน"
ตอนที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราอายุ 14 เองนะ ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กกะโปก ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยเปลี่ยนตัวเอง หรือทุ่มเทอะไรบางอย่างเพื่อใคร แล้วก็เคยคิดว่า มันมีจริงปะวะ คนที่เปลี่ยนตัวเอง หรือนิสัยเปลี่ยนไปเพราะได้รับอิทธิพลจากคนอื่นน่ะ...
.
จนกระทั่ง ตอนนี้ 24 แล้วนะ พอย้อนกลับมาลองคิดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ก็เคยมีแฟนมาบ้าง พอรู้อยู่นะว่ารักคืออะไร แต่เราไม่ใช่คนที่แพสชั่นแรง ทุ่มเทสุดตัวเพื่อคนอื่นขนาดนั้น แต่สิ่งที่ตกผลึกได้คือ เราไม่เคยเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครสำเร็จเลยว่ะ55555 แต่มันมีความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับเราโดยที่เราไม่รู้ตัวอยู่บ้าง... อืม หลายอย่างเลยแหละ
.
ตอนคบกับแฟนคนล่าสุด มันเป็นคนที่เป๊ะ perfectionist ไม่ชอบทำอะไรยืดยาด ผิดกับเรา ที่ยืดยาด ไม่คิดอะไรหน้าหลังเลย เวลาไปไหนมาไหน ก่อนขึ้นรถสาธารณะ มันจะสั่งเรา ให้เตรียมเงิน เตรียมบัตรให้พร้อม คนข้างหลังจะได้ไม่ต้องรอ ก่อนลงรถ เก็บหูฟัง สะพายกระเป๋า ทำอะไรให้เสร็จก่อนถึงป้ายสิ มันจะได้ไม่ช้าเพราะเรา จนตอนนี้ เรากลายเป็นคนที่เตรียมพร้อมก่อนที่จะทำอะไรจริงสักอย่างเสมอ สิ่งที่มันสอน ซึมซับไปกับการกระทำ จนกลายเป็นสันดานเราไปกลายๆ
หรือตอนนี้ ที่เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กับพี่คนหนึ่ง เค้าแม่งติสท์ชิบหาย ชอบฟังเพลงเก่า ทุกภาษา ไม่ว่าจะไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน อิตาเลียนแม่งก็ฟัง ชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะรูปฟิล์ม เป็นคนชอบถกเถียง สนทนาสภาพโครงสร้างสังคมทุกรูปแบบ สนใจการเมือง อะไรติสท์ๆ เวียดๆ พวกเนี้ยะ ในตอนแรก เราอินไปกับเค้าอย่างเดียวคือเพลงเก่าเว้ย แต่พอเราเริ่มรู้สึกดีกับเค้า เรากลายเป็นคนอย่างถ่ายรูปฟิล์ม จนตอนนี้มีกล้องฟิล์มมาครองแล้ว 2 ตัว อินกับเพลงเก่าหนักขึ้นอีก เพราะเค้าเป็นคนเปิดโลกให้ส่วนหนึ่ง เวลาอ่านข่าว ดูหนัง เราเริ่มคิดถึงสภาพสังคม และวิเคราะห์สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในสื่อเหล่านี้มากขึ้น มีความคิดอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไปเหมือนกัน จากที่เมื่อก่อนเราแม่งไม่เคยคิด หรือสนใจสภาพสังคมเลยอะ นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกับเค้านะเนี่ย !
อย่าว่าแค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับผู้ชายเลย การเป็นติ่ง แม่งก็เปลี่ยนอะไรบางอย่างในชีวิตเราเหมือนกันนะ เราเป็นติ่งนุ้ง Finn Wolfhard หรือ ไมค์ใน Stranger Things ติ่งแบบไม่เคยติ่งใครขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเลยว่ะ เรามองทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าทำมันดี มันเท่ไปหมด วันๆ ไม่ทำไร นอกจากเสพคอนเท้นของน้องตามไอจีหรือทวิตเตอร์ น้องไม่ค่อยดังเป็นวงกว้างในไทยเท่าไรนะ เวลาจะอ่านข่าว ก็ต้องอ่านลิงก์ของต่างชาติ ดูคลิปต่างๆ ของน้อง แม่งก็ไม่มีซับไทย ทำให้ภาษาอังกฤษเราดีขึ้นมาในระดับนึงเลยในช่วงนั้น และน้องแม่งก็มีวงดนตรีอินดี้ เราก็เข้าไปอยู่ในโลกเพลงอินดี้ช่วงสั้นๆ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยอินกับเพลงอินดี้เลย น้องเป็น guitarist เราถึงแม้จะมือสั้น ก็หยิบอูคูเลเล่มาฝึกเพราะอยากเล่นเครื่องดนตรีสายเก่งๆ เหมือนน้อง แต่ตอนนี้ ไม่ติ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้วว่ะ สิ่งที่ทำตามน้องก็หยุดไป แต่สิ่งที่ได้มาล่ะ เราก็มีทักษะกับภาษาและดนตรีมากขึ้นนะ
.
ประสบการณ์ 10 ปีกับผู้ชายที่ฉันรัก มันก็เปลี่ยนแปลงเราไปในทางที่ดีขึ้น (รึปะ555) เออ ก็ไม่รู้ว่ะ อย่างเรื่องพฤติกรรมการเตรียมตัว เออมันดีจริงๆ นะเว้ย อยากให้ปรับปรุงกัน แล้วเราจะหงุดหงิดมาก เวลาเจอคนทำไรยืดยาด ชักช้า 55555 แต่กับในบางเรื่อง เราก็ยังรู้สึกว่า เราก็ยังคงความเป็นเราตั้งแต่ก่อนเจอสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ เหล่านี้อะ เช่นการฟังเพลงเก่าตามอิพี่นั่น เราก็ฟังของเราอยู่แล้ว และเราก็มีแนวเพลงที่ชอบชัดเจน เค้าก็มีแนวเพลงที่ชอบชัดเจน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้คล้ายกันเป๊ะๆ แต่เราก็ไม่ได้ไปฟังตามเค้าและต้องชอบตามเค้าอะ เราก็แลกเปลี่ยนในแนวเพลงที่เราชอบไป หรือการถ่ายรูปฟิล์ม เค้าเจออะไร เค้าถ่ายหมด แต่เรา ไม่เคยชอบถ่าย portrait เราก็ถ่ายแต่วิว และอวดรูปวิวที่เราคิดว่าสวยให้เค้าไป55555 หรือด้านอุดมการณ์ทางการเมือง เรามองเห็นอีกด้านหนึ่งของโครงสร้างพวกนี้ก็จริง แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคล้อยตามพี่เค้าไปทุกเรื่อง เพราะเรามองว่า ไม่มีสีขาว หรือดำในวงการนี้ แม่งเทาๆ กันหมด ก็แล้วแต่คนจะคิด
หรืออย่างช่วงที่ติ่งน้องฟินน์ เราไม่เคยเล่นเพลงวงเค้าเลยเพราะคอร์ดยากและเอาจริงๆ เราก็เข้าไม่ค่อยถึง55555555 เราก็ฝึกอูคูในแนวเพลงเก่าๆ คันทรี่ๆ ที่เราชอบไป แล้วแม่งเป็นวิธีสร้างความสุขให้กับเราในวิธีหนึ่งด้วย
.
จริงๆ สิ่งที่ผ่านมาเหล่านี้ เรารู้สึกดีที่มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงเรานะ และเราไม่ได้ฝืนตัวเองที่จะทำอะไรเลยอะ รู้สึกดีที่เรายังคงรักษาตัวตนของเราไว้ ถ้าใครได้แวบเข้ามาอ่าน และอ่านจนถึงตรงนี้ (ฮ่า) ลองนั่งตกผลึกดูนะ ว่าคนสำคัญที่เข้ามาในชีวิตเรา ได้เปลี่ยนนิสัยหรือไลฟ์สไตล์อะไรบางอย่างเราไปรึเปล่า เราอาจจะพยายามทำเพื่อชนะใจเค้า หรือทำ เพราะเห็นว่าเค้าชอบทำ เลยทำบ้าง หรือทำโดยที่ไม่รู้ตัว ความรู้สึกพาไปเอง ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราว่า มันคือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่มาทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ โดยที่เราอาจจะไม่รู้สึกตัวเลยนะ :-)
ps. นี่คืองานเขียนชิ้นแรก สำนวนอาจจะแปร่งๆ หน่อยเพราะไม่เคยเขียนไดอารี่หรือบทความมาก่อนเลย เราสมัคร minimore ก็ด้วยเหตุผลนี้แหละ อยากเขียนให้เก่งขึ้น เผื่อจะเอาสกิลการเขียนไปหาเงินได้55555ฝากเนื้อฝากตัวด้วยจ้า ^_______^
จนกว่าจะพบกันใหม่
cerveja
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in