มีคำอธิบายอยู่ในบทสัมภาษณ์เรื่องโอเมกิดว่า เขาไม่มีคอนเซปต์เรื่องคนข้ามเพศ* และคอนเซปต์เรื่องโอเมกิดแตกต่างจากเรื่องนี้อยู่
จากบทสัมภาษณ์ได้ความว่า
El concepto de Omegiid es ser hombre y mujer , es transitar, es convivir entre los dos generos. Una Megiid no (le) interesa si es una mujer o un hombre. Simplemente ser mujer en su momento.
แนวคิดของโอเมกิด คือการเป็นผู้ชายและผู้หญิง คือการข้ามผ่าน คือการมีชีวิตอยู่ระหว่างเพศทั้งสอง โอเมกิดไม่สนใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพียงแต่เป็นผู้หญิงเมื่อเวลาของการเป็นผู้หญิิงมาถึง
ซึ่งถ้าจะให้โยงมาแนวคิดปัจจุบันเราอาจจะเรียกการลื่นไหลทางเพศนี้ว่า gender-fluid หรืออาจจะเอียง ๆ ไปทาง non-binary แต่มันก็ไม่เชิงเสียทีเดียวนัก เพราะไม่รู้ว่าคนที่มีเพศกำเนิดเป็นผู้หญิงจะสามารถลื่นไหลแล้วได้รับการยอมรับได้เหมือนคนที่มีเพศกำเนิดเป็นผู้ชายหรือเปล่า แม้ว่ามันจะคาบเกี่ยวอยู่กับการเป็น ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และ ไม่ใช่ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ก็ตาม ผลสุดท้ายแล้วคิดว่าคอนเซปต์ของคำของเขาน่าจะอธิบายตัวเองได้ดีสุดแล้ว
ในด้านประวัติศาสตร์ การล่าอาณานิคมย่อมนำเอาความเชื่อต่าง ๆ เข้ามาด้วย อย่างที่รู้กันว่าสเปนนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และเป็นคาทอลิกจ๋าในสมัยก่อน เรื่องรักเพศเดียวกันถูกมองเป็นบาปในสมัยนั้น หลังจากที่สเปนตั้งอาณานิคมในปานามา LGBT ก็กลายเป็นข้อห้าม การมีสัมพันธ์ทางทวารหนักมีโทษประหาร แต่แม้จะถูกกดดันและปราบปรามในช่วงนั้น ชาวกุนาก็สามารถรักษาประเพณีและขนบธรรมเนียมประเพณีเอาไว้ได้
สเปนปกครองปานามายาวนานกว่าสามร้อยปี ความคิดเรื่องรักบางประเภทเป็นบาปจึงฝังอยู่ในปานามา แม้จะประกาศเอกราชแล้ว รัฐบาลปานามาก็ยังพยายามปราบปราบรักเพศเดียวกันอยู่ดี แต่ชาวกุนาก็ยังรักษาความเชื่อเอาไว้อีกเช่นเดิม
ปานามาเคยจัดเดินขบวนไพรด์ไปแล้ว แต่ภาพรวมสังคมปานามาปัจจุบันยังมีอคติเรื่องความหลากหลายทางเพศอยู่พอควร เท่าทีฟัง ๆ มาคือถ้าไปเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่จะปลอดภัยกว่า แต่อาจโดนล้อได้เหมือนกัน บางโรงแรมอาจไม่ต้อนรับ ถ้าไปต่างเมืองก็ต้องลองศึกษาดูก่อนว่าท่าทีในเมืองนั้นโดยรวมเป็นยังไง
มีนักเคลื่อนไหวหลายคนออกมาเรียกร้องสิทธิ์ และยังเรียกร้องอยู่จนปัจจุบัน
และมีคนที่มีปัญหาการไม่ยอมรับเหมือนกัน (มีคนที่บอกว่าอยากแต่งงานถ้าประเทศปานามายอมให้แต่งงานเพศเดียวกันถูกกฎหมายเสียที คนที่บอกว่าที่บ้านไม่ยอมรับ ไปจนถึงคนที่รู้สึกว่าต้องพิสูจน์ว่าโอเมกิดมีคุณค่าด้วยการพยายามเลี้ยงลูกสาวของตัวเอง)
งงๆไหมคะ ว่าปัญหาการไม่ยอมรับมาได้อย่างไรถ้าคนยึดถือตำนานและแนวคิดนี้มายาวนานมาก ในสัมภาษณ์ของบีบีซี นานดิด โซลิส การ์เซีย (Nandín Solís Garcia) นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิทางเพศในปานามา ออกความเห็นว่า การที่ชาวพื้นเมืองติดต่อกับคนข้างนอกโดยเฉพาะแถบตะวันตก ทำให้ได้รับเรื่องการเลือกปฎิบัติเพราะอคติทางเพศกลับมา (แต่ในภาพรวมยังไม่มาก ชาวกูนายังมองว่าเรื่องลื่นไหลทางเพศสุดจะธรรมดาอยู่ดี)
นอกจากนั้นอีกปัญหาหนึ่ง คือมีคนที่ออกไปโดยที่ไม่มีความรู้เรื่องการป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์แล้วนำเอาเอชไอวีกลับมาด้วย ตอนนี้ก็มีการจัดตั้งองกรณ์เพื่อให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์และการป้องกันแล้วค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in