“ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนมีชีวิตอยู่ด้วยความศรัทธา บางคนอาจจะศรัทธาในความหวัง บางคนอาจจะศรัทธาในเกียรติภูมิ หรือบางคนอาจจะศรัทธาในคุณความดี หรือในบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้”
“แล้วนายล่ะ” คู่สนทนาย้อนถาม “ศรัทธาในอะไร”
“ผมศรัทธาในความรักและคำมั่นสัญญา”
มีนักเขียนไม่กี่คนที่เราตามอ่านงานของเขาเกือบทุกเรื่องและชอบทุกเรื่อง ด้วยสไตล์การเขียนที่นุ่มนวล ละเมียดละไม แม้จะเป็นนิยายที่มีเนื้อหาเครียด เศร้า หดหู่ แต่ลีลาภาษาของเขากลับทำให้เราติดตรึงจนไม่อยากวาง นับตั้งแต่เรื่องแรกที่อ่าน คือ ลอดลายมังกร เวลาในขวดแก้ว เด็กชายมะลิวัลย์ ผีเสื้อกับหิ่งห้อย ฯลฯ จนถึงเรื่องนี้ “ตราบสิ้นฟ้า สิ้นดิน จึงสิ้นเธอ” ซึ่งเขียนโดยคุณประภัสสร เสวิกุล ศิลปินแห่งชาติปี ๒๕๕๔
เพียงแค่ชื่อเรื่องก็บอกกับเราแล้วว่า ความรักของพระเอกนางเอกจะต้องหวานซึ้งอย่างแน่นอน และมันก็หวานซึ้งจริง ๆ แต่เป็นความหวานซึ้งท่ามกลางความขัดแย้งของชาวคริสต์กับมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในประเทศหนึ่ง (ผู้เขียนนำประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นจริงมาใช้เป็นฉาก) นางเอก (มิลิยาน่า) นับถือคริสต์ ในขณะที่พระเอก (เนซาล) นับถืออิสลาม เขาทั้งสองต้องเผชิญกับปัญหาการต่อสู้และความพยายามที่จะแบ่งแยกดินแดนของคนร่วมชาติเดียวกันที่เรื้อรังมานานนับร้อยปี
สิ่งที่เนซาลศรัทธาในคำพูดที่ยกมาข้างต้น ทำให้เขายอมเสียสละและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เขารัก แม้จะต้องสูญเสียการเรียน สูญเสียอิสรภาพ สูญเสียขา และท้ายที่สุดต้องสูญเสียลมหายใจ แต่ความรักและคำมั่นสัญญาที่เนซาลศรัทธาได้โอบอุ้มและผลักดันให้มิลิยาน่าซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีต่อสู้กับความอยุติธรรมและแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคริสต์กับมุสลิมได้สำเร็จ
เรื่องนี้ถือเป็นนิยายรักโศกอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบมากและขึ้นแท่นนิยายในดวงใจ เพราะนอกจากจะมีเรื่องความรักของหนุ่มสาวแล้ว ยังแฝงเรื่องการเมืองกลาย ๆ ด้วย :)
การเมืองเหมือนบ่อโคลนที่เมื่อใครก็ตามที่ตกลงไปในบ่อสักครั้งหนึ่งแล้ว จะชำระล้างยังไงก็ไม่มีทางที่จะสะอาดสะอ้านหรือหมดกลิ่นเหม็น ดังนั้น คนที่เล่นการเมืองจึงยากที่จะเดินจากไปโดยไม่แปดเปื้อน ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีนักการเมืองคนไหนอยากเห็นคนอื่นบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะมันจะทำให้ประชาชนมองเห็นความสกปรกของตัวเขาชัดเจนขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in