เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อเมริกา callingchefercree
เดินทาง
  • นับวันรอการเดินทางครั้งใหม่ ในใจเต็มไปด้วยความกังวล ว้าวุ่น ตื่นเต้น ดีใจ ปะปนกันอยู่ในห้วงของความรู้สึก เป็นมวลบางอย่างที่ไม่สามารถสื่อสารออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา มองข้างทางระหว่างค่อย ๆ พาตัวเองไปที่สนามบิน คิดนั่นนี่เรื่อยเปื่อย กว่าจะตั้งสติได้อีกทีก็มายืนอยู่ตรงผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเสียแล้ว บันไดเลื่อนลอยขึ้นไปชั้นบน เหมือนเป็นนัยว่า จะลอยขึ้นฟ้าไปสักที่แล้วนะ

    บนเครื่องบินไม่ได้สบายแต่ก็ไม่ได้อึกอัดจนเกินไป เที่ยวบินแรกเราไปลงที่ญี่ปุ่น ประเทศในลิสต์ที่เราต้องไปให้ได้ น่าเสียดายที่ได้แต่มองบรรยากาศจากตึกผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวเท่านั้น เรารอเวลาเปลี่ยนเครื่ิองโดยการสั่งอุด้งมากิน ราคา 760 เยน เหมือนเคี้ยวไปแล้วสามวันก็ยังไม่หมดชาม อยากเที่ยวญี่ปุ่นจัง โคนัน รอก่อนนะ! สักวันจะไปพิพิธภัณฑ์โคนันที่ทตโทริให้ได้เลย

    นี่สินะ ของจริงแล้ว

    ออกจากญี่ปุ่นเวลา 11.35 และถึงอเมริกาสนามบิน JFK เวลา 11.30 ถ้านึกไม่ออก มันคงเป็นความรู้สึกเหมือนการเวียนว่ายตายเกิดที่ไม่จบไม่สิ้น อย่างที่บอกที่มันไม่ได้สบายแต่ก็ไม่ได้อึดอัด แต่มันก็อยู่ในท่าทางที่ทรมานไปหน่อย ทุกครั้งที่หลับไปก็รู้สึกว่านอนไปแล้วหนึ่งช่วงชีวิตแต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาดูเวลา บ้าจริง นี่มันผ่านไปแค่ 2 ชั่วโมงเองหรอ อาหารบนเครื่องบินที่มีทั้งถูกปากและไม่ถูกปาก ค่อนข้างจะน่าสงสารกับคนเลือกกินอย่างเรา เรื่องตลกคือ เรากินข้าวเที่ยงของวันอังคารไปแล้ว พอตื่นมาอีกที เรากินข้าวเช้าของวันอังคารอีกรอบ ตื่นเต้นอะ นี่เราเดินทางย้อนเวลาหรอวะเนี่ย จะไม่ขอพูดถึงเที่ยวบินระหว่างประเทศที่บินจาก JFK ไป RIC ก็คงไม่ได้ เป็นไฟลท์ที่เราสวดเกือบจะตลอดเวลา (หัวเราะ) แม่ง โคตร น่า กลัว!!!! เครื่องสั่น ตกหลุมอากาศ บินขึ้นบินลง หักมวงมาลัยเหมือนขับรถแบบไม่เหยียบเบรก ให้ตายสิ หัวใจที่จะหลุดออกจากอก

    จังหวะที่ก้าวออกมาจากสนามบิน ลมเย็นที่ประเทศไทยไม่เคยมี ไม่เคยให้ได้ ก็ปะทะเข้ากับตัวอย่างแรง คงนึกภาพออกใช่มั้ยว่าลมเย็นมันแรง มันแสบผิวมากแค่ไหน นอกจากเราจะเป็นคนเลือกกินแล้ว ผิวหนังเราก็ยังเลือกที่จะแพ้อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ใช้ชีวิตยากนะผู้หญิงคนนี้อะ กว่าเราจะถึงหอพักสำหรับเด็กแลกเปลี่ยน ก็ปาไปเกือบสองทุ่ม ใช้เวลาในการจัดแจงของ มึน ๆ งง ๆ ยังทำตัวไม่ถูก ยังดีที่มีเพื่อนคนไทยมาก่อนเราแล้ว 3 คน เราและเพื่อนอีกสามคนเลยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย

    หมดวันด้วยพลังชีวิตที่เหลืออยู่ประมาณ 3% ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียงที่เมกา ได้แต่ภาวนาให้อะไร ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่น่าจดจำ แต่ก็ไม่เกี่ยงนะว่าจะเป็นความประสบการณ์ที่ดีหรือประสบการณ์ที่ไม่ดี จนอายุ 23 แล้ว รู้สึกยังไม่ได้ใช้ชีวิตเลย ขอแค่ได้ใช้ชีวิตหน่อยเถอะ


    ทานตะวัน
    21/03/22


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in