เคยคิดบ้างไหมว่าอาหารมีผลต่อพฤติกรรมระหว่างวันของเรา จริงๆ ก็รู้มาสักพักว่าอาการกำหนดความคิดและความรู้สึกได้ เพราะเขาว่ากันว่าลำไส้เป็นสมองที่สองของร่างกาย
วันหยุดที่ผ่านมา หลังจากผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน จู่ๆก็เข้าสู่โหมดภาวะจิตใจจำศีล ถ้าเทียบให้ใกล้เคียงเลย รู้สึกเหมือนช่วงที่ตัวเองมีภาวะวิตกกังวลค่อนจะเข้าสู่ซึมเศร้า เป็นอาการเนือยนิ่งที่เราต่อสู้และผ่านมันมาได้ แต่พอ 2 - 3 วันที่ผ่านมา ภาวะนี้มันมาเยือนกลับรู้สึกแย่มาก เพราะที่ผ่านมาหลายอย่างมันดีมาก
เกิดจากอะไรกันนะ? เอาแต่คิดอยู่แบบนี้มาสักพักใหญ่ๆ รู้ตัวอีกทีก็จมดิ่ง มัวแต่หาสาเหตุว่าทำไมมันเกิดขึ้นอีกแล้วล่ะ จะบอกว่าเป็นช่วงไข่ตกก่อนมีประจำเดือนก็ไม่ใช่ เพราะเพิ่งผ่านช่วง Period อาทิตย์นิดๆ ถ้าจะเป็นช่วงจิตตกเพราะฮอร์โมนก็ช่วงเกือบกลางเดือน
พอมาสังเกตดีๆ ก็พบว่าช่วงนี้กินแป้งเยอะมาก กินอาหารแบบอะไรก็ไม่รู้ และมันเริ่มจากวันที่กินรามยอนเกาหลีช่วง 2 ทุ่ม เพราะจู่ๆก็นึกอยาก หลังจากนั้นมาระบบท้องไส้ก็แปรปรวน เชื่อแล้วว่าลำไส้เป็นสมองที่สองของร่างกาย อย่างเช่นวันนี้ ก็กินแป้งเยอะอีกแล้ว ผลก็คือง่วง ไม่อยากทำอะไร แถมช่วงนี้อากาศที่ Gold Coast ก็มีเมฆมาก สลับกับ Storm ไม่ก็ Drizzle ซึ่งสำหรับเราที่ไวต่อการรับแสงแดดค่อนข้างมีผลมาก ช่วงที่ย้ายมากินเที่ยวอยู่ที่ออสเตรเลีย วันไหนแดดดีจะถือว่าวันนั้นอากาศดี แต่ถ้าวันไหนเมฆมากหรือฝนตกที่หลายคนบอกว่าดีจัง เหมาะที่จะนอน เราจะรู้สึกนอยมาก
แป้ง (คาร์โบไฮเดรส) ที่มากเกินจำเป็น และสภาพอากาศที่พระอาทิตย์ส่องไม่เพียงพอ ก็ทำให้เราที่ครั้งหนึ่งมีภาวะสิ้นยินดี วิตกกังวลค่อนไปซึมเศร้า จึงไวต่อเร้าเป็นพิเศษ โอเค แม้ว่าจะรู้ถึงสาเหตุ แต่การจัดการและรับมือไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อยากใช้คำว่ายากแต่เดี๋ยวกฎแรงดึงดูดจะไม่ชอบ (ฮาฮาฮา) ที่ผ่านมาก็พยายามสู้มาตลอด ไม่อยากถึงขั้นใช้ยาแต่ใช้ใจและกิจกรรมบำบัด
ก็ได้แต่หวังว่าวันพรุ่งนี้เมฆฝนในใจและคาร์บในลำไส้จะค่อยๆปรับสมดุลอย่างเหมาะสมต่อเรา การไม่เนือยนิ่งและจมดิ่งกับภาวะอารมณ์เศร้าซึมนับเป็นของขวัญล้ำค่าที่เราปรารถนาในปี 2025 และตลอดไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in