เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
L.Wilson's Childhoodwallflowerblu
#2727af


  • สามสิ่งในชีวิตสำหรับลีวานคือ


    การคุ้นเคยกับของเหลวสีเหลืองขุ่น 


    เสียงร้องไห้ของแคนนิสในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่อาจระบุโมงยามได้แน่นอน 


    และยาเม็ดเล็กสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งเซนติเมตร

     


    ความรู้สึกเฉื่อยชากับบาดแผลบางอย่างท่ามกลางซอกหลืบหนึ่งของสารเคมีในสมองแทรกไปด้วยเรื่องเรื่อยเปื่อยประจำวันของแคนนิส เสียงตึงตังของฝีเท้ายามก้าวลงบันได ข้างในนั้นประกอบเสมือนพายุเฮอร์ริเคนมวลใหญ่ที่ไม่อาจพัดผ่านไปได้โดยง่าย ไม่เหลือแม้กระทั่งเศษเสี้ยวความสมมาตรในหัว ทุกอย่างแตกกระจายหลังเฮอร์ริเคนลูกเก่าจบลง บ้างหวนกลับมาอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น หรืออาจจะมาพร้อมคืนพายุโหมกระหน่ำ เสียงหัวเราะเคล้ารายการโทรทัศน์ ถ้อยคำปลอบโยนของจาเมสโต๊ะอาหารรายล้อมบทสนทนาเรื่องศาสนา ไม่เหลือแม้แต่ภาพของผู้หญิงผมบลอนด์ที่ติดค้างอยู่ในสายตาของเขาเป็นระยะเวลาร่วมสัปดาห์ ทุกการกระทำยาวนานเกินกว่าจะพึงพอใจให้บันทึกว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญ 



    ทว่าห้วงเวลาหนึ่ง อารมณ์เปลือยเปล่าในเรื่องราวเหล่านั้น กลับไม่เคยให้รางวัลเป็นของตอบแทนสำหรับตัวเขาที่สามารถผ่านมันมาได้เลยสักครั้ง

     



    กลิ่นชาคาโมมายโชยคดคู้อยู่ท่ามกลางมวลอากาศ คละคลุ้งประเดประดังไปทั่วบริเวณห้องนั่งเล่น ขัดเกลากลิ่นสาปของบ้านจนหมดสิ้น ระหว่างความเงียบเชียบยามบ่าย ลีวานมั่นใจว่าต้นเหตุของกลิ่นคงเป็นผู้บุกรุกสักคนที่เขาไม่รู้จัก เพราะแคนนิสไม่เคยแม้แต่จะปลีกวิเวกมาจิบชายามบ่ายราวผู้ดีอังกฤษอย่างเพื่อนบ้านตรงข้าม แม่มักใคร่รสขมของกาแฟและใคร่อัดควันสีเทาลงปอดเพียงอย่างเดียวในชีวิต นอกเหนือจากลีวานก็ไม่เคยมีใครกลับมาย่ำบ้านหลังนี้เป็นครั้งที่สองด้วยซ้ำ

     


    ใจของเด็กหนุ่มเต้นระส่ำ พร้อมแผดความเหนียวเหนอะของหยาดเหงื่อซึมกว้างบนเนื้อผ้าสเวตเตอร์ ไม่ใช่เพียงเพราะอาการเกร็งจากการกำไม้เบสบอลกึ่งเล่นกึ่งจริงที่คว้าได้จากมรสุมของรกตามมุมบ้านในจังหวะย่องลงบันได หากแต่ความเงียบงันของบุคคลต้องสงสัย ซึ่งคลับคล้ายถึงแขกผู้มาเยือนมากเกินกว่าจะเป็นผู้บุกรุกเสียอย่างนั้นทำให้เขาสับสน

     


    ผมสีแดงเข้มยาวปรกหลังค่อย ๆ เอียงคอหันกลับมา เมื่อได้ยินเสียงตะกุกตะกักทางด้านหลัง 


    เสี้ยววินาทีที่เสียงตะโกนของลีวานแผดดังลั่นห้องผสมกับเสียงกรี๊ดแหลมหูจากหญิงสาวตรงหน้า

     


    แมแกน!”

     


    ขอโทษที่ไม่ได้กดกริ่ง หล่อนบอกให้หยิบกุญแจในกล่องไปรษณีย์เลย” แมแกนเอ่ยระคนเสียงหอบ

     


    แม่คงไม่คิดว่าผมจะออกจากห้อง

     


    แค่แวะเอาหนังสือมาคืนน่ะ เธอบอก เหมือนกำลังสังเกตว่าลีวานจะแสดงสีหน้าแบบใดจึงพูดเสริม ของลีลีฟ

     


    ที่นี่ไม่ได้เก็บอะไรไว้แล้วสักชิ้นก็ไม่มี” ลีวานเก็บไม้เบสบอลผิงลาดกับตู้โชว์เปลือยเปล่า ข้างในตู้กระจกใสโล่งกว้าง แม้กระทั่งรูปครอบครัว มีแค่หนังสือนิตยาสารเก่า ๆ กับหนังสือปรัชญาบางเล่มซ้อนทับด้วยใบแจ้งหนี้ที่วางกองพะเนิดสูง ราวเป็นของต้องห้าม

     


    คิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าของของเธออยู่บ้าน

     

     


    บ้าน

     

     


    ลีวานพึมพำ เขาไม่เคยเรียกมันว่าบ้านเลยสักครั้ง แต่คนข้างนอกนั่นกลับมองเห็นมันเป็นบ้าน

     

     


    ไม่ล่ะ ผมไม่อยากเก็บไว้ มันจะสำคัญอะไรกับเธอล่ะ

     


    ตอนมีชีวิตอยู่มันไม่สำคัญเลยเหรอไง

     


    แมแกนทิ้งประโยคคำถามไว้ก่อนจากไป น้ำเสียงราบเรียบกับใบหน้าเฉยชาไร้เลือดสูบฉีดนิ่งเสียจนลีวานมั่นใจว่าเธอแฝงความโกรธลงในน้ำเสียงเช่นเดียวกัน แมแกนเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของลีลีฟ ทุกครั้งที่หล่อนมาที่บ้านลีวานจะหนีขึ้นไปหลบบนห้องแล้วให้คำตอบกับลีลีฟว่า เพื่อนของพี่น่ารำคาญ  พวกเธอมักจะดี้ด้ากับดาราคนโปรด เสื้อผ้าตัวใหม่ แผ่นเสียงอันใหม่ยาทาเล็บสีใหม่ อวดสีผมที่เพิ่งเปลี่ยนเมื่อวานในทันที และสารพัดอย่างที่พวกเธอเพิ่งจะเคยลองเป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ราวจะกระโจนบนพื้นพรมหรือทึ้งข้าวของบนโต๊ะลงพื้น แต่เมื่อลงมาข้างล่างหลังแยกย้ายกันแล้วข้าวของก็จัดแจงอยู่ในมุมปรกติดีทุกอย่าง

     

     


    นิ้วเรียวยาวบรรจงแกะซองกระดาษไขห่อซ้อนทับด้วยกระดาษสมุดสเก็ตช์ทีละน้อย ภายในเต็มไปด้วยตัวอักษรเอนเอียง เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ไม่ค่อยตรงบรรทัดสักเท่าไหร่ ทว่าเพ่งมองอย่างถ้วนถี่หลายหน จะเห็นว่าแต่ละตัวอักษรถูกลากเส้นซ้อนทับซ้ำ ๆกันหลายประโยค เพียงเพราะตัวหนังสือไม่ทัดเทียม เมื่อไล่เรียงลงบนสมุดสเก็ตช์ภาพแทนกระดาษโน้ตคราคร่ำด้วยเส้นบรรทัดเหมือนอย่างคนทั่วไปเลือกใช้ ลีวานคงชอบวาดรูปมาก, เมแกนสังเกตและตีความได้เอง เมื่อตัวอักษรเหล่านั้นอวดอ้างตนบนหน้ากระดาษสเก็ตช์อย่างทะนงตัว

     

     


    ถึงเมแกน พี่สาวเสียงดังยิ่งกว่าทรัมเป็ต

    ขอบคุณสำหรับกล่องความทรงจำของพี่ 

    ผมขอโทษที่ทำตัวเสียมารยาท ของทั้งหมดนั่นผมกำลังจัดเรียงมันทีละชิ้น รู้ตัวอีกทีเสียงของลีลีฟก็เริ่มเด่นชัดขึ้นมาในความทรงจำ แทนส่วนที่เริ่มขาดหายทีละน้อยแล้ว ขอให้ไม่เสียใจกับทุกทางเดินที่เลือกนะครับ ถึงเสียใจก็ขอให้เสียใจได้ไม่นาน คนโลภอย่างผมมักเลือกทางเดินผิดและเสียใจเทน้ำเทท่าเสมอ 

    ด้วยรัก, น้องชายที่จะเคารพพี่ทั้งสองมากขึ้น


    L.Wilson

     

     

     


    ลีวานหวนนึกถึงประโยคบอกรัก ณ ช่วงเวลาหนึ่งถ้อยคำเหล่านั้นเคยเอื้อนเอ่ยให้เด็กชายลีวานในวัยห้าขวบฟังทุกเช้า และล่วงเลยยังมื้อค่ำคำบอกรักเหล่านั้น บ้างก็แสดงออกในรูปแบบของการชื่นชม บ้างแสดงออกด้วยกิริยาท่าทาง, รอยยิ้ม บ้างคือการเหลือวิปครีมไว้สำหรับไอศกรีมโอริโอ้มื้อดึก

     


    บางทีการแสดงออกในรูปแบบการกระทำอาจน่าจดจำได้ง่ายดายกว่าคำพูด, หากแต่เวลาใดเวลาหนึ่ง เขาคิดว่าถ้าพี่พูดมากกว่านี้เสียหน่อยคงเป็นความทรงจำที่สมบูรณ์แบบ

     


    ยังเหลือเวลาอีกเยอะเมื่อเทียบกับระยะห่างของการจากลากะทันหัน เทียบเคียงกับเวลาหลังเลิกเรียนที่ลีวานมักจะขลุกตัวส่วนใหญ่กับสมุดสเก็ตช์รูป

     


    ยังเหลือสถานที่อีกเป็นร้อย ๆ แห่ง ที่ซึ่งรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีขาวเปื้อนเศษดินของพี่ไม่เคยได้ย่ำไปถึง นอกเหนือจากจินตนาการผ่านรูปประโยคบอกเล่าที่ใช้กล่อมเกลาลีวานยามค่ำคืน

     


    ยังเหลือพื้นที่อีกมากโข, ในหัวของลีวาน ทว่าเมื่อนานเข้าน้ำเสียงของลีลีฟครั้งเคยบอกกล่าว ตักเตือน ดุด่า หัวเราะ ร้องไห้ กลับเลือนรางเสียจนไม่คิดว่าสักวันมันจะเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ภาพใบหน้าของพี่เองก็ค่อย ๆ พร่ามัว เสมือนเป็นโรคดวงตาฝ้าฟางยามแก่เฒ่า นานวันเข้าทั้งสองสิ่งก็ผนวกกัน ลีวานแทบไม่มีความทรงจำร่วมกับลีลีฟเลย 


    สักนิดก็จำไม่ได้” เด็กหนุ่มพึมพำ ผ้านวมผืนหนาถูกกระชับแน่นขึ้น เมื่อเกิดความรู้สึกตีบตันกดทับลงกลางอก หัวสมองขาวโพลน ฉับพลันดวงตาที่เคยเห็นสีขาวนวลของผนังฉายซ้อนทับกับแสงสีเหลืองอ่อนของโคมไฟก็ดับวูบลง กลายเป็นโทนภาพสีซีเปีย ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความมืดดับ

     


    ความมืด ความเงียบ ความเจ็บปวด

     


    ได้โปรด

     


    ปัดเป่ามันออกไปพร้อมรสชาติขมปร่าประดับบนปลายลิ้นนี่ที

     

     


    พ่อไปแล้ว พี่ไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาไหมเพราะเขาไม่ลืมอะไรเลย ยกเว้นพวกเรา — คล้ายเสียงกระซิบของลีลีฟดังก้องเข้ามาในหัวของลีวา มันทั้งชัดเจนและนุ่มนวลในคราวเดียวกัน ความหนักแน่นของน้ำเสียงผ่านสีหน้าไร้แววอาวรณ์ของพี่ในเช้าวันศุกร์เริ่มเด่นชัดขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด

     


    แววตานั้น, โกหกชัด ๆ



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in