เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์ By กษิดิศ อนันทนาธร บก.
  • รีวิวเว้ย (1114) "ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง จารุพงษ์ก็ยังไม่ตาย ซึ่งจะช่วยหล่อเลี้ยงให้พ่อกับแม่มีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย ตามความเข้าใจโดยทั่วไป บันทึกความทรงจำทำหน้าที่บันทึกสิ่งที่ต้องการจำ สิ่งที่ไม่ถูกบันทึกแปลว่าสิ่งนั้นจบหายสิ้นไปก็ได้ กล่าวอีกอย่างก็คือ ในความเข้าใจทั่วไป ชั่วขณะที่บันทึกยุติลง หมายถึงการลืม หมายถึงความทรงจำที่ยุติหรือหายไป …  บันทึกของจินดาที่ยุติลงไม่ใช่การยุติเรื่องลงฉับพลัน ตรงข้ามการหยุดบันทึกเป็นการหยุดเวลาไว้ไม่ให้เดินต่อไปจนถึงการรับรู้แน่ชัด ว่าจะรุพงษ์เสียชีวิตไปแล้ว เป็นการหยุดประวัติศาสตร์เพื่อรักษาความหวัง และเพื่อรักษาชีวิตที่ยังมีอยู่ ให้อยู่ในช่วงเวลาที่หยุดนิ่งซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ความทรงจำ" บันทึกยุติลงเฉย ๆ ก็เพื่อเก็บความทรงจำเอาไว้ เป็นการเริ่มต้นของความทรงจำและความหวังที่บรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้ต่างหาก การปิดฉากหรือตอนจบไม่ถึงการสิ้นสุด ซึ่งในกรณีนี้ย่อมหมายถึงจบสิ้นความหวัง และไม่ยอมให้ชีวิตของลูกชายดำรงอยู่ แม้กระทั่งในความทรงจำของพ่อแม่ ความเงียบนับจากคณะที่หยุดบันทึก ในกรณีนี้กลับเต็มไปด้วยความทรงจำและความหวังเพื่อรักษาชีวิตไว้ เป็นความทรงจำที่ดำเนินต่อไปไม่มีตอนจบ บันทึกที่ไม่จบเพื่อให้จารุพงศ์มีโอกาสกลับมา ตราบเท่าที่ยังมีหวัง จารุพงษ์จะกลับมา บันทึกจึงต้องไม่จบ" (น. 52-53)
    หนังสือ : 46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์
    โดย : กษิดิศ อนันทนาธร บก.
    จำนวน : 152 หน้า

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เข้าเรียนที่ธรรมศาสตร์ช่วงแรก ๆ เรามีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายของกลุ่มกิจกรรมหลายกลุ่มในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และครั้งหนึ่งมีการเข้าค่ายที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และมีโอกาสได้ฟังเรื่องราวของเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ และ 6 ตุลาฯ รวมถึงได้มีโอกาสรับฟังเรื่องเล่าของนักศึกษาธรรมศาสตร์ในยุค 6 ตุลาฯ ที่ชื่อว่า "จารุพงษ์ ทองสินธุ์" นักศึกษาที่มีชื่อติดอยู่เหนือทางเข้าห้องประชุมในตึกกิจกรรมนักศึกษาที่ท่าพระจันทร์

    น่าแปลกใจที่ตัวเราเองในช่วงเวลานั้น กลับไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ จากที่ใดทั้งในวิชาประวัติศาสตร์ หรือกระทั่งในหนังสือที่จะกล่างถึงเรื่องของ 6 ตุลาฯ ในช่วงเวลามีอยู่น้อยถึงน้อยมาก อาจจะเรียกได้ว่าประวัติศาสตร์ของช่วงเวลานั้นเคยเป็นหลุมดำที่ดูดเอาความจริงและความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นไว้ในภายใต้แรงดึงดูดของหลุมดำทางประวัติศาสตร์ กระทั่งไม่กี่ปีมานี้เองที่เรื่องราวและเรื่องเล่าของเหตุการณ์เดือนตุลาฯ ได้รับการพูดถึงและมีการจัดกิจกรรมอย่างจริงจัง กระทั่งสื่อกระแสหลักรวมถึงคนในวงการต่าง ๆ ก็หันมาสนใจและใส่ใจในเหตุการณ์เดือนตุลาฯ โดยเฉพาะ 6 ตุลาฯ มากยิ่งขึ้น

    การตื่นขึ้นอีกครั้งนี้เองที่ทำให้เหตุการณ์และคนในเหตุการณ์เดือนตุลาฯ ได้กลับมาสู่สังคมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พวกเขาเคยถูกทำให้หายไปในหลุมดำทางประวัติศาสตร์ ถูกทำให้กลายเป็นความทรงจำที่ลบเลือน และถูกทำให้กลายเป็น "ปีศาจ" ที่มิอาจพูดถึงได้ในสังคมแห่งนี้

    หนังสือ "46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์" เป็นหนังสือที่ถูกจัดพิมพ์ขึ้นอีกครั้งโดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาในหลายส่วนจากการพิมพ์ครั้งแรก โดยที่ "46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์" ได้ทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวของนักศึกษาธรรมศาสตร์คนหนึ่ง ที่ถูกทำให้หายเข้าไปในหลุมดำของประวัติศาสตร์ของสังคมไทยอย่าง "จุรุพงษ์ ทองสินธุ์" ซึ่งเขาเองเป็นเพียงภาพแทนของบุคคลอีกหลาย ๆ คนที่ถูกทำให้หายไปอย่างไม่มีวันกลับในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และบางคนจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 46 ปี คนบางคนก็อาจจะถูกลืมเลือนไปแล้วตามกาลเวลาและตามความมุ่งหวังของรัฐไทยที่นิยมวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด (Impunity) หนังสือ "46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์" เล่มนี้จึงเป็นการย้ำเตือนเหล่าบรรดาคนที่เชื่อถือวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดว่า "6 ตุลาฯ เราไม่ลืม"

    โดยเนื้อหาของ "46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์" แบ่งออกเป็นบทต่าง ๆ ดังนี้

    (1) บทนำ หกตุลากับขบวนการยุติธรรม กฤษฎางค์ นุตจรัส

    [เราไม่ลืมจารุพงษ์]

    (2) ตามหาลูก: จดจำและหวังด้วยความเงียบ ธงชัย วินิจจะกุล

    (3) ประวัติลูกจารุพงษ์ ทองสินธุ์ (ลูกเกี๊ยะ) จินดา ทองสินธุ์

    (4) บันทึก 6 ตุลา พลิกแผ่นดินตามหาลูก จินดา ทองสินธุ์

    (5) จารุพงษ์ ทองสินธุ์ บาดแผลไม่จางหายของ 6 ตุลา ยุวดี มณีกุล

    (6) ชีพนี้เพื่อมวลชน ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน

    (7) เก้าอี้ว่าง โต๊ะร่าง ดูเงียบงัน เพราะเสียงเพลงเพื่อนนั้นไม่มีแล้ว เกษียร เตชะพีระ

    (8) เรายังไม่ลืมจารุพงษ์ ธานี (ขวัญชัย) จิริยะสิน

    หลังจากอ่าน "46 ปี 6 ตุลาฯ เราไม่ลืมจารุพงษ์" ทำให้เราคิดถึงเพลง "5 ตุลาฯ" (https://youtu.be/tn-3G4gVZuk) ที่ท่อนสุดท้ายของเพลงร้องเอาไว้ว่า "ให้ตื่นคราวนี้ มันมีความหมาย ไม่เหมือนดังเดิม"

    -------------------
    อ่านไฟล์ได้ฟรี ทาง https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:27362 หรือ https://pr.tu.ac.th/journal_special/2565/46-years-6oct65-day/index.html

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in