Nights ยามดาราสิ้นสูญ เล่ม 1ผู้เขียน : มู่ซูหลี่
ผู้แปล : Luna
EverY
3 เล่มจบ
*รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*
หลังการระเบิดอย่างกะทันหันของดวงดาว
ฉู่ซือ ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ยุ่งยากไปกว่าการหาวิธีดำรงชีวิตท่ามกลางทะเลดาวอันเวิ้งว้างนี้ แต่ดูเหมือนเขาจะดูถูกโชคชะตาของตัวเองเกินไป เพราะจู่ๆ เขาก็ได้รับข่าวร้ายที่ทำให้รู้สึกหน้ามืดเล็กน้อย
‘หัวหน้าที่รักของฉัน จะบอกข่าวใหญ่ข่าวดีกับนายเรื่องหนึ่ง ฉันแหกคุกแล้ว’ ผู้ส่งข้อความหาเขาคือ
ซ่าเอ้อ หยาง นักโทษที่ตามจับได้ยากและปัญหาเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรือนจำอวกาศที่ตั้งอยู่นอกกาแล็กซี่ ในฐานะหัวหน้ากองอำนวยการความมั่นคงอย่างเขา นี่นับเป็นเรื่องที่เลวร้ายขั้นสุด!
ทว่าก็ยังมีเรื่องที่เลวร้ายขั้นกว่า เมื่ออีกฝ่ายมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าพร้อมคำพูด
“ที่รัก ไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากนายเสียที เพราะงั้นฉันมาหานายแล้ว” ชีวิตของฉู่ซือนับจากนี้คงไม่อาจหาความสงบสุขได้อีกแล้วจริงๆ
เรื่องนี้อ่านแล้วเรายกให้นักแปลคือ MVP เพราะค่อนข้างอ่านยากทีเดียว ด้วยเซ็ตติ้งไซไฟอวกาศแบบนี้มันต้องอาศัยพลังจินตนาการสูง ลำพังใช้แค่ผู้เขียนคนเดียวไม่ไหว การถ่ายทอดออกมาในอีกภาษาหนึ่งให้คนอ่านเข้าใจเนื้อหาได้ครบถ้วนจึงเป็นเรื่องที่หินเอาการ แต่เรื่องนี้ถือว่าทำได้อยู่หมัด
อ่านแล้วแม้จะยังมีบางจุดไม่เข้าใจ แต่การแปลก็ช่วยไว้ได้เยอะทีเดียว เดี๋ยวเราจะพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้งค่ะ
สำหรับเรื่องนี้เป็นผลงานคุณมู่ซูหลี่ที่ฝากผลงานระดับท็อปเอาไว้หลายเรื่อง เราเลยไม่พลาดต้องหาซื้อมาอ่านด้วยอีกเล่ม ใครชอบแนว enemy to lover ต้องลองชิมดูค่ะ
จุดเด่นของเรื่องคือคาแรคเตอร์พระนายเข้ากันได้ดีมาก แนวคู่กัด กัดมากัดกลับไม่โกง เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร แต่ฉู่ซือจะเป็นแนวกวนเงียบๆ กวนหน้านิ่ง ส่วนซ่าเอ้อคือกวนเปิดเผย ชอบแหย่ชอบหยอด ทั้งสองคนความจริงรู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนแต่ไม่เคยเข้ากันได้เลย จนมีเรื่องมีราวในภายหลังทำให้ซ่าเอ้อถูกจับ นับเป็นตัวอันตรายที่สร้างปัญหาให้กาแล็คซี่ โดยประเด็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อยๆ ถูกเมนชั่นถึงไปตลอดทั้งเล่ม มันเลยจะตัดไปตัดมากับเนื้อหาปัจจุบัน ซึ่งจะมองเป็นข้อดีก็เป็น แต่เป็นข้อเสียก็ได้เหมือนกัน
นั่นเพราะเซ็ตติ้งไซไฟแบบนี้ค่อนข้างยากที่จะโฟกัส อ่านแล้วต้องพยายามตามติดและจินตนาการถึงเนื้อเรื่องตลอด พอมันมีการหยิบเอาเรื่องในอดีตมาพูดถึง ซึ่งก็ค่อนข้างยาว แทรกมาบ่อยๆ มันเลยทำให้บางครั้งเราหลุดโฟกัสกับเนื้อเรื่องปัจจุบันไปนิด
ส่วนตัวเราไม่ค่อยมีปัญหากับการอ่านไซไฟ แต่หลังจากได้ฟังเสียงนักอ่านหลายๆ คนที่ไม่คุ้นชินกับเซ็ตติ้งแนวนี้แล้วพูดไปในทางเดียวกันว่าอ่านแล้วงง เพราะมันต้องคิดภาพตามตลอด ซึ่งนักเขียนเขียนได้ดีและไหลลื่นมา แต่ข้อเสียคือการที่นักอ่านไม่ได้มีพื้นฐานเรื่องพวกนี้มาก่อน เวลามาอ่านมันเลยจะงง หรือบางทีหยิบเอานามเฉพาะบางอย่างที่นักเขียนตั้งขึ้นมาเองมาพูดถึงแบบกะทันหัน บางครั้งเราเองก็จะเอ๊ะ ไอ้นี่มันคืออะไรนะ ก็จะมีความรู้สึกแบบนี้อยู่บ้างค่ะ และก็อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น มีนักแปลที่แปลได้ดีเลยทำให้การอ่านเรื่องนี้ไม่งงเกินไป
แต่ว่าโดยรวมคือหนังสือสนุกนะ อย่างที่บอกไปว่าเขียนลื่นมากและบรรยายได้แบบนี่มันคือนิยายไซไฟดีๆ เรื่องหนึ่งเลย แต่ถึงอย่างนั้นถ้าคนอ่านคุ้นเคยกับแนวนี้มาบ้างจะทำให้อ่านได้ง่ายกว่าคนที่ใหม่กับแนวนี้ และเวลาอ่านอาจต้องพยายามโฟกัสนิดหนึ่ง แล้วจะสนุกไปกับมันค่ะ
P.S. ให้คะแนนเพิ่มตรงปกสวยมากกกก เห็นในภาพจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ ต้องลองได้จับเล่มจริง มันมีความกลิตเตอร์วิ้งๆ เวลาขยับปกจะเหมือนเวลาเราดูภาพถ่ายอวกาศเลย ทั้งปกหน้าและปกหลัง สีสวยตะโกน
contact me
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in