เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Sleeveless Loverainbowflick17☂️
Frida Kahlo มรสุม-หลากรักในรูปวาด
  • มาเล่าเรื่องคนดังอีกแล้ว แต่จะไม่เล่าประวัติละเอียดมาก (เพราะมีให้อ่านเยอะแล้ว) และหันไปเล่าเรื่องคนรักแต่ละคนของเธอ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ค่อยเห็นมีคนเล่าถึงเป็นภาษาไทยเท่าไหร่ ถ้าใครอ่านประวัติบ่อยแล้วก็สามารถข้ามช่วงประวัติไปได้เลยค่ะ 

    มรสุม (ประวัติแบบย่อเกือบที่สุดในโลก)


    ภาพเข้าถึงจาก timetoast
    ฟริดา กาห์โล (Frida Kahlo) เป็นหนึ่งในศิลปินเอกของเม็กซิโกและเป็นที่รู้จักจากการวาดภาพเหมือนตัวเอง (Self-potraits) กาห์โลเป็นโรคโปลิโอตอนอายุหกขวบ ทำให้ขาและเท้าข้างขวาของเธอไม่มีแรง พ่อของเธอแนะนำให้เธอเล่นฟุตบอลและว่ายน้ำ หลังจากป่วยอยู่ 9 เดือนก็ฟื้นตัว 

    ปี 1922 กาห์โลเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง โดยตัวโรงเรียนเพิ่งจะเปิดรับผู้หญิง ทำให้มีจำนวนนักเรียนผู้หญิงไม่มากนัก มีนักเรียนหญิงเพียง 35 คน จาก จำนวนนักเรียนทั้งหมด 2,000 คน เธอมีเป้าหมายคือเป็นหมอ แล้วเธอก็มีผลการเรียนที่ดีด้วย นอกจากนั้น กาห์โลยังสนใจวัฒนธรรมเม็กซิกัน การเคลื่อนไหวทางการเมือง และประเด็นด้านความยุติธรรมทางสังคมเป็นอย่างมาก

    ความสนใจในเรื่องการเมืองนี้อาจเกิดขึ้นเพราะว่าเธอเองก็อยู่ในช่วงที่มีการปฎิวัติเม็กซิกัน ( Revolución Mexicana, Mexican Revolution หรือ Guerra Civil Mexicana กินช่วงเวลาประมาณ 1910 ถึง1920 ) และธุรกิจภาพถ่ายของพ่อเธอก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วย

    วันที่ 17 กันยายน 1925  เธออายุ 18 ปี รถโดยสารที่เธอกับอเลคันโดร โกเมซ (Alejandro Gómez) แฟนหนุ่ม ณ ขณะนั้นนั่งอยู่ประสบอุบัติเหตุชนกับรถราง ทำให้เธอเกือบเสียชีวิต แฟนเป็นคนช่วยพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เธอไหล่เคลื่อน กระดูกสันหลัง กระดูกไหปลาร้า ซี่โครง กระดูกเชิงกรานและเท้าแตก ต้องใส่เฝือกทั้งตัว ตลอดช่วงชีวิตของเธอ เธอผ่าตัดไปทั้งสิ้นกว่า 30 ครั้ง

    ภาพจาก Museo Fridah Kahlo, Mexico City เข้าถึงจาก dw.com

    อันที่จริงกาห์โลก็สนใจศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้มองว่าจะยึดการวาดภาพเป็นอาชีพจริง ๆ จัง ๆ แต่อย่างใด และหันความสนใจไปหาแพทย์แล้วก็ตาม ในขณะที่พักฟื้นตัวนี่เองที่เธอกลับมาให้ความสนใจศิลปะมาก ๆ อีกครั้ง โดยเริ่มมีความคิดว่าอยากเป็นนักวาดภาพประกอบเกี่ยวกับการแพทย์ (Medical illustrator)  เธอจึงเริ่มวาดภาพอีกครั้งทั้งที่นอนอยู่บนเตียง 

    ปี 1927 เธอฟื้นตัวดีขึ้นในระดับที่ไม่ต้องนอนบนติดเตียง กลับไปเข้าสังคมกับเพื่อนจากโรงเรียนเก่า และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์เม็กซิกัน (PCM) รู้จักกับนักเคลื่อนไหวและศิลปินหลายคน

    ภาพเข้าถึงจาก el independiente

    ปี 1928 รู้จักกับ ดิเอโก ริเบรา (Diego Rivera) ผู้เป็นศิลปินดัง เธอจึงเอาผลงานรูปวาดไปถามเขาว่าเขาคิดอย่างไร คิดว่าเธอจะยึดการวาดภาพเป็นอาชีพได้ไหม ซึ่งเขาชอบผลงานของเธอมาก ๆ 

    ต่อมาทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน แม้ว่าริเบราจะอายุมากกว่าเธอ 20 ปีก็ตาม เมื่อทั้งคู่จะแต่งงานกันนั้น แม่ของกาห์โลไม่เห็นด้วย แต่พ่อเห็นว่าริเบรามีฐานะและสามารถเลี้ยงดูกาห์โลซึ่งยังจำเป็นต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลอยู่ ทั้งคู่หย่ากันในภายหลัง แล้วก็กลับมาแต่งงานกันใหม่อีกคร้ัั้ง

    ภาพวาดของเธอจัดแสดงทั้งในปารีสและเม็กซิโก


    ภาพจาก biografias y vidas


    หมายเหตุ
    ขออนุญาตแจ้งอีกรอบ เนื่องจากกาโลดังมาก ๆ มีชีวประวัติให้หาอ่านได้ทั่วไป มีแปลเป็นไทยหลากหลายแหล่ง เราจึงจะเล่าตรงนี้แค่ย่อ ๆ ทางด้านศิลปะของเธอก็เล่าเรื่องราวชีวิต และเรื่องราวของผู้หญิงได้ทรงพลังมากจนอดใจจะเล่าไม่ได้ (ขวัญใจศิลปะเฟมินิสต์) แต่เนื่องจากหาอ่านได้มากมายและมีแปลเป็นไทยแล้วเช่นกัน เราจึงจะเล่าย่อ ๆ เท่านั้น (อีกแล้ว) 

    ในส่วนของคนรักเราจะได้ยินชื่อดิเอโก้บ่อย แต่คนอื่น ๆ ไม่บ่อยเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะคนรักผู้หญิง เลยจะขอโฟกัสเรื่องความสัมพันธ์ของเธอในส่วนที่ยังไม่ค่อยเห็นมีคนเล่าเป็นภาษาไทยค่ะ
    หมายเหตุตรงนี้ให้ไว้เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้ชีวิตรักหรือตัวตนความเป็นเควียร์ของเธอบดบัง (overshadow) งานของเธอแต่อย่างใด
  • ศิลปะ

    ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวความรักของเธอกับคน(ที่ลือว่าเธอ)รักจำนวนหลายคน อยากจะพูดเรื่องความรักที่น่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดของกาโล นั่นคือความรักที่เธอมีให้ศิลปะก่อนค่ะ

    ลักษณะที่โดดเด่นคือสีสันสดใส มีการยกย่องศิลปะเม็กซิกันพื้นเมือง เล่าเรื่องหลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องความเจ็บปวดในชีวิต เรื่องผู้หญิง มาตรฐานความงามของผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอเอง ต่อไปนี้จะยกตัวอย่างภาพบางภาพแล้วลองเล่าไปเรื่อย ๆ ดูว่าคนมองว่าภาพพวกนี้มีอิทธิพลอะไรบ้าง ทำไมถึงมีคนมองว่าศิลปะของเธอสนับสนุนเฟมินิสต์


    เข้าถึงจาก fridakahlo.org

    ถ้าพูดถึงประเภทภาพที่ดังที่สุดของกาห์โล ก็คงจะเป็นภาพเหมือน ภาพเหมือนตัวเองชิ้นแรกของเธอคือคือ Autorretrato con vestido de veludo (Self Portrait in a Velvet Dressปี 192 ซึ่งวาดขึ้นมาเพื่อจะใช้โน้มน้าวให้แฟนหนุ่มอเลคันโดร (ผู้ร่วมชะตากรรมในอุบัติเหตุรถบัส) กลับมาคืนดีกับเธอหลังจากที่ทำท่าจะเลิกรากันไป ซึ่งก็ทำให้เขากลับมาหาเธอจริง ๆ แต่หลังจากนั้นก็มีเหตุให้ต้องเลิกรากันไปอีกครั้ง


    เข้าถึงจาก malaganida.es

    ภาพนี้ชื่อ Autorretrato con Collar de Espinas (Self-Portrait with Thorn Necklace and Hummingbirdis) ปี 1940 วาดเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดอีกแล้ว โดยเห็นจากสร้อยคอลักษณะเหมือนรากไม้ที่รัดคอเธออยู่ คาดว่าเกี่ยวกับการหย่าสามี

    เราจะเห็นเรื่องพื้นถิ่นเม็กซิโกในภาพนี้ด้วย คือนกฮัมมิงเบิร์ดที่ตายแล้วซึ่งห้อยเป็นจี้อยู่ตรงคอของเธอเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีในเรื่องความรักในตำนานพื้นบ้านของเม็กซิโก ในขณะที่เสือดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย และลิงเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย

    แต่สิ่งที่อยากให้ดูนอกเหนือจากนั้นคือภาพหน้าของเธอ หลายคนวิเคราะห์ว่าเธอปฎิเสธความงามในลักษณะที่สังคมบอกว่างาม โดยเห็นจากคิ้วที่หนาเกือบจะชนกัน และรอยหนวดตรงบนปาก ภาพวาดตัวเองของเธอหลาย ๆ ภาพจะเป็นลักษณะนี้ คือคิ้มเข้มชนกันและมีรอยหนวด 

    -

    อีกรูปที่ดังมากคือ Henry Ford Hospital ปี 1932  ที่วาดขึ้นหลังจากเธอแท้งลูก มีสายโยงใยไยงสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทารก หอยทาก ซึ่งสื่อถึงระยะเวลาที่ใช้ในการพักฟื้นจากการแท้ง ดอกไม้ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สามีให้เธอมา เป็นต้น 

    มีหลายคนมองว่าภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด และอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาของกาห์โลมีอิทธิพลตรงที่ว่า ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากศิลปินผู้หญิงพยายามแสดงความรู้สึกและอารมณ์ที่ลึกซึ้งและรุนแรง มักจะโดนตราหน้าว่าบ้า ในขณะที่ถ้าเป็นศิลปินผู้ชาย จะได้รับการยกย่องว่าสื่อสารถึงความเศร้าโศกได้ทรงพลัง การที่เธอวาดภาพตามที่ใจอยากจะสื่อ และแสดงความเจ็บปวดออกมาในหลาย  ๆ ภาพอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถสื่อถึงความเจ็บปวดและเศร้าโศกได้เหมือนกันโดยไม่จำเป็นต้องถูกตราหน้าแต่อย่างใด


    เข้าถึงจาก fridakahlo.org

    Cocos llorando (Weeping Coconuts) อีกงานที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่เธอมีให้เม็กซิโก ทั้งจากมะพร้าวที่เป็นพืชสำคัญของประเทศ และธงชาติที่ปักอยู่พร้อมข้อความว่าเธอวาดขึ้นมาด้วยความรัก  ภาพนี้วาดในช่วงบั้นปลายชีวิต  

  • หลากรัก

    รูปถ่ายกาห์โลกับริเบรา จาก Getty Image

    เรื่องความรักของกาห์โลกับสามีเป็นที่รู้จักดี มีจดหมายรักที่คนกล่าวถึงกันบ่อย ๆ และเป็นที่รู้กันว่าหลายภาพที่กาห์โลวาด ก็วาดเพื่อสื่อถึงสามีของเธอโดยเฉพาะหลังหย่ากันครั้งแรก

    อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็ยังดังเรื่องมีชู้ด้วย (ทั้งสามีทั้งภรรยานี่แหละ) เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็คือ กาห์โลเป็นไบเซ็กชวล ส่วนเสีองลือมีมูลแค่ไหน เดี๋ยวเรามาไล่ดูคนที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ กันไปทีละคนเลยดีกว่าค่ะ 

    1.  เลออน ทรอทสกี้ (Leon Trotsky)

     นาตาลยา เซโดวา (Natalya Sedova) , ฟรีดา กาห์โล (Frida Kahlo), เลออน ทรอทสกี้ (Leon Trotsky) และ แม็ก สแครชเมน (Max Schachtman), เม็กซิโก, 1937. ภาพถ่ายโดย Bettmann ภาพจาก Getty Images
    ในเดือนมกราคมปี 1937 กาห์โลได้พบกับ เลออน ทรอทสกี้ และภรรยาของเขาที่เดินทางจากรัสเซียมาเม็กซิโกเพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง 

    ที่ใครๆพูดกันก็คือหลังจากที่เธอกับสามีให้ที่อยู่อาศัยทั้งคู่แล้ว กาห์โลกับทรอทสกี้ก็ดูจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน บ้างก็ว่ากาห์โลพยายามจะทำให้สามีของเธอหึง เพราะเขาเอวก็ไปคบชู้กับน้องสาสกาห์โลอยู่ในช่วงนั้น 

    หลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าที่พยายามหาคือคำบอกเล่าของ Ella  Goldberg Wolfe นักกิจกรรมทางการเมืองที่รู้จักกับกาห์โล 

    ภาพจาก fridakahlo.org

    นอกจากนั้นก็มีภาพที่กาห์โลวาดให้เป็นของขวัญกับทรอทสกี้ในวันเกิด ชื่อว่า Autorretrato dedicado a Leon Trotsky (Self-Portrait Dedicated to Leon Trotsky) หรือบางครั้งก็เรียกว่าภาพ Entre las cortinas (Between The Curtain) เป็นภาพเธอถือจดหมายซึ่งเนื้อความในจดหมายนั้นก็เขียนให้ทรอทสกี้นั่นเอง  ใจความว่า่

    "To Leon Trotsky, with all my love, I dedicate this painting on 7th November 1937. Frida Kahlo in Saint Angel, Mexico".


    2. จอเจีย โอคีฟ (Georgia O'Keffe)

    ภาพจากบล็อกAll That Can Happen

    โอคีฟเป็นศิลปินหญิงชาวอเมริกันที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ หลายคนน่าจะเคยเห็นภาพวาดดอกไม้ของเธอ 

    กาห์โล และ โอคีฟ พบกันในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 ในสหรัฐอเมริกา (กาห์โลเดินทางไปที่นั่นเพื่อสนับสนุนริเบรา) ทั้งคู่มีอะไรคล้ายหันหลายอย่าง เช่น เป็นศิลปินหญิงที่แต่งงานกับชายสูงอายุทั้งคู่ ชื่อเสียงของสามีในเวลานั้นบดบังชื่อเสียงของตัวเองทั้งคู่ และดูเหมือนว่ากาห์โลจะชอบโอคีฟด้วย

    ในปี 1933 โอคีฟเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กาห์โลก็เขียนจดหมายไปหา 


    ภาพจดหมายเก็บรักษาไว้โดย Beinecke Digital Collections 

    Georgia,

    Was wonderful to hear your voice again. Every day since I called you and many times before months ago I wanted to write you a letter. I wrote you many, but every one seemed more stupid and empty and I torn them up. I can't write in English all that I would like to tell, especially to you. I am sending this one because I promised it to you. I felt terrible when Sybil Brown told me that you were sick but I still don't know what is the matter with you. Please Georgia dear if you can't write, ask Stieglitz to do it for you and let me know how are you feeling will you ? I'll be in Detroit two more weeks. I would like to tell you every thing that happened to me since the last time we saw each other, but most of them are sad and you mustn't know sad things now. After all I shouldn't complain because I have been happy in many ways though. Diego is good to me, and you can't imagine how happy he has been working on the frescoes here. I have been painting a little too and that helped. I thought of you a lot and never forget your wonderful hands and the color of your eyes. I will see you soon. I am sure that in New York I will be much happier. If you still in the hospital when I come back I will bring you flowers, but it is so difficult to find the ones I would like for you. I would be so happy if you could write me even two words. I like you very much Georgia.

    Frieda

    จอร์เจีย 
    สำหรับฉันแล้ววิเศษมากที่ได้ยินเสียงเธออีกครั้ง ตั้งแต่โทรหาเธอคราวนั้นและครั้งก่อน ๆ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาฉันก็อยากเขียนจดหมายมาหา ฉันเขียนไว้เยอะเชียว แต่ทุกฉบับยิ่งเขียนก็ยิ่งดูว่างเปล่าและโฉดเฉา ฉันเขียนเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้อย่างที่ใจคิดนักหรอก โดยเฉพาะเวลาเขียนให้เธอ ฉันส่งจดหมายฉบับนี้มาเพราะฉันสัญญาแล้วว่าจะเขียนไปหา ฉันรู้สึกแย่มากตอนที่ซีบิล บราวน์บอกฉันว่าเธอไม่สบาย แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าเธอป่วยเป็นอะไร จอร์เจียที่รัก ถ้าเธอเขียนไม่ไหว ได้โปรดขอให้สตีกลิชเขียนแทนเธอได้ไหม แล้วเขียนมาบอกฉันหน่อยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ฉันจะอยู่ที่ดีทรอยอีกสองสัปดาห์ อยากเล่าให้เธอฟังเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้างตั้งแต่ครั้งสุดท้ายหลังเราพบกัน แต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นเรื่องเศร้า และเธอไม่ควรต้องมาฟังเรื่องอับเฉาในเวลาแบบนี้   ถึงอย่างไร ฉันก็ไม่ควรบ่นมากนักหรอก เพราะฉันก็มีเรื่องที่ทำให้สุขใจอยู่ไม่น้อย ดิเอโก้ดีกับฉัน เขามีความสุขมากที่ได้ทำงานภาพเขียนปูนเปียกที่นี่ ส่วยฉันก็วาดภาพบ้างนิดหน่อย แล้วมันก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นนะ ฉันคิดถึงเธอบ่อย ๆ และยังไม่ลืมมืออันแสนวิเศษของเธอ และสีนัยน์ตาของเธอ ฉันจะพบเธออีกในไม่ช้า ฉันเชื่อว่าฉันจะมีความสุขขึ้นมากในนิวยอร์ก ถ้าเธอยังอยู่ในโรงพยาบาลตอนที่ฉันกลับไป ฉันจะเอาดอกไม้ไปให้ แต่จะหาดอกไม้ที่ฉันอยากให้เธอคงจะยากเสียหน่อย ฉันจะมีความสุขมาก ๆ ถ้าเธอเขียนมาหาฉันแค่สองคำก็ยังดี ฉันชอบเธอมาก จอร์เจีย
    ฟรีดา 

    จดหมายนี้ก็ดูเป็นเพื่อนกันใช่ไหมคะ ไม่น่าจะมีอะไร ที่มีอะไรคือจดหมายอีกฉบับที่เธอเขียนไปหาเพื่อนเพื่อเล่าเรื่องจอร์เจียตางหาก

    บทความใน Vanity Fair บอกไว้ว่า แกลลอรี่ แมรี่ แอนน์ มาร์ติน ซึ่งเป็นแกลอรี่รวมศิลปะลาตินอเมริกามีจดหมายฉบับหนึ่งของกาห์โลที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนอยู่ในครอบครอง จดหมายฉบับนี้เธอส่งไปให้เพื่อนที่ดีทรอยท์ (Detroit) ลงวันที่ 11 เมษายน 1933 ที่นิวยอร์ก และมีใจความส่วนหนึ่งว่า

    "O'Keeffe was in the hospital for three months, she went to Bermuda for a rest. She didn’t made [sic] love to me that time, I think on account of her weakness. Too bad. Well that’s all I can tell you until now."

    ที่สังเกตได้คือมีคำว่า Make Love ที่แปลว่า ร่วมรัก ก็ได้ อยู่ด้วยนั่นเอง

    [sic] หมายความว่าเขาคัดลอกตามต้นฉบับทุกตัวอักษร แม้ว่าจะมีไวยากรณ์ที่ผิดก็ตาม

    3. ชาเบลา บารกาส (Chavela Vargas) 

    Vivo para Diego y para ti. Nada más
    ฉันอยู่เพื่อดิเอโก้ และเพื่อเธอ เพียงเท่านั้น

    กาห์โลบอกกับบารกาสในจดหมายฉบับหนึ่ง

    ภาพจากRevista Central 

    ชาเบลา บารกาสเป็นนักร้องชาวเม็กซิกันที่เกิดที่คอสตา ริก้า ร้องเพลงรันเชรา (Ranchera) ซึ่งเป็นแนวเพลงพื้นบ้านเม็กซิกัน เธอเป็นคนดังนะคะ มีสารคดีเป็นเรื่อง ๆ เลย เธอมีความเปรี้ยวอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใส่กางเกงอย่างเปิดเผยออกไปไหนมาไหน ในยุคสมัยที่ผู้หญิงใส่กางเกงถือว่าประหลาดมาก เป็นนักร้องหญิงคนแรกในเม็กซิโกที่ออกมาร้องเพลงให้ผู้หญิงตรง ๆ ซึ่งสมัยนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำกัน

    (อันที่จริงตั้งแต่เป็นสาวก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้ชายอยู่แล้ว สูบบุหรี่ แล้วก็พกปืนด้วย)


    แนะนำเล่น ๆ ซักเพลง

    ในหนังสืออัตชีวประวัติของเธอที่ตีพิมพ์ขึ้นเมื่อเธออายุ 81 ปี เธอได้กล่าวถึงอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีคำบอกใบ้อยู่ในเพลงต่าง ๆ อยู่แล้ว

    ว่ากันว่าในบรรดาคนรักลือๆของเธอมีบรรดาคนดังอย่าง Dolores Olmedo, Lola Beltrán, María Félix ร่วมอยู่ด้วย แต่ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่เหมือนความสัมพันธ์ที่เธอมีกับกาห์โล 

    บารกาส กาห์โล และริเบราอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านที่เมืองโกโยอากัน (Coyoacán) หลายคนก็ยังถกเถียงกันอยู่เลยว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมากหรือเป็นคู่รักกันแน่

    หลังจากที่ได้รู้จักกับบารกาส กาห์โลเขียนจดหมายไปหา การโลส เปยิเซร์ ( Carlos Pellicer ) โดยมีใจความว่า


    ภาพนี้เข้าถึงจาก ismorbo เห็นมีคนคุย ๆ กันอยู่บ้างเหมือนกันว่าออริจินัลมันมาจากไหน 

    Carlos,

    Hoy conocí a Chavela Vargas. Extraordinaria, lesbiana, es más, se me antojó eróticamente. No sé si ella sintió lo que yo. Pero creo que es una mujer lo bastante liberal que si me lo pide no dudaría un segundo en desnudarme ante ella. ¿Cuántas veces no se te antoja un acostón y ya? Ella, repito, es erótica. ¿Acaso es un regalo que el cielo me envía?

    Frida K.

    (ขออนุญาตแปลแข็งๆ แปลแบบถอดความเฉย ๆ และไม่ครบ )

    วันนี้ฉันได้รู้จักกับชาเบลา บารกาส เธอวิเศษมาก เป็นเลสเบี้ยน และทำให้ฉันรู้สึกยิ่งกว่าหลงไหลเสียอีก ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกันกับที่ฉันรู้สึกหรือเปล่า แต่ฉันคิดว่าเธอใจกว้าง*ถึงขนาดที่ว่าถ้าเธอขอให้ฉันเปลื้องผ้าตรงหน้า ฉันจะทำโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว...เธอน่าหลงไหลจริง ๆ เหมือนของขวัญที่ฟ้าส่งลงมาให้

    *เนื่องจากความรู้เราเท่าหางอึ่งนะ Pero creo que es una mujer lo bastante liberal que si ... ถ้าแปลเป็นอังกฤษก็ประมาณ She´s a woman so liberal that if.... ท่อนนี้ตรงคำว่า liberal เนี่ยอาจจะหมายถึง ลิเบอรัลที่เป็นฝั่งเสรีนิยมก็ได้นะ แต่เหมือนมันแปลกๆปะ ทีนี้ adj. คำว่า liberal เหมือนมันจะแปลว่า generoso (generous) ก็ได้ มีคำจำกัดความหนึ่งของ liberal ที่เขียนอธิบายไว้ว่า Que ayuda o da lo que tiene sin esperar nada a cambio. (ช่วยเหลือหรือให้โดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน) ก็เลยคิดว่ามันน่าจะแปลเป็นคำนี้มากกว่า แต่ไม่ยืนยันนะ TT ใครรู้ก็ช่วยด้วยนะคะ มือสมัครเล่นค่ะ 5555555



    ภาพบารกาสใส่กางเกงจากตัวอย่างสารคดีเรื่องชาเบลา (CHAVELA)

    บารกาสนั่งอยู่ข้างเตียงกาห์โลในวันที่กาห์โลจากไป 

    มีเพลงที่บารกาสร้องไปปรากฎอยู่ในสารคดีของกาห์โลด้วย ถ้าเข้าใจไม่ผิดเพลงนี้เป็นเพลงที่บารกาสเขียนให้กาห์โลอยู่แล้ว โดยทำนองมาจากทำนองเพลงพื้นบ้านชื่อว่าเพลง La llorona (ลา โรโยนา) ซึ่งคนมักจะนำไปเขียนเนื้อเพลงเพิ่มกันเองอยู่แล้ว 

    llorona แปลประมาณว่า ผู้หญิงคนที่ร้องไห้ ผู้หญิงร้องไห้ แม่สาวขี้แย อะไรแบบนี้ก็ได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีสิ่งที่เรียกว่า La llorona ที่เป็นผีในนิทานพื้นบ้านฝั่งลาตินอเมริกา ซึ่งรวมไปถึงเม็กซิโกด้วย 

    La llorona ภาษาอังกฤษเรียกว่า The Weeping Woman เป็นนิทานพื้นบ้านของเม็กซิโกที่เล่ากันมาปากต่อปาก เธอคือผีผู้หญิงที่ร้องไห้ตามหาศพลูก  ตามตำนานถ้าได้ยินเสียยงเธอร้องไห้จะต้องวิ่งไปอีกทาง 


    ซึ่งอย่างที่บอกว่าเพลงนี้มีหลายเวอร์ชันมากเพราะใช้ทำนองเดียวกัน เพลงในภาพยนตร์เรื่องโคโค่ก็คือเพลงเดียวกันนี่แหละค่ะ เวอร์ชันที่ออกจะมีความใหม่ขึ้นมาก็มี



    ในเพลงท่อนหนึ่งร้องว่า
    Tapáme con tu rebozo, llorona,Porque me muero de frío. เอาผ้าพันคอมาห่มฉันที โรโยนา ฉันกำลังจะตายเพราะความเหน็บหนาว ก็เศร้า ๆ ดี

    อันนี้เป็นตัวอย่างสารคดีเรื่องชาเบลา


    แล้วก็รูปหน้าปกรูปนี้เป็นรูปของทั้งคู่ ถ่ายโดยนิโคลัส เมอเรย์ (Nickolas Muray) ปี 1945 เก็บรักษาโดยพิพิธภัณฑ์ฟรีดา กาห์โล ©Frida Kahlo Museum

    นิโคลัสก็เป็นอีกคนที่ดังเรื่องความสัมพันธ์กับกาห์โล และเนื่องจากว่าดังก็เลยไม่ได้เล่าค่ะ 5555



    4. โดโลเรส เดล ริโอ (Dolores del Rio)

    โดโลเรส เดว ริโอ (Dolores Del Rio) กับ มาร์ลีน ดิเอทริช (Marlene Dietrich) ภ่ายภาพกับรูปวาดกาห์โล ภาพจาก Sector cine
    คนนี้ก็ไม่ได้มีมูลอะไรมาก เพียงแต่ทั้งสองฝ่ายต่างมีข่าวลือเรื่องมีชู้ทั้งหญิงทั้งชายบ่อย แล้วทั้งคู่ก็รู้จักกัน คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเธอเป็นชู้กับริเบรา สามีกาห์โลด้วยซ้ำ

    ที่มีเสียงลือขึ้นมาได้เพราะกาห์โลได้ให้รูป Two Nudes in the Jungle เป็นของขวัญให้เธอ โดยรูปเป็นผู้หญิงเปลือยสองคนนอนตักกัน คนที่นอนตักอยู่หน้าเหมือน เดล ริโอ

    หรือก็อาจจะเป็นรูปกาห์โลทั้งสองคนนอนตักกันอยู่ก็ได้ เป็นประเด็นเรื่องตัวตนนั่นเอง



    นอกจากนี้ก็มีอีกหลาย ๆ คน เช่น

    - Paulette Goddard แทบไม่มีมูลอะไรเลย รู้แค่ว่ากาห์โลวาดภาพ The Flower Basket ให้

    - โจเซฟีน เบกเกอร์ (Josephine Baker) หามูลไม่ได้อีกแล้ว รู้แค่ว่าเคยพบกันและมีรูปถ่ายตอนพบกันเท่านั้นเอง


    เรื่องน่าสนใจเรื่องสุดท้ายคือเป็นที่รู้กันว่าบางครั้งกาห์โลก็จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้ชาย มีรูปถ่ายอยู๋บ้าง แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไร

    ฟรีดา กาห์โล (คนแรกจากทางซ้าย) ในภาพถ่ายครอบครัว เข้าถึงภาพจาก Huffpost 

    ในช่วงชีวิตของกาห์โลหลังจากอุบัติเหตุ เธอต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยว่าบาดแผลจากอุบัติเหตุได้รับการกระทบกระเทือน เธอใช้ชีวิตผูกพันกับศิลปะ สังคม และการเคลื่อนไหวทางการเมือง จนกระทั่งเสียชีวิตจากโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (pulmonary embolism) ในวัย 47ปี


  • References

    "Amanecí con Ava Gardner": todos los secretos de Chavela Vargas al descubierto. (2017, March 25). Retrieved from https://www.elespanol.com/cultura/cine/20170324/203230281_0.html

    Fierce by mitú. (2019, May 28). Diego Rivera Tried To Hide Frida's Letters To Her Lovers, Here's A Look Into What Some Of Them Said. Retrieved from https://wearemitu.com/fierce/diego-rivera-tried-to-hide-fridas-letters-to-her-lovers-heres-a-look-into-what-some-of-them-said/

    Frida Kahlo Paintings, Bio, Ideas. (n.d.). Retrieved from https://www.theartstory.org/artist/kahlo-frida/

    Frida Kahlo y Chavela Vargas: un romance entre metáforas, tabaco y tequila. (2017, February 17). Retrieved from https://www.ismorbo.com/frida-kahlo-y-chavela-vargas-un-romance-entre-metaforas-tabaco-y-tequila

    Frida Kahlo. (2002, December 28). Retrieved from https://en.wikipedia.org/wiki/Frida_Kahlo

    Frida Kahlo. (2018, February 28). Retrieved from https://www.biography.com/artist/frida-kahlo

    Frida Kahlo: 100 Famous Paintings, Complete Works, & Biography. (n.d.). Retrieved from http://www.fridakahlo.org

    Frida Kahlo’s Letter to Georgia O’Keeffe – Patron of the Arts. (n.d.). Retrieved from http://www.patronofthearts.com/2015/07/frida-kahlos-letter-to-georgia-okeefe/

    Frida Khalo, alcohol y soledad: lo que hacía sufrir, pero no llorar, a Chavela Vargas. (2019, 5). Retrieved from https://www.eldiario.es/cultura/arte/lloraba-Chavela-Frida-alcohol-soledad_0_902559979.html

    Georgia O'Keeffe and Frida Kahlo. (n.d.). Retrieved from https://www.georgiaokeeffe.net/link.jsp

    Kettler, S. (2019, 19). Behind Frida Kahlo's Real and Rumored Affairs With Men and Women. Retrieved from https://www.biography.com/news/frida-kahlo-real-rumored-affairs-men-women

    Popova, M. (2015, December 29). 26-Year-Old Frida Kahlo’s Compassionate Letter to 46-Year-Old Georgia O’Keeffe. Retrieved from https://www.brainpickings.org/2015/02/27/frida-kahlo-georgia-okeeffe-letter/

    The Rumors Were Enough: Josephine Baker, Frida Kahlo, Their Romance and Me. (2019, April 1). Retrieved from https://www.autostraddle.com/the-rumors-were-enough-josephine-baker-frida-kahlo-their-

    Self-Portrait with Thorn Necklace and Hummingbird. (2019, August 13). Retrieved from https://en.wikipedia.org/wiki/Self-Portrait_with_Thorn_Necklace_and_Hummingbird

    Sinetiquetas. (2015, July 6). La canción de Chavela para Frida Kahlo. Retrieved from https://sinetiquetas.org/2015/07/06/la-cancion-de-chavela-para-frida-kahlo

    The story behind 10 Frida Kahlo paintings. (2015, April 20). Retrieved from https://matadornetwork.com/life/story-behind-10-frida-kahlo-paintings

    ภาพหน้าปก ฟรีดา กาห์โล กับชาเบลา บารกาส ถ่ายโดยนิโคลัส เมอเรย์ (Nickolas Muray) ปี 1945 เก็บรักษาโดยพิพิธภัณฑ์ฟรีดา กาห์โล ©Frida Kahlo Museum

    ---------------------


    Edit 1 * เพิ่มข้อมูลนิดหน่อย

    ไม่ค่อยกล้าแปลจดหมายเท่าไหร่ ถ้าว่าง ๆ จะมาเกลานะคะ

    ถ้ามีส่วนไหนคลาดเคลื่อน ผิด หรืออยากเพิ่มเติม ได้โปรดทักมาบอกหน่อยนะคะ เหมือนเดิมค่า

    Contact
    Twt : @rainbowflick17

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in