Lunatic
ดวงจันทร์
คุณจะไม่ตอบคำถามของผมใช่มั้ย ?
ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ในขณะที่ผมในชุดสูทสีดำสนิทยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายลมหนาว
เสียงเพลงบรรเลงดังมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้า
ก่อนรั้วกว้างจะถูกเปิดออก
'มารับฮันบินสินะ เมามากเลยละ'
พยักหน้าก่อนจะรีบเอื้อมมือไปประครองร่างเล็กที่เดินเซเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
พยุงให้เดินไปที่รถคันใหญ่ที่จอดอยู่
จัดท่านั่งของเขาให้สบายก่อนจะเป็นฝ่ายขับรถออกไป
ดวงจันทร์
คุณจะไม่ตอบคำถามของผมใช่มั้ย ?
'จีวอน ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน'
'แต่มันดึกมากแล้วนะครับคุณหนู'
'ไม่เห็นเป็นไรเลย ดึกแค่ไหนนายก็จะรอรับไม่ใช่เหรอ'
'แต่คุณหนูไม่ควรดื่มหนักขนาดนี้'
'แล้วจะให้ทำยังไง'น้ำเสียงแตกพร่า
เว้นวรรคไปก่อนที่เสียงสูดน้ำมูกจะดังตามมา
'น้ำตาที่อยู่ข้างใน ฉันยังร้องมันออกมาไม่หมดเลย'
ผมมองใบหน้าที่ไม่สมควรมองผ่านกระจกหน้าตอนที่รถลอดผ่านอุโมงค์
แสงไฟสลัวยามราตรีจากถนนข้างนอกสะท้อนอยู่บนใบหน้าอ่อนละมุน
หยาดน้ำตาสีเงินร่วงหล่นอาบข้างแก้มอย่างไร้ซุ่มเสียง
ทำไม?
ตั้งคำถามกับความเงียบ ก่อนจะเบี่ยงรถขับออกไปอีกทาง
ปลายทางที่ไปถึงคือที่ที่ท้องฟ้ากับพื้นน้ำถูกความมืดทักทอจนกลายเป็นผืนผ้าสีดำสนิทไร้ขอบเขต
ได้ยินเสียงคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่งเป็นจังหวะ หลักฐานเดียวที่บ่งบอกการมีอยู่ของท้องทะเล
'ทำไมถึงเป็นทะเล'
คำถามดังขึ้นแผ่วเบา
ผมไม่ตอบแต่เดินลงจากรถ
เปิดประตูหลัง โน้มตัวลงปลดเข็มขัดนิรภัย
และเอื้อมมืออย่างบังอาจไปให้คุณหนูสูงศักดิ์ที่ผมไม่ควรแตะต้อง
'ตอบคำถามก่อนสิ'
มือค้างอยู่ที่เดิม
ผมมองใบหน้าอ่อนละมุนของคุณหนูที่เปรอะไปด้วยน้ำตา
ดวงตาบวมเป่งที่ไม่น่ามองทำให้หัวใจดิ่งวูบ
ก้มหน้าแล้วตอบคำถามอย่างทาสผู้ซื่อสัตย์
'ทะเลว่างเปล่า ไม่มีคน มืดมิดจนมองไม่เห็น เสียงดังแต่ก็ทำให้รู้สึกสงบ...'
'ที่นี่ คุณหนูจะสามารถร้องไห้ออกมาได้จนไม่เหลือน้ำตา'
เห็นรอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นพร้อมน้ำตาหนึ่งหยดที่ไหลออกมา
คุณหนูฮันบินใช้นิ้วปาดข้างแก้มก่อนจะยื่นมือมาให้ผม
'ยังไงจีวอนก็จะรอรับฉันกลับบ้านใช่มั้ย ?'
บีบมือเล็กเบาๆ คำตอบถูกส่งผ่านความเงียบและมันมีความหมายยิ่งใหญ่ดั่งคำสัญญา
'ขอบใจนะจีวอน'
คุณหนูปล่อยมือ ก่อนจะค่อยๆเดินตรงไปที่ริมทะเล
แสงจันทร์ที่เพียงครึ่งเสี้ยวของมันโผล่พ้นจากความมืดสาดลงมา
ผมมองคุณหนูที่เดินอย่างเชื่องช้าก่อนจะทิ้งตัวลงกอดเขาบนพื้นทราย
เสียงของคลื่นและลมทะเลกำลังบิดเพี้ยนเมื่อมีเสียงสะอื้นเบาๆดังคลอมาอย่างไม่เข้าจังหวะ
ความเศร้าในอากาศมากมายเกินกว่าจะถูกดูดซับด้วยทะเล
ล้นทะลักเกินกว่าท้องฟ้าจะโอบอุ้ม
และแหลกสลายเกินกว่าที่ความมืดจะกัดกลืน
หัวใจผมดำดิ่ง
ตัดสินใจก้าวขาไปข้างหน้า
แต่เมฆก้อนใหญ่บนฟ้าลอยมาบังดวงจันทร์และภาพตรงหน้าก็กลายเป็นสีดำ
ดวงจันทร์ซ่อนตัวอยู่หลังกลีบเมฆ
ขาสองข้างชะงัก ผนยืนอยู่ที่เดิม
ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้เปรียบคนบ้าว่าเป็นเหมือนชายหนุ่มที่หลงใหลในแสงจันทร์
งดงามทำให้คลั่งไคล้
ห่างไกลจนเกินจะไขว้คว้า
ดวงจันทร์
คุณจะไม่ตอบคำถามของผมใช่มั้ย ?
ว่าทำไมถึงไม่ยอมร่วงหล่นลงมา ให้พื้นดินที่ภักดีได้โอบกอดและซับน้ำตา.
by indiiej
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in