แสงอุ่นนวลตาสาดกระทบพื้นเรียกร่างของหญิงสาวให้กลับออกมาจากห้วงแห่งความฝัน นาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า เหมยลี่ผุดลุกขึ้นนั่งงัวเงียบนเตียงในเวลาเดิมทุก ๆ วันราวกับมีนาฬิกาปลุก ฉันใช้เวลาไม่นานในการตระเตรียมตัวเองเพื่อให้พร้อมกับการไปทำงานในเช้าวันใหม่
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในห้องของฉัน
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นภาพตรงหน้าของฉันในตอนนี้ภาพที่ฉันเห็นแล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ภาพของหลินน้องชายตัวดีของฉันกำลังจับตะหลิวผัดอะไรสักอย่างบนกระทะในเวลาเช้าตรู่แบบนี้
“หลิน ทำอะไรอะ”
“ซักผ้าอยู่มั้งเจ้ ก็เห็นอยู่ว่าทำกับข้าวเนี่ย” เลี่ยงหลินหันมาตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ เสมือนสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นกิจวัตร
“แกเนี่ยนะทำกับข้าว ทำเป็นด้วยเหรอ” นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย แค่ด่ามันว่าลองหัดทำกับข้าวดูบ้างผ่านไปคืนเดียวมันนึกคึกอะไรลุกขึ้นมาทำกับข้าวตั้งแต่เช้าแบบนี้เนี่ย ปกติบ่ายสองมันยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ น้องชายตัวดีของฉันมันกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า
“เอ้า ก็ต้องเป็นดิ ก็ทำให้เจ้กินอยู่ทุกวัน เจ้นั่นแหละหัดทำกินเองซะบ้างนะจะได้ไม่เป็นภาระน้อง”
“ห้ะ”
หรือบางทีอาจจะเป็นฉันเองที่กินยาลืมเขย่าขวด นี่มันอะไรกันเนี่ย
“เจ้ไปนั่งที่โต๊ะดิ จะเสร็จแล้วเนี่ย รอหมูสุกแปป” ฉันยืนอึ้งไม่ได้นานก็โดนไล่ให้ไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“แล้วป๊าอะ”
“กวาดใบไม้อยู่หน้าบ้านมั้ง”
“ห้ะ”
“เจ้จะห้ะอะไรนักหนาเนี่ย วันนี้เป็นอะไรสงสัยเยอะจัง ป่วยปะเนี่ย” แกน่ะสิป่วยหรือเปล่า หรืออาจจะป่วยกันทั้งบ้านเลยก็ได้ ป๊ากวาดใบไม้อยู่หน้าบ้านเนี่ยนะ เกิดมาจะยี่สิบหกปีแล้วฉันยังไม่เคยเห็นป๊าจับไม่กวาดเลยสักครั้งแล้วนี่เป็นอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ยคนบ้านนี้
หรือว่า
“นี่ปีอะไรแล้ววะหลิน”
“อะไรของเจ้ ก็ 2022 ไงถามอะไรเป็นนางเอกละครย้อนเวลาเลย” แสดงว่านี่ไม่ใช่การข้ามเวลาไปอนาคตหรือย้อนเวลาไปอดีตเหมือนในหนังสินะ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ ฉันเก็บความสงสัยที่ก่อตัวขึ้นไม่หยุดในหัวแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างงง ๆ โดยปกติแล้วทุกเช้าเหมยลี่จะต้องตื่นขึ้นมาทำกับข้าวให้ป๊าและน้องชายก่อนไปทำงานทุกวัน แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
‘ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนางสาว ใจรัก จงเจริญ ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น… ’
เสียงจากโทรทัศน์เรียกความสนใจของฉันให้หันไปดูแล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินข่าวนั้น ข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงแถมภาพการประชุมสภาในข่าวล้วนมีแต่ผู้หญิงที่ขึ้นนั่งตำแหน่งสำคัญ ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะประธานสภา ไหนจะนายกรัฐมนตรี สส. หรือแม้กระทั่งรปภ. หน้าตึกก็ยังเป็นผู้หญิง นี่มันที่ไหนกันเนี่ย ไม่เหมือนโลกที่ฉันเคยรู้จักเลยสักนิด
“หลิน ทำไมนายกฯเป็นผู้หญิงอะ”
“เจ้ถามอะไรแปลก ๆ อีกละ ก็เป็นผู้หญิงมาตลอดนะ มีผู้ชายไม่กี่คนหรอกที่จะได้เป็นนายกฯอะ ประเทศไทยอะเนาะ” นี่เรากำลังหมายถึงประเทศไทยเดียวกันอยู่จริง ๆ ใช่ไหม
“แล้วลุงตู่อะ” ฉันถามออกไปขณะที่น้องชายกำลังทยอยยกกับข้าวมาวางบนโต๊ะ
“ลุงตู่ไหนวะเจ้ ตู่ภพธรเหรอ เขาก็เป็นนักร้องดิ”
“ไม่ใช่ดิ ลุงตู่อะ ไม่รู้จักลุงตู่เหรอ เขาเป็นนายกฯตั้งนานนะตั้งแต่เจ้ยังอยู่มัธยมจนเรียนจบมีงานทำแล้วเขาก็ยังอยู่อะ”
“มีนายกฯอยู่นานขนาดนั้นด้วยเหรอวะเจ้ ไม่เคยได้ยินนะ”
เหมือนยิ่งถามยิ่งต่อความสงสัยของฉันให้มากกว่าเดิมเป็นอีกครั้งฉันอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่
“กินดิเจ้จะได้ไปทำงาน” หลินพูดเมื่อยกกับข้าวมาวางครบแล้วก่อนทำท่าจะเดินออกไป
“แล้วแกจะไปไหน”
“ไปเรียกป๊ามากินข้าว เดี๋ยวจะไปชงกาแฟด้วยเจ้เอาปะ”
“แกชงเป็นด้วยเหรอ”
“ถามอะไรแปลก ๆ อีกละเจ้ ก็ชงให้กินทุกวัน อเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาล รอแปปเดี๋ยวมา”
เป็นอีกครั้งฉันต้องถามตัวเองในใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
อีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเข้างาน สองขาของฉันก้าวยาว ๆ ราววิ่งแข่งกับเข็มวินาทีบนนาฬิกาข้อมือนับว่ายังเป็นโชคดีที่ฉันยังคงทำงานเป็นพนักงานในแผนกไอทีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเหมือนเดิมเพื่อนร่วมงานก็ยังเหมือนเดิม
“ลี่!”
มั้งนะ
“ฝ้าย”
“ทำไมวันนี้มาซะเกือบสายเลยเนี่ยคุณพนักงานดีเด่น” ทันที่ตอกบัตรเข้าทำงานด้วยเวลาอันฉิวเฉียด ฝ้ายหนึ่งในแผนกบัญชีเพื่อนร่วมงานที่สนิทที่สุดของฉันก็เข้ามาทัก
“ตื่นสายอะดิ” ฉันโกหกไปคำโต “แล้วแกมาทำไรไอที หาซัพพอร์ตเหรอ”
“อะไรของแกวะลี่ ก็ฉันอยู่ไอที”
“ห้ะ”
“ห้ะอะไร”
นี่แค่เรื่องที่บ้านยังทำฉันอึ้งไม่พออีกหรือไงนี่ฉันต้องมารับข้อมูลใหม่อีกแล้ว ฝ้ายอยู่แผนกไอที
“เป็นอะไรปะเนี่ยลี่”
“เปล่าๆๆๆ เมื่อคืนนอนดึกมั้งเลยเบลอ ๆ ”
“เบลอเกินไปนะ จำเพื่อนไม่ได้เนี่ย” ฝ้ายพูดขำ ๆ ก่อนจะผละตัวกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
เมื่อได้เวลาเข้างานพนักงานคนอื่น ๆ ที่ลงไปซื้อกาแฟข้างล่างบ้างก็ลงไปหาเสบียงมาตุนสำหรับลุยงานในวันนี้ก็เริ่มทยอยเข้ามาให้ห้องไอทีเรื่อย ๆ
“อ้าวลี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ กาแฟไหม”
“เอ่อ ลี่กินมาจากบ้านแล้วพี่ เอาเลยค่ะ ๆ ”
เรื่องน่าตกใจในเช้าวันนี้ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเพราะสมาชิกในแผนกไอทีที่เคยเป็นผู้ชายทั้งหมดและมีเหมยลี่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในแผนกตอนนี้กลับกลายเป็น ฝ้ายบัญชี พี่ส้ม พี่เอ๋ น้องนาการตลาดกำลังเดินเข้ามานั่งอยู่ที่โต๊ะทีมไอทีซัพพอร์ต นี่มันอะไรกันเนี่ยแผนกไอทีกลายเป็นแผนกหญิงล้วนไปตั้งแต่เมื่อไรแล้วหัวหน้าทีมจะยังเป็นพี่ชัยคนเดิมไหมหรือว่าฉันต้องเตรียมรับมือกับข้อมูลใหม่อีกแล้วฉันยังคงตกใจไม่หายกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้คาดคิดแต่ยังคงมีอีกสิ่งที่น่าจะยังเหมือนเดิมโต๊ะทำงานเยื้องกับฉันยังคงเขียนชื่อเขาคนนั้น ‘ทิวากร ปโณชัย’ ผู้ชายใส่แว่นพูดน้อยคนนั้นถึงแม้ว่าจะต้องทำงานด้วยกันบ่อย ๆแต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าที่ควรเพราะเขาพูดไม่เก่งและฉันเองก็เช่นกัน
ฉันดีใจที่เขายังอยู่แต่เรื่องที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงของเขาก็คงจะเป็น
“แต่ผมส่งรีพอร์ตให้ทีมโปรเจคไปแล้วจริง ๆ นะครับ”
“ก็ถ้าส่งไปแล้วจริง ๆ ทางทีมเขาจะมาทวงจากพี่ไหมคะ แทนที่จะมาเสียเวลาแก้ตัวกับพี่เอาเวลาตรงนี้ไปส่งรีพอร์ตใหม่ดีกว่าไหมคะ” เสียงของพี่หวาหัวหน้าแผนกการตลาดที่เปิดประตูเข้ามากระทันหันตามด้วยร่างของชายหนุ่มที่ฉันคุ้นตาเพราะอยู่แผนกเดียวกันมาสี่ปี
“ครับ ผมขอโทษด้วยครับพี่หวา”
“พี่ไม่ใช่คนที่น้องทิวต้องขอโทษค่ะ คนที่ควรจะไปขอโทษคือทีมโปรเจคที่เขาต้องมาเสียเวลารอรีพอร์ตจากน้อง”
“ครับ ผมขอโทษที่ทำให้ทางทีมกับพี่หวาต้องเสียเวลาด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบส่งให้ใหม่เลยครับ”
“คราวหลังอย่าให้พี่ต้องมาดุน้องทิวเรื่องนี้อีกนะคะ”
“ครับพี่หวา ขอโทษอีกครั้งนะครับ”
สิ้นเสียงของทิวทั้งห้องก็ตกสู่ห้วงความเงียบพี่หวาเดินเข้าไปนั่งในโซนของหัวหน้าแผนกไอที ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ฉันจะต้องตั้งรับมันจะมาเร็วกว่าที่คิดพี่หวากลายเป็นหัวหน้าแผนกไอทีคนใหม่ของฉัน
ทันทีที่ร่างระหงของพี่หวาพ้นไปจากโซนของลูกทีมไอที ทุกคนก็ลุกจากโต๊ะของตัวเองไปหาทิวเพื่อถามไถ่ที่มาที่ไปของสงครามที่เกิดขึ้นในห้องไอทีแห่งนี้
“ไอ้ทิวโดนพี่หวาด่าอีกละ สนามอารมณ์ชี” ในขณะที่ทุกคนกำลังไปมะรุมมะตุ้มอยู่กับทิว ฝ้ายก็เดินอ้อมมาที่โต๊ะของฉันและกระซิบเบา ๆ
“อีกแล้วนี่แปลว่าโดนบ่อยเหรอ”
“ก็ใช่ดิ สงสารมันนะ ปกติผู้ชายก็ไม่ค่อยเหมาะกับงานไอทีอยู่แล้วอะ พอทำอะไรผิดนิดผิดหน่อยพี่หวาชีก็วีนใหญ่วีนโตละ”
ฉันฟังคำบอกเล่าจากฝ้ายในขณะที่สายตาก็จดจ้องไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงข้ามเยื้องไปทางซ้ายภาพของทิวที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังรีบเร่งแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองที่ถูกคลื่นพายุของพี่หวาสาดซัดเสียจนดูไม่ใช่เขาเลย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นโลกใหม่ที่ฉันไม่คุ้นเคย บทบาทของทุกคนในชีวิตฉันเปลี่ยนไปแทบจะทั้งหมดแต่ตัวตนของคนเหล่ายังอยู่ไม่เหมือนกับทิว เขาเปลี่ยนไปมากกว่าเมื่อก่อนที่ฉันเคยรู้จัก
เพราะยิ่งฉันมองไปที่เขาในตอนนี้ก็ยิ่งเห็นภาพในอดีตของตัวเองทับซ้อนอยู่ตรงนั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in