เจาะลึกเรื่องบอร์ดเกมของ ยุ้ย สฤณี นักวางหมากที่มีเกมเต็มบ้านหลายร้อยกล่อง
เริ่มรู้จักบอร์ดเกมได้ยังไง
เป็นคนเล่นเกมคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก มารู้จักบอร์ดเกมตอนเรียนหนังสืออยู่มัธยมปลายที่ต่างประเทศ อาจจะไม่ใช่บอร์ดเกมแต่เป็นเกม RPG ซึ่งเป็นเกมที่อยู่ในโลกสมมติที่ให้เราเป็นแฮกเกอร์ เป็นพ่อมด มันคล้ายกันแต่มันไม่ได้อยู่บนกระดาน จนกลับมาที่ไทยก็ไม่ได้เล่นเกมนานเลย เพราะไม่ชอบเกมออนไลน์ ประมาณปี พ.ศ. 2550 มีเพื่อนเริ่มแนะนำให้ลองเล่นบอร์ดเกมตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจ เพราะเรานึกว่าเป็นเกมยากๆ ยาวๆ คือเราเคยได้ยินบอร์ดเกมพวกสงครามที่ต้องเล่นทีนึง 10 ชั่วโมง
ปัจจุบันเล่นนานสุดที่กี่ชั่วโมง
12 ชั่วโมงค่ะ (หัวเราะ) ชื่อเกม Arkham Horror เริ่มเล่นกับเพื่อนตั้งแต่ 8 โมง เล่นเสร็จตอน 6 โมงเย็น มีพักกลางวันระหว่างเล่นด้วยแต่ก็เหนื่อยมาก
ใช้เวลาเล่นเกมเท่าชั่วโมงทำงานเลย (หัวเราะ)
จนเราได้ไปที่ CDC เจอร้านเกมร้านหนึ่งชื่อ Polar Play Games ก็เจอเกมสมัยใหม่ที่มันง่ายหน่อย ตอนนั้นเขาแนะนำเกมหนึ่ง เป็นเกมจับสัตว์ในฟาร์ม ซึ่งสิ่งที่สังเกตคือเพื่อนเป็นคนที่ไม่เล่นอะไรเลยในชีวิต แต่กลับสนใจมาก พอทดลองเล่นสองสามเกมเขาก็ซื้อกลับบ้าน เพื่อเอาไปเล่นต่อกับคนอื่นได้ เราก็เพิ่งรู้ว่าบอร์ดเกมจะมีการออกแบบเกมให้เหมาะสำหรับคนทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเล่นเกมมาก่อน เราก็เลยติดตามและหาซื้อ และเริ่มเอาเกมไปหลอกล่อ ก็เริ่มจากเกมง่ายๆ พอเล่นจากเกมง่ายก็จะรู้ว่ายังมีเกมอีกเยอะเลย จากนั้นก็เริ่มสะสม
เกมแรกที่ซื้อคือเกมอะไร
Piece of Cake เป็นเกมแบ่งเค้ก ภาษาเยอรมัน คือเป็นเกมที่เล่นง่ายแค่ สิบกว่านาที ต้องหาวิธีแบ่งเค้กให้เราได้คะแนนเยอะที่สุด ความรู้สึกแรกที่ซื้อคือเอาไปหลอกคนไม่เล่นเกมให้เล่นกับเราได้ แล้วพอเอาไปหลอกก็สำเร็จอย่างงดงาม
มีวิธีหลอกล่อยังไง
ไปชวนตรงๆ เลย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องดูคนที่มีนิสัยขี้เล่นอยู่แล้ว หรือไม่ใช่คนฟอร์มเยอะๆ เพราะเกมมันจะหลอกล่อให้คุณแสดงตัวตนออกมา เนื่องจากในเกมเป็นสถานการณ์ที่เราคาดการณ์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนที่วางฟอร์มหรือแคร์สายตาคนอื่นว่าจะมองเรายังไงก็จะเป็นคนที่ชวนได้ยากอยู่
ถือว่าจริงเลยใช่ไหมที่บอร์ดเกมทำให้เผยธาตุแท้เพื่อน
ใช่ค่ะ เพราะนี่เป็นการสร้างเหตุการณ์สมมุติขึ้นมา คือเกมที่บังคับให้มีการทรยศกันเกิดขึ้นหรือทำให้มีการแกล้งกันได้ ดังนั้น สำหรับคนที่เก็บตัวหรือไม่ชอบให้ใครเห็นด้านไม่ดีอาจจะหลอกล่อยาก นอกจากสนิทกันมากเท่านั้น เกมมีความหลากหลายคล้ายๆ โลกหนังสือที่มีชอบไม่ชอบ ถนัดหรือไม่ถนัด
ชอบบทบาทในเกมไหนมากที่สุด
มีอยู่ 2-3 แบบ อย่างแรกคือแนวเศรษฐศาสตร์หรือบริหารธุรกิจ ที่จะมีการให้บริหารจัดการทรัพยากร แบบที่สองคือแนวผจญภัย หรือเกมที่มีพล็อต มีบทบาทให้เราเป็นผี แม่มด หรืออื่นๆ มีความสามารถมาให้แตกต่างกันไป แล้วเราก็ต้องใช้ทักษะนั้นให้ถูกจังหวะ เกมสุดท้ายคือแนวปาร์ตี้ ที่ชวนคนมาเล่นได้เยอะๆ จริงๆ ส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบเกมเฮฮาอะไรมาก แต่เนื่องจากเป็นคนสะสมเกมพวกนี้เพราะคิดว่ามันเอาไว้หลอกล่อคนได้ดีมาก
ดูเหมือนการเล่นบอร์ดเกมจะซีเรียสเหมือนกัน แล้วความสนุกอยู่ตรงไหน
หลายคนอาจไม่ชอบเล่นเพราะดูเครียดไปหน่อย แต่คนที่ชอบวางแผน ความเครียดนี้แหละที่ทำให้เกมดูสนุก ไม่เหมือนกับเวลาเราเครียดจากการทำงานนะ เพราะเล่นเกมเรามีเป้าหมายชัดเจน ยิ่งเครียดเพราะจะเอาชนะกัน เพื่อสะสมเงิน คือเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะงั้นก็เลยเป็นความเครียดที่เพลิดเพลินดี แต่พี่ไม่ใช่คนคิดเยอะบางเกมที่มันดูเหนื่อยเกินไปก็เล่นไป แค่ไม่เล่นให้ตัวเองเป็นที่โหล่
เคยเจอคนเล่นที่จริงจังมากๆ ไหม
เคยนะ แต่จะไม่ค่อยชอบเล่นด้วยเท่าไหร่ เพราะมันดูมาคุมากเลย มันเป็นบรรยากาศที่ไม่ดี มีคนหนึ่งเขาเล่นแพ้กันในกลุ่ม 2-3 คน แล้วเขาแพ้ 1 คะแนน เขาก็หน้าแดงแล้วเอามือทุบโต๊ะ เราก็ตกใจมาก คือเขาก็เครียดและคิดเยอะมากเลยว่าทำไมถึงแพ้ สำหรับเขาคงสนุกดีแต่คนอื่นอาจคิดว่าเครียดไปไหมและอาจเกิดความไม่สบายใจว่าถ้าเขาแพ้อีกอาจทำอะไรที่ไม่ดีใส่ก็ได้
เคยคิดถึงขั้นที่จะเล่นบอร์ดเกมแบบจริงจัง เพื่อไปลงแข่งบ้างไหม
ไม่เคยคิดที่จะไปแข่ง เพราะส่วนใหญ่ก็คือเล่นกับเพื่อนๆ และเราก็ไม่ได้เล่นจริงจัง
ปกติบอร์ดเกมมีหลายราคา ของพี่ยุ้ยราคาแพงสุดเท่าไหร่แพงสุดที่เคยซื้อมาคือ 200 เหรียญ หรือประมาณ 6000 บาท เพราะมันเป็นเกมใหญ่และหายากเพราะขาดตลาดไปแล้ว เหมือนกับคนทั่วไปที่สะสมแล้วมันเกิดกิเลสคล้ายกับหนังสือที่เวลาเราชอบเราก็จะหาซื้อเก็บเอาไว้ เราจะต้องไปหา เฟิสต์อีดิชั่น ที่มีแค่ 50 เล่มในโลก
ได้ยินมาว่าพี่ยุ้ยสามารถเล่นเกมพร้อมกันได้ทีเดียวสองเกม
3 เกมก็เคยเล่นค่ะ (หัวเราะ) เพราะเราไม่ได้เอาชนะแค่เล่นให้ถูกกฎ ก็เหมือนเล่นหมากรุกที่เล่นพร้อมกัน 3 กระดาน เพราะบางทีเพื่อนเขามากันหลายคน ขณะที่เกมเล่นได้เต็มที่ก็เล่นได้ 2-5 คน พอมา 8 คนก็เลยยากที่จะหาเกมที่เล่นได้ครบทุกคน เลยต้องมีการเล่นแยก เพราะบางเกมไม่มีใครรู้กฏ แต่ดีที่พี่ชอบเป็นกรรมการ ทำให้เผยแพร่ได้ดีไม่จำเป็นต้องเล่นก็ได้ แค่สอนและก็ดูพวกเขาเล่นกัน
ถ้าให้เทียบบอร์ดเกมที่มีเป็นเงินสดจะสามารถไปซื้ออะไรได้บ้าง
อืมมมม ซื้อรถฮอนด้า ซิตี้ได้คันนึงมั้งคะ (หัวเราะ)
"สองคันเถอะ" (เสียงตะโกนจากพี่หนุ่ม โตมร ผู้ที่อยู่ด้วย ณ เวลานั้น)
ถ้าอยากรู้ว่าทำไมนักเขียน และนักวิชาการอย่าง ‘สฤณี อาชวานันทกุล’ ถึงกลายเป็นนักเล่นบอร์ดเกมตัวยง มันสนุกอะไรขนาดนั้นต้องอ่าน ‘ON BOARD จักรวาลกระดานเดียว’ เพราะเธอจะพาไปรู้จักบอร์ดเกมสุดเจ๋งจากทั่วโลกที่ไม่ได้มีแค่เกมเศรษฐี หลายเกมมีวิธีคิดที่น่าสนใจ หลายเกมหยิบเอาประวัติศาสตร์มาจำลองได้อย่างน่าทึ่ง และหลายเกมจะทำให้คุณลืมเกมรูปแบบอื่นไปในทันที
มาลองเล่นเกมไปด้วยกันได้ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ บูธแซลมอน Y07 ตั้งแต่ 29 มีนาคม - 10 เมษายน 2559 ศูนย์ประชุมแห่งชาติศิริกิติ์
ขอบคุณภาพจาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in