ย่างเข้าเดือนสิบเอ็ดแล้วแต่ฝนเจ้ากรรมก็ยังโปรยปรายไม่หยุดหย่อนจนทำให้ทั่วทุกพื้นที่ประสบอุทกภัยมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป บางวันก็ตกหนักจนมืดฟ้ามัวดิน บางวันก็ตกพรำๆ พอให้อากาศเย็นสบายน่านอน บางวันก็ตกในเวลาที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว แต่บางเวลาสายฝนก็มาพร้อมความเหงาที่จับขั้วหัวใจ
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบมองท้องฟ้าทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน ทุกครั้งที่มองจะชอบมองนานๆ เพื่อซึมซับภาพตรงหน้าให้แจ่มชัดในความทรงจำมากที่สุด หรือถ้ามีโอกาสก็มักจะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปท้องฟ้าเก็บไว้ เพราะท้องฟ้าไม่ได้สวยงามทุกวัน วันไหนที่ท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆฝนหรือว่ายุ่งจนไม่มีเวลาเยี่ยมหน้าออกไปมองท้องฟ้า ก็จะได้เลื่อนดูรูปท้องฟ้าที่เก็บไว้ในโทรศัพท์แล้วก็คิดถึงวันที่ถ่ายรูปนั้นๆ ทบทวนว่าเราอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร มีความสุข เศร้าหรือกำลังหม่นหมอง รูปท้องฟ้าที่ถ่ายเก็บไว้จะช่วยรื้อฟื้นได้ทุกอย่างราวกับไดอารีที่ไม่มีตัวหนังสือ
ภาพนี้ถ่ายที่บ้าน จ.ยโสธร จำได้ว่าตอนนั้นไปทุ่งนา แดดร้อนมาก บนถนนเห็นภาพลวงตา มิราจเหมือนกับว่ามีใครสาดน้ำลงไปบนถนนทั้งสาย แต่พอแหงนมองท้องฟ้าก็เห็นเมฆสวยและเยอะดี เลยแชะไว้อย่างรวดเร็วสองรูป
ภาพนี้ก็ถ่ายที่ทุ่งนา จ.ยโสธรเหมือนกัน แต่เป็นเวลาเย็นๆ บ่ายคล้อยละ กำลังจะเดินกลับเถียงนา หันไปเห็นตัวอะไรแปลกๆ ผงาดอยู่บนฟ้า รีบควักมือถือมาถ่ายรูปทันที จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันคือตัวอะไร
ภาพนี้ถ่ายจากมุมประจำบนตึกเรียนคณะอักษร และทุกครั้งก็จะได้ภาพถ่ายท้องฟ้าที่ (เราคิดว่า) สวยงามแตกต่างกันออกไป
ทุกภาพถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะไม่ได้ผ่านแอพแต่งรูปใดๆ ถ่ายจากกล้องมือถือกากๆ ห้าล้านพิกเซลของโนเกีย
ใครที่เคยเก็บภาพถ่ายท้องฟ้าสวยๆ แล้วอยากแบ่งปันให้คนที่ไม่รู้จักกันได้รับรู้เรื่องเล่าผ่านภาพถ่ายท้องฟ้าของคุณ เชิญแบ่งปันได้ตามแท็กด้านล่างเลยนะคะ เราก็อยากอ่านเหมือนกัน :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in