บันทึกการปฏิบัติภารกิจที่ 8
อาทิตย์ที่แปดของการฝึก..
หน้าที่กับนาทีแห่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
สัปดาห์ที่สองของการฝึกงานออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ การทำงานยังคงดำเนินไปอย่างเรียบเรื่อย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพิ่มเติมคือความรู้สึกเอื่อยเฉื่อย นั่นอาจเป็นเพราะต้องทำงานอยู่บ้านทำให้รู้สึกว่าไม่มีแรงกระตุ้นหรือพลังไฟในการทำงาน
...การทำงานสุดแสนจะเหี่ยวเฉา..
อย่างไรก็ตามยังพอมีเรื่องดีเกิดขึ้นอยู่บ้าง หลังจากที่ฉันลงคอนเทนต์ดอกไม้และวันทานาบะตะไป ฉันก้ได้รับมอบหมายงานจากี่จีนโดยตรงอีกครั้ง คือการเขียนคอนเทนต์ดอกไม้ ซึ่งครั้งนี้เป็นดอกคาร์เนชั่น โดยดอกไม้ดังกล่าวปรากฏอยู่ในหนังสือเรื่อง 'หน้าที่กับนาทีชีวิต' เป็นนวนิยายสืบสวนที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของทีมแพทย์ที่ต้องการรักษาชีวิตของคนไข้ พร้อมทั้งปมปริศนาเกี่ยวกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้ตัวละครเอกต้องออกมาแก้ไขปริศนา เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มหนึ่งที่รู้สึกว่าควรค่าแก่การอ่าน ถึงแม้การดำเนินเรื่องจะเรียบง่ายแต่ก็แฝงปมและคติให้เรารู้สึกคิดตาม เป็นเรื่องที่สะท้อนมุมมองของการเป็นแพทย์ที่ดีออกมาได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ฉันอ่านจบทำให้รู้สึก เข้าใจความหมายของคำว่า หน้าที่ กับ นาทีชีวิต
อาจสงสัยว่าดอกคาร์เนชั่นเกี่ยวอะไรกับหนังสือเล่มนี้ นั่นก็เพราะว่าดอกคาร์เนชั่นที่ปรากฏได้ำมาเป็นสัญลักษณ์แทนความความห่วงใยใช้มอบให้กับผู้ป่วย ฉันจึงเริ่มเขียนบทความเรื่องดอกคาร์เนชั่นขึ้นมาทันที นอกจากนี้ยังเขียนเชื่อมโยงกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้กำลังใจเหล่าทีมแพทย์ที่ทำงานกันอย่างหนัก ต้องสู้กับภัยร้ายโควิด
ฉันส่งเนื้อหาบทความพร้อมทั้งรูปภาพปกให้พี่จีนตรวจเช็คก่อนจะจัดการลงโพสต์ในทันที
ตลอดการทำงานทั้งสัปดาห์ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนกรั้งวันที่หัวหน้างานคุณชาวินส่งลิงก์การประชุมเข้าในกลุ่ม ตอนแรกฉันรู้สึกลังเลว่าจะเข้าร่วมด้วยดีหรือเปล่า แต่เพราะเป็นเด็กฝึกงานและมีส่วนร่วมในการทำงานด้วยจึงเข้าร่วมการประชุม
การประชุมในครั้งในให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เพราะมันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะหัวหน้างานที่เป็นบอสใหญ่ของสำนักพิมพ์เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบงาน ซึ่งงานที่ฉันลงค่อนข้างมีจุดผิดพลาดหลายจุด เช่น การไม่ใส่แท็กสินค้า การใส่แฮชแท็กผิด หรือการใส่ลิงก์สินค้าหน้าเว็บผิด ถึงแม้ว่าข้อมูลดังกล่าวฉันจะไม่รู้มาก่อนแต่ว่าก็เป็นข้อผิดลพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้ยังโดนดุเรื่องการไม่ส่งงานให้เขาดูล่วงหน้ด้วยเช่นกัน ซึ่งคำถามนี้คุณชาวินบอกว่าต้องรอหลายฝ่ายกว่าจะได้ลง จึงส่งให้ดูกันเองผ่านบก. หากบก.ให้ผ่านก็สามารถลงได้เลย
ฉันรู้สึกแย่ ฉันไม่ได้เป็นคนตอบคำถาม เพราะมีพี่พาน พี่ไพลินและคุณชาวินคอยตอบให้ ที่ฉันรู้สึกแย่เพราะส่วนหนึ่งงานทั้งหมดที่ทำฉันมีส่วนร่วมไปมากกว่าครึ่ง ดังนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของฉันด้วยเช่นกัน การประชุมดำเนินไปเกือบ 6 ชั่วโมง ฉันเริ่มรู้สึกห่อเหี่ยว
เมื่อการประชุมจบฉันตัดสินใจส่งข้อความไปหาพี่ไพลินเพื่อขอโทษเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้โดนดุโดยตรงแต่พี่ไพลินเป็นคนรับเต็ม ๆ ฉันจึงรู้สึกอยากขอโทษเธอจากใจจริง
ฉันส่งข้อความไปหาพี่ไพลิน
"ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นเป็นไรค่ะ
หนูแค่รู้สึกไม่ดีเล็กน้อยค่ะ วันนี้ที่ถูกดุส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหนูขาดความรอบคอบ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ลำบาก ตอนนี้หนูจดส่วนที่เป็นข้อผิดพลาดแล้วค่ะ จะพยายามระมัดระวัง หลังจากนี้หนูจะเช็คให้ดีก่อนลงงานค่ะ ขอบคุณพี่ไพลินที่ให้คำแนะนำหนูตลอดนะคะ"
ถึงแม้จะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เตือนตัวเองเสมอว่าให้ระมัดระวังเรื่องการทำงานมากขึ้น
รุ่งเช้าทั้งพี่ไพลินและพี่พานโทร.มาหาฉันทันที
พี่พานโทรมาหาฉันคนแรก เธอบอกว่าพี่ไพลินเป็นคนเล่าให้ฟัง และให้กำลังใจฉันโดยไม่อยากให้คิดมาก ฉันก็ตอบรับความหวังดีนั้นด้วยความเต็มใจ เพียงไม่กี่นาทีพี่ไพลินก็โทร.มาหา
"น้องหนูนาเป็นยังไงบ้าง? ไม่ต้องคิดมากน้า" คำแรกของพี่ไพลินทำให้ฉันรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ เหมือนความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดมลายหายไปเพียงแค่คำ ๆ เดียว ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติและขอโทษที่ทำให้ต้องเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรนะน้องหนูนา พี่แค่จะบอกว่าการทำงาน ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต ข้อผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้สำหรับทุกคน เราย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ทำได้แก้อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก คนเราเรียนรู้ได้เสมอ เรารับฟังมาแค่นั้นก็จบ ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจนะ อีกอย่างมันไม่ใช่คามผิดของน้องเลย เป็นความผิดของพวกพี่เองซึ่งบางครั้งงานมันเยอะจนล้นมือทำให้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราอาจจะลืม เนี้ยพอมีน้องหนูนามาช่วย พี่ก็เบางานไปได้เหมือนกัน ฉะนั้นไม่ต้องคิดมากนะ ดูอย่างพี่สิเมื่อวานประชุมเสร็จพี่ปิดคอมนอนเลย ไม่ทำต่อและ"
คำพูดของพี่ไพลินทำให้ฉันเผลอหลุดขำ ฉันกล่าวขอบคุณและบอกความรู้สึกของตัวเองไปตรง ๆ พร้อมทั้งบอกว่าจะนำคำแนะนำไปปรับใช้ ฉันรู้สึกดี รับความหวังดีของพี่ไพลินด้วยความเต็มใจ
จนตอนนี้ฉันอยากขอบคุณพี่ไพลินเป็นพัน ๆ ครั้ง ทั้งคอยสอน ให้คำแนะนำ พี่ไพลินทำให้ฉันรุ้สึกเหมือนมีพี่สาวอีกหนึ่งคน ฉันรู้แล้วว่าคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ เพี่ยงแค่เราได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิดพลาด
บางคนเลือกที่จะจมอยู่กับมันและทำให้ตัวเองด่ำดิ่งลงถึงจุดที่เรียกว่า 'การโทษตัวเอง'
ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น หรืออาจจะเป็นบ้าง แต่ฉันเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเอง ดังนั้นฉันจะนำความผิดพลาด ณ ตรงนี้เรียนรู้และแก้ไขมัน
จบบันทึกการปฏิบัติภารกิจที่ 8
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in