เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
unexpected date.เมอคิวรีย์.
การพบเจอกันของคนแปลกหน้า
  • ครั้งสุดท้ายที่ไปออกเดทคือเมื่อไหร่กันนะ      

    ตอนที่มีความสุขกับเราจะยิ้มกว้างแค่ไหนกันนะ

    เวลาที่ได้เป็นตัวของตัวเองกับคนอื่นมันรู้สึกดีขนาดไหนนะ

     

    คำถามเหล่านี้อยู่ในหัวผมตลอด

    หลังจากผมเลิกกับแฟนมาได้4 ปี

    ผมแทบไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นอีกเลย

     

    ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี

    แต่มันไม่มีเองนี่หว่า

    แล้วในสถาณการณ์ยุคโควิดแบบนี้

    การจะเจอกับความรักดีๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

     

    จนวันนี้วันพฤหัสที่ 9 มิถุนายน

    ผมก็ได้พบเจอกับเรื่องราวที่ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ

    เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมจริง ๆ

     

    วันนี้เป็นวันพฤหัสธรรมดาวันหนึ่งที่ผมตัดสินใจจะใช้ให้หมดวันไปกับการไปร้านหนังสือแห่งหนึ่ง

    ในย่านโรงหนัง RCA นับว่าเป็นการเดินทางที่บ้าพอสมควร ตัวผมที่อยู่ย่านฝั่งธนกำลังจะไปย่าน

    พระรามเก้าเพียงเพราะแค่ไปร้านหนังสือเท่านั้นเอง ถ้าวัดจากระยะทางแล้ว ไม่ใช่น้อย ๆ เลย 

    แต่ก็ต้องขอบคุณตัวเองที่เกิดมาในยุคที่มีMRT

     

    ในระหว่างที่กำลังเตรียมตัวไหน ๆก็เบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ หาอะไรทำฆ่าเวลาดีกว่า ผมเลยตัดสินใจ

    เปิด Dating app ขึ้นมาและทำการปัดไปรัว ๆ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าปัดไปกี่คน ที่ทำไปก็เพราะเบื่อ ๆ

    แค่นั้นเอง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงที่ผมพึ่งปัดไป เกิดการ Match ขึ้น

    (Match =เกิดการจับคู่เนื่องจากเราปัดให้เขา เขาก็ปัดให้เรา ซึ่งเมื่อทั้งคู่Match กันแล้ว ก็สามารถที่จะทำการ chat กันได้)  


    ผมเลยเลือกที่จะทำแบบผู้ชาย Dating app ทำกัน คือกะว่าจะทักไปแล้วซักพักจึงค่อยเข้ามาตอบ

    (เป็นเรื่องปกติมากๆ ในแอพ พวกนี้)

     

    ผมที่กำลังเพลิดเพลินกับการเลือกเสื้อผ้าแต่งตัว ออกจากบ้าน และกำลังก้าวเท้าออกจากบ้าน จู่ ๆ 

    ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังสั่นไหวในกระเป๋าพอเอาขึ้นมาดูก็เป็นไปตามคาด มีการแจ้ง

    เตือนจาก Dating  app หรือพูด ง่ายๆว่าสาวตอบกลับมาหลังจากที่ผมได้พิมพ์ทักทายค้างไว้นั่น

    แหละครับ เขาตอบกลับมาเท่านั้นยังไม่พอเขาพิมพ์มาว่า เธอแล้วก็ไม่ได้พิมพ์อะไรต่อมาอีก

    เป็นสัญญาณบอกว่ากำลังเรียกเรารอให้เราตอบกลับไปอยู่ ผมก็ใช้หลักชาว Dating app เลยครับ 

    ปล่อยซึมไป

     

    และระหว่างที่กำลังอยู่บนMRT นั้นเอง 

    ก็เกิดความรู้สึกเบื่อ ขึ้นมาแปลก ๆ  ไม่รู้จะฟังเพลงอะไรแล้ว

    ผมเลยเลือกที่จะเข้าไปตอบแชทเพราะอย่างน้อยก็น่าจะมีเพื่อนคุยไปพลาง ๆ

    แต่แล้วผมก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ผมแทบอยากอุทานออกมา

    เราคุยกันได้ไม่กี่ประโยคจู่ ๆ เธอคนนี้ก็ถามผมขึ้นมาว่า

     

    กำลังไปที่ไหน?”

    มาเจอกันได้ไหม

    เราแค่อยากมีเพื่อนกินข้าวกับซื้อของ

     

    ผมใช้เวลาคิดซักครู่ว่าแบบนี้ผมกำลังตกอยู่ในสถาณการณ์ที่เสี่ยงอันตรายหรือเปล่า

    พร้อมแชทไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟังสิ่งที่เพื่อนผมตอบกลับมาคือ

                  

    มึงเป็นผู้ชายนะเว้ยไปดิ กลัวอะไร

     

    กำลังไปร้านหนังสือที่ร้านแถวพระราม9 

    ผมพิมพ์แชทตอบกลับไป

     

    งั้นเดี่ยวไปเจอกันที่เซนทรัลพระราม9

    กินข้าวยัง?”

    รอกินด้วยกันเลย

    โอเคไหมอย่างน้อยก็มีเพื่อนเที่ยวซักวัน ไม่ต้องคิดมาก

     

    ผมแทบไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยผมรู้สึกว่ากำลังโดนมัดมือชก

    ผมคิดในใจมันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมวะ เกิดมายังไม่เคยเจอประสบการณ์อะไรแบบนี้เลย

    ถ้าให้พูดตามตรงผมก็เป็นเด็กเนิร์ดคนนึงที่แค่พยายามทำตัวไม่ให้ดูเนิร์ดเท่านั้นแหละ

    หลังจากคิดตัดสินใจอยู่ซักครู่ผมก็คิดว่ามันก็คงไม่เป็นไรหรอก ไปลองดูก็ได้วะ

    ผมพูดกับตัวเองก่อนที่จะพิมพ์แชทตอบกลับไป ว่าตกลง ตามนั้น

     

    สถานีต่อไปพระราม9 Next station praram nine”

    เสียงผู้ประกาศดังออกมา จากลำโพง ของรถไฟฟ้า MRT

     

     

    ผมตั้งใจดึงสติตัวเองกลับมาพร้อมที่จะเผชิญในย่านที่ไม่ได้รู้จักเลยแม้แต่น้อย

    หลังจากลงจากรถไฟฟ้าผมใช้เวลางมหาเส้นทางอยู่เล็กน้อย 

    ก่อนที่จะตัดสินใจ จบลงที่พี่วินมอไซค์ที่ดักรออยู่หน้าทางออกของสถานี

     

    เท่สาสสส

    ผมพูดในใจ

     

    ภาพที่อยู่ตรงหน้าของผมตอนนี้คือร้านหนังสือมือสองที่ไม่ได้มีความเป็นร้านหนังสือเลยเล็กน้อย

    ไหน ๆก็ไหนๆ แล้วขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดถึงร้านหนังสือแห่งนี้หน่อยก็แล้วกัน

    (ใครที่อยากอ่านตรงส่วนของการไปเดตอดทนนิดนึงนะขออนุญาติรีวิวร้านนิดนึง)

                  

    Zombie book

    คือชื่อของร้านหนังสือแห่งนี้ร้านตั้งอยู่ในซอยศูนย์วิจัย พระราม 9 เปิดดูเอาในกูเกิ้ลแมพได้เลย

    บรรยากาศในร้านให้ความรู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ในห้องสมุดที่มีหนังสือที่คุณแทบจะไม่มีโอกาสได้

    เจอตามร้าน หนังสือในห้างทั่วไปมีหนังสือเก่าที่น่าเก็บเยอะมาก หนังสือต่างประเทศ ภาษา

    อังกฤษก็มี แถมบอกเลยใครชอบ ฟังเพลงแนวๆ แบบบาร์แจ๊ส ยุค 70’s ร้านนี้แม่งโคตรตอบโจทย์

    คุณเลยเว้ย ตอนที่เราไปร้านเปิดเพลงญี่ปุ่นยุค 70 ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบาร์แจ๊สจริงๆ ร้านมี 

    3 ชั้น เราสามารถที่จะขึ้นไปได้หมดเลย ข้างบนจะมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงซึ่งที่ร้านบอกว่า ตอน 5 

    โมงเย็น จะมีการเปิดบาร์แจ๊สแล้วก็มีการเปิดเพลงจากแผ่นเสียง 

    (โคตรจ๊าบเลย)เราได้แต่คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป

     

    เราใช้เวลาอยู่ที่ร้านพอสมควรพอรู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไป เกือบ 2 ชั่วโมง

    แล้วเขาคนนั้นก็แชทมาพอดี

     

    เราน่าจะไม่ได้เซน 9 แล้วนะ พอดีต้องมาซื้อของที่เดอะมอล

    เดอะมอลไหน?“

    ผมพิมพ์ตอบกลับไปทันที

    บางกะปิ

    โหหห

               ผมพิมพ์ตอบกลับไป ด้วยความตกใจ และไม่รู้เลยว่าจะพาตัวเองไปยังจุดนั้นได้อย่างไร

     


    แกมานี่

               “กราบ

               เขาพิมพ์ตอบกลับมาทันที ราวกับว่าตอนนี้เขาต้องการที่พึงทางใจเป็นอย่างมาก หลังพึ่งพบเจอ

              เหตุการณ์ร้ายอะไร บางอย่างและไม่ต้องการผ่านช่วงเวลานี้ด้วยตัวคนเดียว

     

              เรากำลังดูเส้นทางและการเดินทาง เราไม่รู้เลยว่าจะต้องไปยังไงอาจจะต้องแท็กซี่

               ผมพิมพ์ตอบเธอไปด้วยความลนลาน ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสถาณการณ์ที่ไม่คุ้น

               เคยเช่นนี้ และไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องพยายามขนาดนี้เพื่อคนที่เราไม่เคยรู้จักกัน ในฐานะคน 

               Introvert แบบเราก็เริ่มเกิดคำถามขึ้นกับตัวเอง

    (Introvert = คนที่มีบุคลิกแบบเก็บตัว คนประเภทนี้มักจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองและ

    สบายใจเมื่อได้อยู่กับ ตัวเองตามลำพังซึ่งโดยปกตคนประเภทนี้จะรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องตกอยู่ใน

    ถาณการณ์ที่ไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จัก)

     

    หลังจากทำการคิดอยู่นานจู่ ๆ ความเป็นคน Introvert ของผมก็แปลกไป

    ให้ไปหาเลยป่ะ

    ผมพิมพ์แชทตอบกลับเธอไป

     

    มาเลยเดี่ยวส่งโลให้

    โอเคงั้นเราขอเวลา ครึ่งชั่วโมง เดะไปหา

    ผมปิดโทรศัพท์ลงพร้อมกับทำความเข้าใจกับตัวเองว่าจะเดินดูหนังสืออีกซักรอบ ก่อนที่จะออกไป

     

    อ่าโทษนะครับ ผมโอนเข้าบัญชีที่ป้ายติดไว้ได้เลยไหมครับ

    หลีงจากเดินไปเดินมา ผมก็ได้หนังสือติดมา 3 เล่ม 1 ในนั้นคือหนังสือนิยาย 

    Sputnik Sweetheart ของฮารูกิมูรากามิ

     

    อ่อออเดี่ยวผมคิดเงินให้นะครับ

    พี่เจ้าของร้านลุกขึ้นมา ด้วยความดีใจ ด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง หลังจากนั่งในร้าน 

    อยู่เป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้ผมแอบได้ยินพี่ๆเจ้าของร้านคุยกันว่าในสถาณการณ์อย่าวนี้เราจะ

    เอายังไงกันต่อดี น้ำเสียงสีหน้าของแต่ละคนที่ดูเหมือนผู้ดูแลที่นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด และดู

    จากจำนวนชองลูกค้าแล้ว ก็ยิ่งเข้าใจ เพราะในเวลานั้นมีแค่ผมคนเดียวที่เป็นลูกค้าจริงๆ

     

    หลังจากใช้เวลาในร้านหนังสืออยู่นานผมก็เหลือบมองดูเข็มของนาฬิกาข้อมือตัวเองอีกครั้งก่อนที่

    จะตัดสินใจ เรียกแท็กซี่เพื่อไปยังจุดหมายที่เรานัดกันไว้ ในระหว่างนั้นเองเธอก็พิมพ์แชทมา

    เรื่อยๆ

     

    ถึงแล้วบอกนะ

    ค่ารถเท่าไหร่แล้วเดี๋ยวถึงแล้วเราโอนคืนให้

    เมื่อรู้ว่าจะได้ค่าเดินทางกลับมาผมกลับมีความรู้สึกดีใจเหมือนเด็กเล็กที่กำลังจะได้ค่าขนม เล็ก ๆ 

    น้อย ๆ คืน

     

    และแล้วผมก็มาถึงที่หมาย

    ใจของผมเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ

    แล้วมันต้องทำยังไงต่อเราต้องทำตัวยังไง เราต้องคุยกับเขาแบบไหน ถ้าตัวจริงเขาไม่ตรงกับ

    โปรไฟล์จะทำยังไงแล้วถ้าในกรณีที่แย่ที่สุดเราโดนหลอกเราต้องทำยังไงใครจะช่วยเราได้

    ความกังวลหลายล้านอย่างเริ่มเกิดขึ้นในอวัยวะที่เรียกว่าสมอง

     

    นี่เราทำถูกแล้วใช่ไหมวะ

    ผมถามตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจ พิมพ์แชท ตอบกลับเธอไป

    ถึงแล้วอยู่หน้าแมค

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in