หากจะพูดถึงหนึ่งในความยิ่งใหญ่ในบรรดาตระกูลเกมทั้งหมด เกมประเภท RPG (Roleplaying games) คงเป็นประเภทเกมอันดับต้นๆที่บรรดาเกมเมอร์หรือทีมพัฒนาต่างให้ความสนใจ เชื่อว่าในทุกๆคนที่เคยเล่นเกม อย่างน้อยที่สุด น่าจะต้องเคยผ่านเกมประเภทนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่ง
แต่ไอ้เจ้าเกมชนิดนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร กว่าจะกลายมาเป็นเนื้อเรื่องและระบบการอลังการงานสร้างแบบทุกวันนี้
ลองกดปุ่ม Start แล้วเริ่มย้อนเวลาไปหาคำตอบพร้อมๆกัน
START
เกมRpg ยุคแรกเริ่มจะมาในรูปแบบของเกมที่เป็นเม็ดพิกเซลหยาบๆเรียกได้ว่าแทบจะไม่เป็นตัวละครด้วยซ้ำตอนนั้นยังไม่มีการใส่เนื้อเรื่องอะไรมากเท่าไร เน้นการเล่นในอุปกรณ์เฉพาะ จุดเด่นที่เห็นชัดคือตัวละครหลักจะมาพร้อมกับความเทพ และขนทัพมาด้วยมิตรสหายเจ๋งๆ
RPG แทบทุกเกมในยุคนั้นต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการขจัดความชั่ว และอาศัยความยาวของเนื้อเรื่องเป็นจุดขาย
RPG แรกๆ ก็ประมาณนี้
แม่แบบRPG
จนเมื่อการมาถึงของเครื่องเกมคอนโซล ทำให้ผู้เล่าสามารถเข้าถึงเกมได้ง่าย และอุสาหกรรมเกมกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามอง ในยุคนั้นมีเกม RPG ซึ่งถือว่าเป็นแม่แบบของเกมแนวพลัดกันโจมตีขึ้นมาเกมหนึ่ง นั่นคือ Dragon Quest
สาเหตุที่หลายคนมองว่านี่คือเกมแม่แบบอาจเพราะเป็นการพัฒนาต่อจากเกมRPG ในยุคแรกๆ ซึ่งที่เห็นเด่นอาจจะเป็นการเดินเชื่อมต่อระหว่างเมืองถึงเมือง การซื้อขายสินค้าการคุยกับตัวละครที่เป็นประชาชนธรรมดาเพื่อความลับบางอย่าง หลังจากเกมประเภทนี้เริ่มมีชื่อเสียง ชื่อของ FinalFantasy ก็เริ่มเข้ามาเป็นที่รู้จัก
Dragon Quest
ดาบ-โล่-แอคชั่น
ประมาณยุค80 เริ่มมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน ว่าอะไรที่จะถูกนิยามว่าคือเกม RPG ที่แท้ เนื่องจากในยุคสมัยนั้น เกม RPG อาจเจาะจงเพียงวิธีการต่อสู้แบบสลับกันโจมตี
แต่วันดีคืนดี เกมอย่าง Zelda กลับสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาโดยใช้การเดินจัดการศัตรูไปตามทางเดินเรื่อยๆทำแอคชั่นโดยตรงโดยไม่ต้องตัดเข้าฉากใหม่ มีอาวุธและอุปกรณ์ช่วยเหลือซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อาจเข้าใจว่าจะนับเกมประเภทนี้เป็น RPG ได้หรือไม่ ซึ่งก็ยังคงเป็นข้อกังขา เพีงแต่ว่าในยุคปัจจุบัน เกมส่วนใหญ่ก็หันมาใช้ระบบนี้กันแล้ว
หยุดความแฟนตาซีไว้ตรงนั้น
นานทีเดียวที่เกมRPG ถูกผูกขาดกับความเป็น Fantasy จนถึงจุดหนึ่งนักพัฒนาก็สร้างเกมที่มีชื่อว่า The Phantasy Star seriesขึ้นมาเพื่อที่จะพิศูจน์ให้เห็นว่าสามารถประยุกต์เอาความเป็นวิทยาศาสตร์มาผสมกับเรื่องแต่งได้โดยสอดแทรกความรู้ และเกร็ดประวัติสาสตร์ไว้ระหว่างเกม เมื่อมีผู้เริ่มก็มีผู้ตามไม่นานหลังจากนั้นประเภทของเกม RPG ก็กว้างขวางมากยิ่งขึ้นไปในฟังของนักพัฒนาจากหลาหลายประเทศ
ยุคเรเนอซองของวงการเกม
เมื่อเกมRPG สามารถเล่าเรื่องอะไรก็ได้จึงมีเนื้อเรื่องมากมายออกสู้ตลาดเกม เพียงแต่ปัญหาหนึ่งของเกม RPG ในตอนนั้นคือมันยังคงเดินเป็นเส้นตรงเส้นเดียวตามที่ผู้สร้างได้วางไว้ และตัวเกมบางเกมในตอนนั้นอาจใช้เงินเท่าๆกับหนังฟอร์ยักษ์ซักเรื่องเลยละ จึงมีคนคิดว่าน่าจะดีกว่า ถ้าผู้เล่นสามารถดีไซน์ฉากจบได้เอง โดยใช้ผลของการกระทำปัจจุบันเป็นตัวตัดสิน และนั้นเป็นการเริ่มต้นที่ส่งผลมาถึงวงการเกมในยุคสมัยนี้
เพราะพกง่ายจึงทำให้เกมยังอยู่ต่อ
เกมในตอนนั้นอาจจะถูกจำกัดด้วยการเล่นแบบผ่านเครืองประมาณผลอันใหญ่หนาแต่การมาถึงของเทคโนโลยีในยุคนั้นก็
ทำให้เราสามารถจะจ่ายเป็นเจ้าของมันได้ง่ายๆแต่ขนาดจอที่เล็กมากไปหรือใหญ๋ไปในบางคนก็เป็นปัญหาการมีถึงของเครื่องเล่นเกมเล็กๆอย่างเกมบอย หรือเครื่องเล่นเกมขนาดพกพาจึงถือกำเนิดขึ้นมาในตอนนั้นพร้อมๆกับเกมอมตะตลอดการอย่าง POKEMON ซึ่งพิศูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา
รุ่นคุ้นเคย
คนเดียวสนุกน้อยไปเล่นกันให้ได้สองคนดีกว่า
เมื่อมาถึงจุดหนึ่งการเล่นเกมคนเดียวกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายไปเสียแล้วจนราวๆปี 2000เริ่มมีการพัฒนาตัวเกมให้รองรับกับคนหมู่มาก โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเกิดเป็นศัพท์ที่มีชื่อว่า MMORPG (Massive Multiplayer Online Role-Playing Game) เป็นเกม RPG ที่ผู้เล่นทุกคนอาศัยอยู่ร่วมกันในโลกหนึ่งใบมีการแชทสนทนา มีการแลกเปลี่ยนสิ่งของและมีเนื้อเรื่องให้เล่นต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุดซึ่งระบบนี้ได้รับความนิยมจากเกมเมอร์อย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นเกม MMORPGก็พัฒนาเนื้อเรื่องและความสนุกมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บรรดาเกมเมอร์นิยม
ยุคNEW AGE ของ RPG
ความรักความสุญเสีย ความกล้าหาญและการมาถึงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เกมสามมารถเล่าเรื่องได้อย่างยาวนานมากขึ้น เริ่มมีการเอาบุคคลในพระคัมภีร์มาใช้อย่างเช่นเซฟิรอส ในไฟนอลแฟนตาซีภาค 7ซึ่งเป็นอีกภาคที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นภาคที่เป็นตำนานเรื่องราวซับซ้อนมากขึ้นเมื่อผนวกกับกราฟฟิกที่สวยงามขึ้นทุกทีๆทำให้เกมเมอร์ในยุคนั้นมีทางเลือกในการเข้าถึงเกมดีๆมากขึ้น
Gen ใหม่ของเกม RPG
ปฏิเศษไม่ได้ว่าการมาถึงของPlay Station2 จะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการเกม ทั้งการใช้ DVD ที่มีความจุมากกว่า และการย้ายแพลตฟอร์มของบรรดาเกม RPG ในยุคนั้นๆ สามารถเล่นลูกเล่นหลากหลายได้เยอะขึ้น รวมไปถึงการมีคัทซีนที่สวยงามและดึงดูดผู้เล่นได้ดีมีการแสดงออกทางสีหน้าและการเคลื่อนไหวบริเวณริมฝีปากบางเกมให้อารมณ์ของโรงภาพยนตร์กลายๆเรียกได้ว่าเป็นนวตกรรมที่พลิกโฉมวงการเกมในยุคนั้นๆ
เกมเดียวกัน คนละภาค คนละเครื่อง แต่ต่างกันลิบลับ
ตะวันออกและตะวันตกการสร้างตัวตนในฐานะผู้ผลิตเกม
เป็นที่รู้กันว่าทางฝั่งเอเชียหรือประเทศอย่างญี่ปุ่นเกมที่ออกมาจะมีเนื้อเรื่องที่ออกไปในแนวทางของการเป็นอนิเมชั่น และเช่นเดียวกันทางฝั่งยุโรปก็มีลักษณะของเนื้อเรื่องเป็นการเน้นความยิ่งใหญ่ อลังการ ใส่ความซับซ้อนลงไป เรียกได้ว่ายุคหนึ่งมาถึงจุดอิ่มตัวของวงการ RPG เนื้อเรื่องที่ยืนยาวบางครั้งกลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเบื่อหน่ายแค่ละค่ายเกมจึงต้องคิดค้นเทคนิคใหม่ๆเพื่อรองรับเกมเมอร์เหล่านั้นให้ยังคงเล่นเกมอย่างต่อเนื้องทั้งการสร้างฉากสุดอลังการ และการมาของเกมแนว OPEN WORLD ให้ผู้เล่นเดินไปไหนก็ได้ไม่มีจำกัดการดำเนินเรื่อง และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้
แม้กระนั้นเราก็ยังยืนยันได้ว่าเกมRPG คือเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของบรรดาเกมส่วนใหญ่เพราะเนื้อเรื่องที่โดดเด่น เพราะเป็นประเภทที่เล่นได้อย่างยาวนาน
ดังนั้นไม่แปลกใจหากในวันนี้เกม RPG จะได้เข้าไปครอบครองพื้นที่ในใจของใครหลายๆคน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in