คุณเคยเล่นเดอะซิมมั้ย ไอ้เกมจำลองการใช้ชีวิตในสังคมเสมือนจริงนั้นแหละ ถ้าคุณเคย คุณคงรู้ว่าแก่นสารของเกมนี้มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรไปมากกว่าการเอาชนะความต้องการขั้นสูงสุดของชีวิต ถ้าให้นิยามอย่างหยาบๆตามยุคสมัย คือทำอย่างไรก็ได้ให้ชีวิตเข้าใกล้คำว่าความสำเร็จตามที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ก่อนคุณจะมีโอกาสใช้ชีวิต
ผมเป็นคนหนึ่งซึ่งเล่นไอ้เกมนี้มาตั้งแต่สมัยมันออกใหม่ๆ ในภาคแรก รูปทรงตัวละครไม่สมประกอบกับบ้านทรงสี่เหลี่ยมโง่ๆ ปลูกสร้างขึ้นโดยไม่มีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมกลับขโมยเวลาในชีวิตไปมากโข ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบไอ้เกมนี้นักหนา แต่ว่ารู้ตัวอีกทีก็พบว่าเป็นแฟนคลับของมันมาจนถึงภาคล่าสุดซะแล้ว
ตั้งแต่ภาคสามจนถึงสี่ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมานอกเหนือความต้องการพื้นฐานของชีวิตคือสภาวะทางอารมณ์ หากเราอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม บรรยากาศจะผลักดันให้เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับการใช้ชีวิต
จนถึงภาคล่าสุดนี่เองที่ทำให้ผมตกใจอยู่ไม่น้อย มันคงเป็นเพราะยุคสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากขึ้นไปทุกๆปีนั้นแหละที่เป็นตัวเร่งมิติและความสมจริงของตัวละครมากขึ้น ผมพบว่ายิ่งเดอะซิมพัฒนามากเท่าไร มันยิ่งเหมือนชีวิตคนจริงๆในสังคมมากขึ้นไปทุกที รูปร่างหน้าตาถูกปรับแต่งได้แม้กระทั้งรอยกระและรูขุมขน
แน่นอนว่าในทุกๆภาค สิ่งที่ทำให้เรามีคุณค่าคือการทำงาน ในภาคแรกหากเราต้องการแหล่งที่มาของรายได้ เราทำได้ผ่านการเปิดหาอาชีพผ่านทางหนังสือพิมพ์ที่มาส่งเราทุกๆเช้าวันใหม่ ส่วนภาคถัดไปเราไม่จำเป็นต้องรอหนังสือพิมพ์เหล่านั้นอีกแล้ว เพียงนั่งหน้าจอ เข้าเว็บไซท์ มีงานว่างมากมายรอเราอยู่ และการดำรงชีวิตไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบ้าน เราอาจเข้าไปพักในคอนโดมิเนียมซักแห่ง ออกปาร์ตี้ยามค่ำคืน หาเพศตรงข้ามสักคนกลับมาสำเร็จความใคร่ในเคหสถาน ก่อนจะตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่และแยกย้ายไปทำงานตามหน้าที่ของตน
ชาวซิมทุกคนรู้ว่าชีวิตพวกเขาถูกใครบางคนควบคุมอยู่ แต่ดูเหมือนเขาจะยอมให้ควบคุมแต่โดยดี จะกินอาหารเสีย หรือออกกำลังกายอย่างเอาเป็นเอาตายก็ทำได้ตราบเท่าที่ใครซักคนออกคำสั่ง อาจจะมีบ้างที่พวกเขาเรียกร้องในสิ่งที่ทำไม่ได้ แต่มันก็ไม่ใช้ปัญหา พระเจ้าที่มองไม่เห็นจะควบคุมให้พวกเขาเดินเข้าสู่หนทางสู่ความสำเร็จเอง
สิ่งหนึ่งซึ่งทำให้เดอะซิมสนุกนั้นคือการมีสูตร ผมเชื่อว่าคนเล่นเกมนี้ ร้อยทั้งร้อย ต่างเคยใช้ประโยชน์จากสูตรโกงเหล่านี้ด้วยกันทั้งนั้น สูตรพื้นฐานอย่าง rosebus หรือ motherload ประโยชน์ของมันคือเพิ่มจำนวนเงินในบัญชี และเงินที่มีมากจน้นเกินความต้องการทำให้เราเข้าใกล้ไอ้คำว่าความสำเร็จในชีวิตให้ง่ายขึ้นไปอีก มันคงเป็นเรื่องดี หากในวันที่กำลังใช้ชีวิตตามปรกติ แล้วมีเงินหล่นมาในกระเป๋าให้ใช้ได้อย่างไร้ข้อจำกัด มันคงเป็นชีวิตที่ใครหลายคนแสวงหา โลกแห่งทุนนิยมก็เป็นแบบนี้ ตราบเท่าที่เรายังมีเงิน เราก็ยังดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างไม่เดือดร้อน
ชายหนุ่มคนหนึ่งทำงานอย่างหนักมาตลอดชีวิต เจียดเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพียงเพื่อหวังให้เงินจำนวนนั้นงอกเงิยและเติบโตอย่างงอกงามเพื่ออิสระภาพตามที่เขาปราถนา เพื่อที่ว่าเขาจะได้มีเงินไปซื้อเฟอร์นิเจอร์หรูๆ ซื้อบ้านหลังโตเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนชีวิต และจัดงานเลี้ยงสรรคสรรค์ มีรถสปอต์คันใหญ่ และใช้วันหยุดเดินทางท่องเที่ยวแบบยาวๆ เฟอร์นิเจอร์สวยงามบวกค่าความสะดวกสบาย ช่วยเพิ่มสมมรถนะทางการพักผ่อนได้ดีเยี่ยม ทีวีจอใหญ่และโซฟาอ่อนนุ่มกับเครื่องเสียงคุณภาพดีช่วยให้เขามีความสุขจากการรับชมมากกว่าเดิม
ก่อนเวลาในชีวิตจะลดน้อยลง และตระหนักได้ว่าทุกสิ่งมีวันหมดอายุ ชีวิตของเขาแก่ลงเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นเพียงบุคคลซึ่งมีตัวตนอยู่เพียงความทรงจำของคนใกล้ชิดเท่านั้น
เมื่อคุณตาย เพื่อนบ้านคุณจะแห่แหนมาแสดงความเสียใจตามที่โปรแกรมได้ตั้งค่าเอาไว้ สถานะเสียใจที่แสดงขึ้นเป็นสิ่งซึ่งสังคมบัญญัติไว้ในฐานะความเป็นมนุษย์ แม้ในโปรแกรมจำลอง งานศพของคุณถูกจัดอย่างเล็กๆ ยมภูติชุดดำจะมารับคุณไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครเคยเห็น ก่อนเวลาจะผ่านไปซักสัปดาห์หนึ่งหรือสองสัปดาห์ตามค่าความผูกพันธ์ ไม่นานสถานะเศร้าโศกของคนรอบข้างจะหายไป เหลือไว้เพียงร่องรอยความทรงจำ ก่อนพระเจ้าจะแสดงให้เห็นว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกคนต่างใช้ชีวิตตามเดิมอย่างเป็นปรกติ เติมเต็มความต้องการ มีครอบครัว และรอวันตาย
ในวาระสุดท้าย
เขาคิดว่าชีวิตนี้ช่างเปี่ยมล้นไปด้วยอิสรภาพสมกับที่เขาพยายามทำงานอย่างหนัก
และนี่คงเป็นความตายที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขใจ
น่าเศร้าที่เขาไม่เคยรู้เลยว่า
ในทุกการกระทำของเขา
กำลังถูกควบคุมโดยกลไกและใครบางคนจากสังคมที่เขาใช้ชีวิตอยู่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in