เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ By ชินสุเกะ โยชิทาเกะ แปล ชมนาด ศิติสาร
  • รีวิวเว้ย (974) ไม่แน่ใจว่า "ความฝัน" ของ "คนชอบอ่านหนังสือ" ทุกคนจะเป็นเหมือนกันไหมนะ ที่ความฝันมันก็จะวน ๆ อยู่แค่ไม่กี่ข้อ เช่น อยากมีหนังสือแนวที่ตัวเองชอบอ่านต่อไปนาน ๆ อยากให้นักเขียนในดวงใจเขียนหนังสือออกมาให้ได้อ่านอย่างต่อเนื่อง และอยากมีร้านหนังสือดี ๆ ที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้กับเราในแต่ละช่วงเวลาที่เราต้องการสถานที่บางแห่งทั้งในช่วงเวลาที่ชีวิตมีความสุข เศร้า เหงา และอื่น ๆ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว "ร้านหนังสือ" ในประเทศไทยร้านหนังสือที่จะทำหน้าที่แบบนั้นได้ก็มีอยู่ไม่มากนัก และที่สำคัญยิ่งนับวันมันยิ่งจะลดจำนวนลง อาจจะด้วยความเปลี่ยนแปลงของโลกการอ่าน และการเปลี่ยนแปลงของอะไรหลาย ๆ อย่าง

    ก่อนที่จะไปรีวิวหนังสือเล่มนี้ 2-3 วันก่อน เรามีโอกาสเดินไปซื้อหนังสือร้านประจำ ที่เป็นร้านในกลุ่มของสายสงหนังสือที่มีหน้าร้านขนาดใหญ่อย่าง "ร้านนายอินทร์" สาขา "ท่าพระจันทร์" ที่น่าใจหายคือพี่ผู้จัดการร้านบอกว่า สาขานี้กำลังจะถูกปิดลงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ทำให้เรากลับมานั่งเขียนเรื่องของร้านนายอินทร์สาขานี้ลงใน FB ส่วนตัว เราเลยอยากคัดมันมาลงในรีวิวหนังสือเล่มนี้ด้วย เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ เป็นเล่มที่เราเลือกซื้อมาจากร้านนายอินทร์สาขาท่าพระจันทร์ เพื่อที่จะ "เก็บความทรงจำ" เกี่ยวกับร้านหนังสือสาขานี้เอาไว้ หากมันต้องปิดตัวลงจริง ๆ ตามวันที่พี่ผู้จัดการร้านบอกกล่าว

    ความน่า เศร้า เซ็ง อีกเรื่องของวันนี้ คือ การเดินเข้าร้าน "นายอินทร์ท่าพระจันทร์" แล้วพี่ผู้จัดการร้านบอกว่า

    ผจก : คุณมาร์คครับ ร้านเราจะเปิดถึง 31 มี.ค. นี้นะครับ

    ชัย : แล้วหลังจากนี้จะไปอยู่ที่ไหนกันหรอครับ (?)

    ผจก : ยังไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนนี้รอทาง สนง.ใหญ่ ให้คำตอบว่าจะแยกย้ายกันไปอยู่ที่ไหน

    ปีนี้ร้านหนังสือที่เราซื้อบ่อย ๆ ในแถบย้านนี้ต้องปิดตัวลงถึง 2 ร้าน ส่วนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นผลจากการขยับขยายย้ายเปลี่ยน อีกส่วนคงเป็นผลมาจากรูปแบบการซื้อหนังสือที่เปลี่ยนไปของผู้อ่าน ที่ซื้อผ่าน สนพ. และร้านออนไลน์มากขึ้น เพราะสายส่งหนังสือก็ปรับค่าบริการเป็น 42% จากราคาปก (เช่น หนังสือ 100 บาท สายส่งหักไป 42 บาท) แน่นอนว่า สนพ. ก็ต้องตั้งราคาสูงขึ้น และคนก็ซื้อหนังสือลดลงเพราะราคาสูงทะลุหลังคาโลก พอคนซื้อลดลงสายส่งรายได้ลดลงก็ต้องเก็บค่าบริการสูงขึ้น และก็วน ๆ ไป จนคนก็ไม่มีเงินจะซื้อ สายส่งก็ไม่มีของ สนพ. ก็คงจะเลิกทำหนังสือ

    เวลาที่ได้ยินรัฐบาล พูดถึงเรื่องการอ่าน บางทีก็อยากจะใส่คอนเวิดแล้วเดินไปถีบหน้าพวกมัน โดยเฉพาะเวลามีคนพูดว่า "คนไทยอ่านหนังสือน้อยลง" อยากกระชากคอเสื้อแล้วบอกมันว่า "มึงแหกตาดูราคาหนังสือในประเทศนี้ก่อน" ล่าสุดเราซื้อหนังสือ 2 เล่มเล็ก ๆ จาก "นายอินทร์ท่าพระจันทร์" เพื่อเก็บความทรงจำของร้านนี้ไว้ หนังสือ 2 เล่มเล็ก ๆ มีราคารวมกัน 750 บาท ทั้งเศร้า ทั้งโกรธ ทั้งหดหู่
    หนังสือ : ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ
    โดย : ชินสุเกะ โยชิทาเกะ แปล ชมนาด ศิติสาร
    จำนวน : 103 หน้า

    "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ" หนังสือภาพขนาดเล่มกระทัดรัดที่เขียนเอาไว้ในปกหลังว่าตัวมันจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ "หมวดหนังสือเด็ก-นิทาน" หนีงสือเล่มนี้ว่าด้วยเรื่องราวของ "ร้านหนังสือ" ที่ชื่อร้านว่า "มีไหมนะ" ที่เป็นร้านหนังสือที่ขายหนังสือที่เกี่ยวกับหนังสือในแง่มุมต่าง ๆ โดยที่ผู้เขียนได้สร้างจินตนาการถึงหมวดหมู่ของหนังสือแต่ละเล่มใน "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ" เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งบรรดาลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาถามหาหนังสือในหมวดต่าง ๆ จากลุงเจ้าของร้านว่า "หนังสือในหมวดนี้มีไหมนะ (?)" ซึ่งหนังสือแต่ละหมวดมีตั้งแต่เรื่องของ หนังสือค่อนข้างหายาก ที่จะมีหนังสทอพิเศษบางเล่มที่พิมพ์ขึ้นด้วยหมึกแสงจันทร์ที่จะอ่านได้ภายใต้แสงจันทร์ในคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น หรือในหมวดของหนังสือสถานที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับหนังสือ และยังมีหนังสืออีกหลากหลายหมวดที่บรรดาลูกค้าเดินเข้ามาถามหาจาก "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ"

    เมื่ออ่านจบลงเราพบว่า "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ" ที่ถูกจัดอยู่ในหมวดของหนังสือเด็ก และนิทายภาพ แต่เอาเข้าจริงแล้ว หนังสือในหมวดนี้หากถูกคนมีอายุหยิบมันขึ้นมาอ่าน มันอาจจะสร้างคำถาม การรับรู้ และคำตอบบางประการที่น่าสนใจสำหรับคยอ่านที่อยู่นอกเหนือกลุ่มที่ถูกระบุเอาไว้บนปกของหนังสือเล่มนี้ อย่างเราเองเมื่ออ่าน "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ" จบลง มันทำให้เราคิดถึงร้านหนังสือในความทรงจำของเรา 2 ร้าน นั่นคือ (1) ร้านหนังสือเดินทาง -- ที่กำลังจะย้ายร้านเนื่องจากที่ตั้งของร้านในปัจจุบันโดนเวนคืนเพื่อทำทางขึ้นของสถานี้นถไฟฟ้าใต้ดิน และ (2) ร้านนายอินทร์ สาขาท่าพระจันทร์ ที่ตัวร้านกำลังจะถูกปิดลงในวันที่ 31 มีนาคมนี้แล้ว เอาเข้าจริงในใจลึก ๆ เราก็แอบเสียดายที่ร้านหนังสือร้านหนึ่งจะปิดตัวลง เพราะสำหรับเราแล้วร้านหนังสือทุก ๆ ร้านมันคือ "ร้านหนังสือชื่อมีไหมนะ" สำหรับใครบางคนเสมอ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in