เราเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่แถวพระราม 3 วันไหนตื่นเช้ามากๆ หรือทำงานจนสว่างคาตา (เราเป็นฟรีแลนซ์) ถ้าเกิดหิว เราจะเดินผ่านร้านสะดวกซื้อเลยไปกินต้มเลือดหมูร้านประจำซึ่งอยู่แถวนั้น
จริงๆมันก็ไม่ได้อร่อยจนต้องกินวนไปค่ะอะไรเลยนะ แต่ที่ทำให้ไปกินบ่อยคือชอบบรรยากาศร้านมันขรึมๆ สบายๆ เย็นๆ ความรู้สึกเหมือนไปบ้านญาติที่เป็นคนจีน (ซึ่งเราไม่มี :P) พัดลมเพดานเก่าๆ ทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆบ้านเราเคยมี แถมยังเปิดเพลงวัยรุ่นๆอะไรแบบนี้
*ขอบคุณที่กดเล่นเพลงคลอเบาๆระหว่างอ่านบรรทัดต่อไป
จะมีเพลงหวานๆ ความหมายดีๆทั้งนั้น เปล่าๆเราไม่ได้แก่อะไรขนาดที่จะทันยุคสมัยที่เพลงพวกนี้ดัง แต่ชอบเนื้อเพลงกับทำนองเท่านั้น
ตัวร้านเป็นตึกแถวสีทึมๆ เก่าๆ แค่เดินผ่านหน้าร้านก็รู้ได้ทันทีว่าที่ร้านนี้จะต้องมีคนจีนอาศัยอยู่แน่ๆ...
ใช่ๆเจ้าของร้านคือป้ากับอาแปะคู่นึงเป็นแฟนกัน (คงเป็นแฟนกันหลายปีแล้ว) เราเข้าไปทุกครั้งก็จะสั่งเมนูเดิมซ้ำๆคือ ข้าวหมูกรอบกับต้มเลือดหมูที่ไม่เอาเลือดหมูพร้อมกับน้ำกระเจี๊ยบ 1 แก้ว
เวลาไปทุกครั้ง ป้าเจ้าของร้านก็จะง่วนอยู่กับการจัดของ เตรียมของอยู่หน้าร้าน เพราะลูกค้ายังไม่มี มันเช้าไป๊!!! เราไปเป็นลูกค้าคนแรกตลอด ร้านจะไม่มีเสียงดังโหวกแหวกโวยวายเลยแม้แต่น้อย ซึ่งชอบมาก
ส่วนอาแปะแฟนป้าจะเดินมาเสิร์ฟน้ำหลังจากที่สั่งอาหารไป พอเสร็จก็จะพาตัวเองไปนั่งบนเก้าอี้โยกได้แบบที่เป็นไม้ๆตัวใหญ่ๆ พร้อมกับฟังเพลงที่ตัวเองเปิด ภาพแบบนี้จะเห็นได้ทุกครั้งเวลาไปกิน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนหลายวันต่อมา ก็ลากตัวเองออกไปกินหลังจากที่ไม่ได้ไปหลายวัน อาแปะหาย!!! อาแปะไม่อยู่เห็นแต่ป้าอยู่หน้าร้านกับคนที่มาช่วยซึ่งอายุน่าจะใกล้ๆกันกับป้า เพลงที่เคยเปิดกลับกลายเป็นข่าวของทางวิทยุซะงั้น...
หลังจากสั่งเมนูเดิมเสร็จ เราก็พยายามมองหาคนจีนตัวสูงๆ ผอมๆ ว่าอยู่ไหน? หรือยังไม่ตื่น? ก็ไม่มีวี่แววของอาแปะที่เคยมาเสิร์ฟน้ำเลย ได้แต่เก็บข้อสงสัยนี้ไว้ในใจแต่ก็ไม่ได้อะไร
จนครั้งสุดท้ายที่ไปกิน ครั้งนี้อาแปะก็ไม่อยู่ ก็มองหาเหมือนเดิม และเก้าอี้ไม้ยังตั้งอยู่ที่เดิมแต่ไม่มีคนนั่ง จนเริ่มสงสัยอย่างจริงจัง และคิดว่าถ้ากินเสร็จจะเดินไปถามป้า แต่ด้วยความที่กลัวว่าจะเป็นสิ่งที่แอบคิด เลยทำได้แค่จ่ายตังค์และเดินออกมา...แค่นั้น
จนปัจจุบันเราได้ย้ายจากอพาร์ทเมนท์ที่พระราม 3 แล้ว และก็ไม่ได้แวะกลับไปกินต้มเลือดหมูที่ไม่ใส่เลือดหมูร้านนี้อีกเลย และรูปนี้คือรูปที่ถ่ายไว้ตอนครั้งแรกที่ไปกิน ป้าที่อยู่ในรูปคือป้าเจ้าของร้าน ส่วนรูปอาแปะ...ไม่มี
ส่วนอาแปะที่หายไปซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าไปไหน ยังคงสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ก็พยายามคิดในแง่บวกว่าคงไปเที่ยวต่างประเทศ หรือไปไหนซักแห่ง และหวังว่าคงไม่ได้จากไปไหนตลอดกาล...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in