Title: ไร้ชื่อ
Rating: NC-18
Fandom: ATEEZ
Categories: M/M
Relationship: Wooyoung/Seonghwa
Characters: Wooyoung, Seonghwa, mentioned Yunho, Hongjoong
Note:
อยากเขียนตั้งแต่เห็น Nevertheless แล้วก็กาวกับน้องเบ๊บ @lufe_d จนรู้สึกว่า เออ สักหน่อยไหมเอ่ย
เครดิตภาพปก - BECCA HU on Unsplash
Warning: Explicit content, angst
––––––––––––––––––––
ไร้ชื่อ
Wooyoung/Seonghwa
จองอูยองเกลียดความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก สำหรับนักศึกษาสาขาคณิตศาสตร์อย่างเขา สิ่งที่ไม่มีนิยามเป็นอะไรที่น่ากลัว มันไม่มีขอบเขต ไม่มีอะไรที่เป็นข้อกำหนดบ่งบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันคาดเดาหรือทำนายอะไรไม่ได้ มันควบคุมไม่ได้ แค่คิดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นก็ทำให้จองอูยองรู้สึกขนลุกขนพองด้วยความหวาดกลัว
แต่พอสิ่งนี้เกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ จองอูยองกลับเอาตัวเองออกมาไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายคือคนอย่างพัคซองฮวา
“อูยองทำอะไรอร่อยบ้างเหรอ”
ในซุเปอร์มาร์เก็ตที่อูยองแวะทุกวันศุกร์เพื่อซื้อของกลับไปเติมตู้เย็นที่หอพัก พัคซองฮวายื่นหน้าข้ามไหล่เขามาหา ขณะที่เขากำลังพิจารณามะเขือเทศในมือ และอีกฝ่ายกำลังเกาะรถเข็นเป็นลูกลิง
จองอูยองเผลอกลั้นหายใจ กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ของพัคซองฮวาทำให้เขาเวียนหัวขึ้นมากระทันหัน เขาเหลือบมองสีหน้าสงสัยใคร่รู้และแววตาใสบริสุทธิ์นั้นก่อนจะตอบ
“พี่อยากกินอะไรล่ะครับ”
พัคซองฮวาวางคางลงบนไหล่เขา สีหน้าครุ่นคิด
“ข้าวผัดก็ง่ายดีนะ”
“…งั้นก็ข้าวผัดครับ”
อูยองว่า ยกมะเขือเทศแตะหน้าผากคนอายุมากกว่าเบา ๆ ก่อนจะวางมันในรถเข็น
พัคซองฮวาทำหน้ามุ่ยมองเขา ขณะที่อูยองได้แต่ยิ้มขำ
มนุษย์กลัวสิ่งที่ไม่รู้ จองอูยองก็เป็นคนแบบนั้น แต่ในความกลัว เขาก็ยังรู้สึกว่ามันท้าทาย
ในความสัมพันธ์อันไม่มีชื่อเรียกระหว่างเขากับพัคซองฮวา แม้จะไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้คืออะไร และจะไปถึงจุดไหน แต่จองอูยองก็ยังมีความสุขกับเสี้ยววินาทีเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเมื่อครู่ อย่างตอนที่พัคซองฮวาถามถึงเมนูที่เขาทำได้ดี ถามถึงอาหารสำหรับเช้าวันพรุ่งนี้ ทำหน้ามุ่ยเมื่อเขาหยอก รวมถึงวินาทีที่อูยองพบว่า อาหารอะไรก็ไม่อร่อยเท่าริมฝีปากของพัคซองฮวา
เพราะชอบถึงขั้นนั้น จองอูยองจึงไม่เคยพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นได้เลย
ไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
สุดสัปดาห์นี้พัคซองฮวาอยากมานอนค้างที่ห้องของเขา
มีหลากหลายเหตุผลให้ปฏิเสธ แต่เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยแบบนั้น จองอูยองก็ไม่แม้แต่จะถามว่า ‘ทำไม’ พัคซองฮวาเป็นรุ่นพี่ในคณะของเขา แต่เรียนคนละสาขา จะว่าสนิทก็ใช่ แต่ถ้าถามว่าเจอกันได้ยังไง จองอูยองลำบากใจทุกทีเวลาต้องอธิบายให้ใครสักคนฟัง
“เจอกันที่ผับแถวมหาวิทยาลัยแหละ เคยไปดื่มด้วยกัน” เขามักตอบแบบนั้น จองอูยองไม่ได้โกหก เขาแค่พูดไม่หมด ไม่ได้บอกต่อว่าหลังจากดวดกันไปหลายแก้ว หมดโซจูไปหลายขวด พัคซองฮวาชวนเขาไปค้างที่บ้านของอีกฝ่าย น้ำใจอันดีจากรุ่นพี่ไม่ใช่สิ่งที่รุ่นน้องควรปฏิเสธ อูยองตอบรับ เมินแขนเสื้อที่ถูกรั้งจากจองยุนโฮเพื่อนร่วมรุ่น และสีหน้าเป็นกังวลของรุ่นพี่คิมฮงจุง เขาก้าวเข้าสู่คอนโดมิเนียมหรูกลางย่านกังนัมของพัคซองฮวาโดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ไม่คิดว่าในห้องสตูดิโอราคาหลายล้านที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโซล เขาจะรู้สึกว่าริมฝีปากของพัคซองฮวาช่างน่าสัมผัส อาจเป็นเพราะแสงไฟที่ล้อผิวนั่นก็ดี หรือแอลกอฮอล์ในเลือดที่ทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จองอูยองรู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป แต่ทุกสัมผัสก็จริงจนเขาปฏิเสธตัวเองไม่ได้ ทุกสัมผัส ทุกความเคลื่อนไหว ทุกลมหายใจและเสียงกรีดร้องแผ่วเบาในความเงียบของห้อง มันเกิดขึ้นจริง
“พี่โอเค” พัคซองฮวาที่ตื่นก่อนเขาวันนั้นนอนเล่นมือถือและพูดถ้อยคำเหล่านี้ด้วยรอยยิ้มปกติ เหมือนที่รุ่นพี่คนอื่น ๆ เป็นกัน “หิวอะไรหรือยัง ให้พี่สั่งอะไรมากินไหม”
นอกจากสรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไป จองอูยองไม่รู้เลยว่า ตนเองกับพัคซองฮวาต่างจากวันแรกที่เจอกันอย่างไรบ้าง
นับจากวันนั้น พวกเขาติดต่อกันบ่อยขึ้น เขาไปค้างห้องของซองฮวาบ่อย ด้วยเหตุผลที่ตรงไปตรงมา “ผมอยากกอดพี่” พอบอกแบบนั้น พัคซองฮวาก็จะอ้าแขนต้อนรับเขาเข้าห้อง ปล่อยให้เขาจูบ และตักตวงจากร่างกายนั้นได้อย่างเต็มที่
มันเหมือนความฝัน เพราะทุกครั้งที่ทุกอย่างจบลง พัคซองฮวาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่เคยเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน ราวกับไม่คิดจะพัฒนาหรือสานต่อไปมากกว่านี้
พอถึงตาพัคซองฮวาบอกว่าอยากมาค้างห้องเขาบ้าง จองอูยองก็เกิดตื่นเต้นขึ้นมา ทั้งที่เหตุผลของอีกฝ่ายที่เปิดเผยหลังจากนั้นเป็นแค่ “ก็อูยองมาห้องพี่บ่อยแล้ว พี่ก็อยากเห็นห้องอูยองบ้างไม่ได้หรือไง” ก็เถอะ แต่หลังจากตกลงวันที่จะมา อูยองก็ทำความสะอาดห้องครั้งใหญ่ ก่อนที่รุ่นพี่จะโทร.มาบอกเขาว่าอยู่ที่ซุเปอร์มาร์เก็ต ให้ซื้ออะไรเข้าไปทำกินมื้อเย็นกับมื้อเช้า
ซุเปอร์อยู่ห่างจากหอพักของอูยองไปเพียงสองบล็อก พวกเขาถือถุงผักกับเนื้อสัตว์กลับไปคนละสองถุง อาหารสำหรับสองคนไม่ได้มีอะไรมาก อูยองคิดไว้หมดแล้ว มีข้าวพอเหลือจะหุงผัดกินเย็นนี้ พรุ่งนี้เช้าอาจจะทำเมนูไข่ง่าย ๆ หรือแพนเค้กจากแป้งอเนกประสงค์ที่เคยซื้อทิ้งไว้ ถ้าต้มซุปไว้เย็นนี้ พรุ่งนี้เช้าก็คงเข้าเนื้ออร่อยพอดี
“อูยอง”
พัคซองฮวาเรียกเขา
เขาหันไปมองทันที ซองฮวายิ้มกว้าง “เหม่ออะไรน่ะ”
“อ๋อ” เขาเกาหัวตัวเอง “แค่กำลังคิดว่าจะทำอะไรกินดีน่ะครับ”
“ชอบทำอาหารสินะ”
อูยองยักไหล่ “ก็จำเป็นต้องทำนี่ครับ อยู่คนเดียว แล้วพี่ไม่ทำหรือไง”
พัคซองฮวาย่นหน้า “ก็พอไหว แต่ไม่ค่อยชอบทำเอง พี่ทำอาหารไม่ได้เรื่อง ปกติสั่งเอามากกว่า”
“เปลืองเงินแย่”
“ขอโทษที่เงินเหลือใช้นะ”
“โห ต่อยกันเลยดีกว่าแบบนี้”
พัคซองฮวาหัวเราะ แกล้งวิ่งนำเขาไปก่อนจะหันมายิ้มล้อเลียนให้
จองอูยองเห็นภาพนั้นราวกับภาพสโลโมชั่นของหนังรักโรแมนติกที่ตัวเองชอบดู พัคซองฮวายิ้มกว้างจนตายิบหยี เห็นฟันครบทุกซี่ แม้แต่เขี้ยวเล็ก ๆ ที่เขานึกเอ็นดูมันทุกครั้งด้วย
เขากำถุงพลาสติกในมือแน่น ก่อนจะวิ่งตามอีกฝ่ายไป สลัดความคิดที่ไม่ควรออกจากสมองอย่างรวดเร็ว
คนอย่างพัคซองฮวา ไม่มีทางอยู่เฉย ๆ ให้เขาครอบครองเพียงคนเดียวหรอก
กลับมาถึงห้อง ทำมื้อเย็นอันแสนวุ่นวายจนเสร็จสิ้น (วุ่นวายเพราะซองฮวาบอกว่าจะช่วยแต่ดันทำครัวเลอะกว่าเดิม อูยองเลยต้องไล่ให้ไปนั่งดูทีวีเฉย ๆ) กว่าจะกินและเก็บกวาดเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปพอสมควร อูยองมองฟ้าที่มีพระจันทร์ลอยเด่น และแสงไฟจากตึกในโซลกระจายไปทั่วเหมือนกลุ่มดาว ก่อนจะยื่นกระป๋องเบียร์ให้พัคซองฮวา
“ห้องอูยองวิวดีนะ”
“จะไปดีเท่าคอนโดในกังนัมได้ยังไงครับ”
คนฟังหัวเราะ “ดีจริง ๆ นี่นา” ซองฮวาชี้หน้าต่างห้องเขา “ไม่ชอบวิวแบบนี้หรือไง”
อูยองยักไหล่ ห้องพักสำหรับนักศึกษาที่พอให้ซุกหัวนอนได้ แม้จะขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานนิดหน่อย แต่ถามว่าดีขนาดจะต้องเอ่ยปากชมไหม เขาคงคิดว่าไม่ได้
ยิ่งได้ไปเยือนห้องของซองฮวาแล้ว ห้องของจองอูยองก็คือโคชีวอนดี ๆ นี่เอง
พัคซองฮวานั่งพิงข้างเตียงเขา เปิดกระป๋องเบียร์ออกยกดื่มอึกใหญ่ อูยองเห็นดังนั้นจึงนั่งลงข้าง ๆ ทีวีที่อีกฝ่ายเปิดไว้กำลังฉายซีรีส์ที่เขาไม่รู้จัก
“เรื่องอะไรอะ”
“ไม่เคยดูเหมือนกัน”
“แล้วปกติพี่ดูอะไร”
“เน็ตฝลิกซ์”
อูยองพยักหน้าเข้าใจ
“แล้ววันนี้อยากดูอะไรไหมครับ”
ซองฮวาส่ายหน้า “ไม่หรอก หรือมีอะไรที่อูยองอยากทำไหม”
อูยองเงียบ
สายตาเขาหลุบมองริมฝีปากอิ่มที่เคลือบเบียร์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ก่อนจะย้อนกลับมามองแววตาสงสัยของคนตรงหน้าอีกครั้ง
“แล้วพี่ล่ะครับ”
“…”
“มาห้องผม มีอะไรที่อยากทำไหม”
พัคซองฮวาสบตากับเขา ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมา
อูยองวางกระป๋องเบียร์ที่พร่องไปไว้ข้าง ๆ เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ พัคซองฮวาผงะเล็กน้อย แต่ไม่ได้ผลักออก อีกฝ่ายวางกระป๋องเบียร์ลงบ้าง แล้วเป็นฝ่ายวาดแขนมารั้งใบหน้าเขาเข้าไปหา
จูบในค่ำคืนนี้ รสชาติเหมือนเบียร์ที่พวกเขาเพิ่งดื่มเข้าไป
ห้องพักสำหรับนักศึกษาอย่างห้องของจองอูยองไม่ได้มีกำแพงเก็บเสียง ดังนั้นเขาจึงทำทุกวิถีทางให้พัคซองฮวากลั้นเสียงให้ได้มากที่สุด ทั้งใช้ริมฝีปากปิดบ้าง ใช้มือบ้าง หรือให้อีกฝ่ายกัดหัวไหล่เขาจนเจ็บแสบ จองอูยองไม่ใช่คนรุนแรง แต่พัคซองฮวาเองนั่นแหละที่ชื่นชอบการเล่นโลดโผนแบบนั้น ตอนที่เป็นฝ่ายขึ้นคร่อมเขาแล้วทิ้งตัวลงมาทำเอาอูยองต้องสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากให้อีกฝ่ายขบกัดแทนการส่งเสียงออกมา
โทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งไว้ไร้คนเหลียวแล และจองอูยองก็ทุ่มเททุกความสนใจไปยังคนด้านบน และปลายนิ้วที่สัมผัสได้ถึงเขี้ยวเล็กแหลม
พัคซองฮวาที่มองเขาจากตรงนั้น มีเสน่ห์จนจองอูยองรู้สึกเหมือนติดอยู่ในวงกตที่ไร้ทางออก
เพราะชื่นชอบ หลงใหล คลั่งไคล้ สีหน้าท่าทางและการแสดงออกแบบนั้น ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงของพวกเขาถึงได้ไม่เคยไปไกลกว่าการเป็นคู่นอน
แม้จะรู้สึกอิ่มเอมใจกับบางช่วงเวลานอกจากบนเตียง แต่จองอูยองก็ต้องบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าได้ยิ้มได้หัวเราะด้วยกัน แต่ไม่ได้เห็นพัคซองฮวาที่หอบหายใจอยู่ใต้ร่างเขา หรือสีหน้าที่เฝ้ามองเขาอย่างทรมานจากด้านบน ก็ไม่คุ้มที่จะแลกอะไรไป
ถ้าสุดท้ายแล้วการ ‘ข้ามเส้น’ ทำให้เขากับพัคซองฮวาต้องยุติสิ่งที่กำลังทำตอนนี้ เขาก็ยินดีจะติดอยู่ตรงนี้จนตาย
เพราะอย่างน้อย ได้ตายในอ้อมอกคนอย่างพัคซองฮวาก็ดีกว่าอยู่แล้วนี่นา
FIN
210713
ว่าจะนอนเร็ว นอนดึกอีกแล้ว กร๊าก เครียด เขียนฟิค แล้วก็จะรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นนิดนึงค่ะ เขียนฟิคเพื่อเยียวยาช่วงเวลาอันแสนทรมานนี้จริง ๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in