Public universal friend (สหายสาธารณะสากล) เป็นชื่อคนนะคะทุกคน ตีมของเรื่องนี้คือ เพศ คริสต์ศาสนา และการฟื้นคืนชีพ
เมื่อไม่นานมานี้ Public Universal Friend ได้กลายเป็นที่สนใจในแวดวงบล็อกเกอร์ ทัมเบลอร์และทวิตเตอร์ต่าง ๆ ตอนนี้คนก็ยังพูดถึงกันอยู่เลยนะ มีทำเป็นมีมด้วย เป็นทั้งมีมทั้งไอคอน ก็เล่นกันส่วนใหญ่ในกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ(queer community) แหละค่ะ เลยลัดคิวเอามาเล่าก่อนเลยแล้วกัน
นี่แคปมาวันที่ 16 นะคะ ยังพูดกันอยู่เลยอะ 55555
ว่าแต่คนคนนี้เป็นใคร มาดูกันแบบสั้น ๆ พอสนุก
Public Universal Friend มีชื่อเดิมว่า เจไมมา วิลกินสัน (Jemima Wilkinson) เกิดปี 1752 เติบโตในครอบครัวที่นับถือนิกายเควกเกอร์* หรือเรียกอีกชื่อว่าสมาคมมิตรสหาย และตัวเธอเองก็สนใจศาสนาตั้งแต่ยังเด็ก
*เควกเกอร์หรือสมาคมมิตรสหาย บางที่ก็เรียกนิกาย บางที่ก็เรียกเป็นคณะเฉย ๆ ก็เป็นแขนงหนึ่งของคริสต์ จุดเด่นน่าจะเป็นการเน้นเรื่องความสงบ เรียบง่าย ยุติธรรม ซื่อสัตย์ ไม่ชอบพิธีกรรมหรูหรา เชื่อว่าทุกคนรวมไปถึงผู้หญิงควรจะรับใช้พระเจ้า เป็นนิกายแรกๆในคริสต์ที่ค่อนข้างจะให้พื้นที่ผู้หญิงบ้าง ช่วงตั้งแรก ๆ ในอังกฤษโดนกวาดยับเลยนะ เป็นเควกเกอร์แล้วโดนเอาไปตัดหูอะไรทำนองนั้น
เธอไปเข้าร่วมในการประชุมครั้งหนึ่งของกลุ่มนิวไลท์แบพติสต์ ในภายหลังจึงถูกไล่ออกจากการประชุมของสมาคมมิตรสหายไปเมื่อเดือนสิงหาคม 1776
สองเดือนถัดมา เมื่ออายุได้ประมาณ 24 ปี เธอก็ล่มป่วยด้วยอาการไข้อย่างหนักถึงขนาดเกือบเสียชีวิต แต่แล้วเธอก็เดินออกมาหาครอบครัวแล้วประกาศว่า เจไมมาได้เสียชีวิตไปแล้ว ร่างกายที่ทุกคนเห็นอยู่ในขณะนี้เป็นร่างกายของเจไมม่าก็จริง แต่จิตวิญญาณเป็นของจิตวิญญาณแห่งชีวิตที่พระผู้เป็นเจ้าส่งมา (Spirit of Life from God) เพื่อที่จะได้มาช่วยโลกที่กำลังหลงทาง หลงผิด ติดอยู่กับการนินทาและกำลังตายลง ( “lost and guilty, gossiping, dying World.” ) และจะมาเผยแพร่คำประกาศต่อไปทั่วโลก จากนั้นก็บอกว่าชื่อใหม่คือ Public Universal Friend และจะหันก็ต่อเมื่อมีคนเรียกด้วยชื่อนี้เท่านั้น หรือจะเรียกด้วยชื่อสั้นๆว่า the Friend ก็ได้นะ
นอกจากจะไม่ตอบโต้พูดคุยกับคนที่เรียกด้วยชื่อเจไมมาแล้ว ก็ยังยืนยันจะไม่ใช้คำสรรพนามชี้เพศด้วย
สหายนักเทศน์
ต่อไปขอเรียกสั้น ๆ ว่าสหายนะคะ เพื่อความลื่นไหลในการเล่า
วันอาทิตย์หลังจากที่ฟื้นคืนชีพมาเกิดใหม่สหายก็ได้ออกไปเผยแพร่คำสอนเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าออฟฟิเชียลในนิกายเควกเกอร์ก็ต่อต้านนั่นแหละ แต่สหายก็ยังเดินทางไปเทศต่อที่เกาะโรด แมสซาชูเซตส์ คอนเนตทิคัต และเพนซิลเวเนีย
สหายได้ผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมของคริสเตียนเกี่ยวกับเรื่องบาปเข้ากับคติเรื่องความสงบและเรียบง่ายของเควกเกอร์ สนับสนุนแต่งกายที่เรียบง่ายและความสัมพันธ์ที่สงบสุขกับชนพื้นเมืองอเมริกันอินเดียน สนับสนุนให้เลิกทาส และเชื่อมั่นในการละเว้นทางเพศ
นอกจากนี้ สหายยังสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเพศท่ามกลางสังคมสหรัฐอเมริกาที่ผู้หญิงยังไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายในขณะนั้นด้วย
ผู้คนไม่เพียงถูกดึงดูดด้วยคำสอนที่ก้าวหน้าเท่านั้น แต่ยังถูกดึงดูดด้วยบุคลิกที่มีพลังและรูปลักษณ์ที่ลื่นไหลทางเพศด้วย สหายปฏิเสธเครื่องแต่งกายและทรงผมตามขนบของผู้หญิง แต่แต่งกายด้วยการผสมผสานทั้งความเป็นชายและความเป็นหญิงเข้าด้วยกัน ปกติมักสวมชุดนักบวชเพศชายสีดำหลวม ๆ โดยมีกระโปรงชั้นในสตรี (Petitcoat) โผล่ออกมานิด ๆ ที่ชายเสื้อ เครื่องแต่งกายอื่น ๆ ที่ใส่ก็เช่น หมวกปีกกว้างที่ผู้ชายนิยมใส่ กับผ้าพันคอสีสันสดใสที่ผู้หญิงนิยม
สมาชิกในครอบครัวของเจไมมาหลายคนทิ้งศรัทธาจากเควกเกอร์มาติดตามสหายแทน ในบรรดาผู้ติดตามมีบุคคลที่มีอิทธิพลจำนวนหนึ่งรวมอยู่ด้วย หนึ่งในนั้นคือผู้พิพากษาวิลเลียม พอตเตอร์แห่งเซาท์คิงส์ทาวน์โรดไอแลนด์ ( Judge William Potter of
South Kingstown,
Rhode Island) ซึ่งดำเนินตามคำสอนของสหายโดยการปล่อยทาสในความครอบครองให้เป็นอิสระ และละทิ้งอาชีพทางการเมือง
กล่าวกันว่าสหายไม่ใช่ทั้งชายและหญิง แต่กระนั้นผู้ติดตามก็มักใช้สรรพนามเพศชายเพื่ออ้างถึงเขา ผลงานที่ตีพิมพ์โดยสหายซึ่งมีอยู่ชิ้นเดียวก็มีการลงนามเอาไว้ว่า "เพื่อนและพี่ชายของคุณ” (your friend and brother) ผู้ติดตามหลายคนมักจะใส่ชุดที่มีความเป็นผู้ชายด้วย
สหายไม่เคยบอกชัด ๆ ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ผู้ติดตามหลายคนเชื่อว่าเป็นผู้มาโปรด (messiah) เลยทีเดียว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in