มูจินฮยอก (รับบทโดย จางฮยอก) เจ้าหน้าที่ตำรวจ มือดี ต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป ระหว่างที่เขาใช้เวลาที่ควรอยู่กับครอบครัวไปกับการตามไล่ล่าผู้ร้าย คนร้ายอีกคนพยายามกระทำชำเราภรรยาของเขา เธอโทรสายด่วนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด คนร้ายหาตัวเธอที่ซ่อนอยู่พบ และฆ่าเธอในที่สุด
จากนั้นไม่นานคนร้ายก็ถูกจับและนำมาดำเนินคดี ระหว่างการพิจารณาคดีในศาล เจ้าหน้าที่หญิงที่เป็นผู้รับโทรศัพท์ของภรรยาของเขา ขึ้นให้การว่าเธอได้ยินเสียงคนร้าย และคนร้ายที่ถูกจับมาไม่ใช่คนร้ายตัวจริง
ความจริงแล้วในเหตุการณ์วันนั้นเธอเองก็สูญเสียพ่อของเธอ ด้วยฝีมือของคนร้ายคนเดียวกัน
เรื่องราว 3 ปีก่อน จบลงโดยไม่พบคนร้ายตัวจริง และเธอเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ พร้อมข่าวลือว่าเงินที่เธอใช้ในการศึกษาต่างประเทศเป็นเงินที่เธอได้จากการที่เธอให้การเพื่อช่วยเหลือคนร้ายในศาล
3 ปีต่อมา คังควอนจู (รับบทโดย อีฮานา) กลับมาและตั้งใจที่จะเปิดทีมพิเศษในชื่อ Golden Time Team ทีมงานที่จะทำงานภายในเวลาจำกัด เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โทรเข้ามาแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เธอทำงานในฐานะ Voice Profiler และเรียกตัวเขาที่เกลียดชัง โกรธแค้นเธอเข้าไส้ มาทำงานร่วมทีมกับเธอ
หลังจากดูผลงานของ OCN เรื่องนี้จบไป 2 ตอน ก็ถึงกับต้องอุทานว่า "คุณพระ!!!" เพราะมันช่างควรค่าต่อการได้รับตำแหน่ง "Signal แห่งปี 2017" เหลือเกิน กล้าบอกเลยว่า ถ้าใครชอบ Signal แล้วได้ดูเรื่องนี้จะต้องชอบแน่นอน แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีความแฟนตาซีเหนือจริงอะไร แต่นางเอกก็มีความสามารถที่พิเศษมากๆ คือการที่เธอมีหูที่สามารถฟังเสียงต่างๆได้ดีกว่าคนอื่น นอกจากนี้เธอยังสามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่างๆได้จากเสียงที่ได้ยินด้วย แม้จะไม่แฟนตาซีซะทีเดียว แต่ก็เป็นความสามารถที่เหนือจริงเลยแหละ
ด้วยอารมณ์ที่เข้มข้นของดราม่าความขัดแย้งระหว่างตัวละครหลัก บวกกับการแสดงอันมีพลังของนักแสดงทั้งคู่ ทำให้อารมณ์ของเรื่องหนักหน่วง เข้มข้น เมื่อประกอบกับเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับการคลี่คลายในระยะเวลาจำกัด (เป้าหมายคือการจัดการทุกอย่างภายในเวลา 10 นาทีหลังจากได้รับสายการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย) ก็ยิ่งกดดันเข้าไปอีก บางฉาก ถึงกับลืมหายใจทีเดียว
แม้ว่า Voice จะเป็นผลงานของผู้กำกับจาก Pied Piper และ Liar Game และคนเขียนบทที่ร้างลาจากวงการไปถึง 7 ปี แต่กลับมีความคล้าย Signal ผลงานการเขียนบทของคิมอึนฮี ในหลายจุด เช่นการใช้แสง และความจำกัดของพื้นที่ ที่ช่วยสร้งอารมณ์ร่วมให้รู้สึกอึดอัด หวาดกลัวไปกับตัวละคร และสิ่งที่ช่วยให้กระตุ้นอารมณ์ระทึกอีกอย่างที่คล้ายกันคงหนีไม่พ้น การใช้ข้อจำกัดทางเวลาเนี่ยแหละ อีกจุดที่เหมือนกันก็คือ กาที่คดีในเรื่องได้แรงบันดาลใจจากคดีที่เกิดขึ้นจริงเหมือน Signal
แม้ตอนนี้จะออกอากาศมาเพียง 2 ตอน และยังไม่เห็นบทบาทของตัวละครบางตัวทีเพียงแค่โผล่หน้ามาให้รู้จักกัน แต่คาดว่าสมาชิกทีมแต่ละคน คงเริ่มมีบทบาทต่อเรื่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หนุ่มไวท์แฮคเกอร์ (แฮคเกอร์ที่ใช้ความสามารถในการป้องกันระบบต่างๆ) หรือเจ้าหน้าที่สาวที่เชี่ยวชาญหลากหลายภาษา จากสองตอนแรกเราจะเห็นการสั่งงานและทำงานร่วมกัน ระหว่างนางเอกที่อาจจะเรียกว่าเป็นทีมสมอง และพระเอกที่เป็นทีมแอคชั่น
ทั้งบท ภาพ ความสามารถของนักแสดง และด้วยเรตติ้ง 2 กว่าของช่อง OCN และเรตติ้งสูงสุดของตอนที่ 2 ขึ้นไปแตะถึง 4.6 ก็ถือว่าเป็นเรตติ้งที่สุดยอดมากๆ ทำให้เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์เปิดต้นปีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ตัวอย่างตอนแรก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in