รีวิวเว้ย (897,898,899,900,901) หนังสือชุด "ขบและข่วน (Brit & Scratch)" บนปกหลังของหนังสือในชุดนี้ทั้ง 5 เล่มมีการเขียนถึงเรื่องของ "ขบและข่วน" เอาไว้ว่า "คือซีรีย์หนังสือแปลเล่มเล็กขนาด A5 บ้าง A6 บ้าง ภายในบรรจุบทความจำนวน 1-3 ชิ้นของนักเขียน/นักวิจารณ์เพียงคนเดียว เหตุผลของการเลือกตัวบทแต่ละชิ้นนั้นแตกต่างกันออกไปตามวาระ แถมแต่ละชิ้นยังกินพื้นที่ทางวัฒนธรรมและช่วงเวลาที่หลากหลาย ทั้งนี้ จุดร่วมของตัวบททั้งหมดคือความพยายามที่จะเข้าใจความกว้างใหญ่และความสลับซับซ้อนของประเด็นปัญหาในบริบทของนักเขียน/นักวิจารณ์นั้น ๆ เราอยากแปลงสารพัดสำเนียงและมุมมองเหล่านี้ให้กลายเป็นภาษาไทย ส่วนตัวบทจะทำงานอย่างไรมากกว่านี้ถือเป็นอิสระของผู้อ่าน ทีมผู้จัดทำจะเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ด้วยใจระทึก" นอกจากนั้นหนังสือในชุดขบและข่วนนี้ยังใช้รูปอบบของ Alt-Pub (https://thematter.co/entertainment/soi-squad-interview/138576) ในการจัดพิมพ์ ซึ่งหากสงสัยว่ามันคืออะไรลองกดเข้าไปอ่านตาม Link ที่แนบมาให้พร้อมกันนี้ก็จะได้คำตอบของคำถามดังกล่าว
หนังสือ : ขบและข่วน
โดย : alt pub by soi
จำนวน : หน้า
ราคา : 200 บาท
เนื้อหาในหนังสือชุด "ขบและข่วน" ณ ตอนที่กำลังเขียนรีวิวอยู่นี้ (ตุลาคม 2564) หนังสือชุดดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 5 เล่ม โดยที่แต่ละเล่มจะมีบทความของรักเขียน นักวิจารณ์เพียง 1 คน แต่ไม่ได้แปลว่าแต่ละเล่มจะมีเพียง 1 บทความ บางเล่มก็มี 2-3 บทความก็มี โดยที่หนังสือแต่ละเล่มในชุดขบและขวนมีดังนี้
ขบและข่วนหมายเลข 1 เรื่อง "ระบบกริด (Grids)" และ "วิดีโอ: สุนทรียศาสตร์แห่งการหลงรูปตัวเอง (Video: The Aesthetics of Narcissism)" รอสลินด์ อี เคราส์ เขียน นนทชัย สักการโกศล แปล จำนวน 51 หน้า บทความในขบและข่วนหมายเลข 1 นี้ว่าด้วยเรื่องของ "ระบบกริด" กับการทำงานต่อการรับรู้ของผู้คนและวงการที่นำเอาระบบกริดเข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญของการขับเคลื่อนการดำเนินงานในวงดังกล่าว ซึ่งระบบกริดนี้เองทรงพลังมากกว่าที่เราคาดคิดและมีคยามสำคัญต่อการขับเคลื่อนวงการเหล่านั้นโดยที่หลายครั้งคนใช้มันก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป และบทความอีกชิ้นอย่าง "วิดีโอ: สุนทรียศาสตร์แห่งการหลงรูปตัวเอง" ว่าด้วยเรื่องของการนำเสนอภาพแทนสรรพสิ่งผ่าน "วีดีโอ" โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้วีดีโอผ่านมุมมองในเรื่องของสุนทรียศาสตร์ ที่เป็นที่น่าแปลกใจว่าเราสามารถมองมุมมองของการใช่งานดังกล่าวในฐานะของการสร้างความลุ่มหลงในรูปลักษณ์ของตัวเองได้ โดยเฉพาะเมื่อเราลองเทียบดูกับปัจจุบันเราจะสามารถเห็นภาพของแนวคิดดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้นโดยที่ในปัจจุบันมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่วีดีโอเท่านั้น
ขบและข่วนหมายเลข 2 เรื่อง "แถลงการณ์เพื่อต้านทานการลดทอน: การออกแบบอนาคตอันซับซ้อนของเราด้วยเครื่องจักร (Resisting Reduction: A Manifesto, Designing our Complex Future with Machines)" โจอิชิ อิโตะ เขียน การัณยภาส ภู่ยงยุทธ์ แปล จำนวน 19 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 2 ว่าด้วยเรื่องของ "แถลงการณ์เพื่อต้านทานการลดทอน: การออกแบบอนาคตอันซับซ้อนของเราด้วยเครื่องจักร" ความหลากหลายของสรรพสิ่งที่ถูกลดทองลงจนเหลือเพียงเป้าหมายหนึ่งเดียว และการลดทอนให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวของสังคมทุนนิยมนั้นก็ดูจะเป็นการขัดขวางการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งปัญหาเหล่านั้นมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นในทุกวัน เพียงแต่แนวทางของการขับเคลื่อนสังคมดูจะอยู่ในฝากที่ตรงข้ามกับการจัดการความซับซ้อนของปัญหา ด้วยการลดทอนวิธีการให้เหลือเพียงเป้าเดียวแน่นอนว่ามันคงไม่มีทางแก้ปัญหาที่หลากหลายซ้บซ้อนได้หากมุ่งเน้นแค่เพียงการลดทอนแนวทางการหาทางออกและการดำเนินการต่าง ๆ ลง
ขบและข่วนหมายเลข 3 เรื่อง "หูดับ: ปอดจับฝุ่นหินในเหมืองกินคน (The Miner’s Ear)" รอสลินด์ ซี มอร์ริส เขียน พีรวัฒน์ นาวีเจริญ แปล จำนวน 44 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 3 ว่าด้วยเรื่องของ "หูดับ: ปอดจับฝุ่นหินในเหมืองกินคน" ที่บอกเล่าเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมระหว่างชนชั้นของคนผิวสี ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเรื่องเล่าของคนทำเหมือง ที่สอดแทรกภาพของผลกระทบที่เกิดขึ้นหลัก ๆ จากการทำเหมือนทั้งโรคภัยและหายนะภัยที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างทำงานที่ฆ่าชีวิตคนงานเหมืองผิวสีไปมากมาย อีกทั้งความตายของเหล่าคนงานผิวสีก็ดูจะไม่ได้รับความสนใจ หรือให้ความสำคัญจากเหล่าคนขาวเท่าไหร่นัก งานชิ้นนี้มุ่งสะท้อนภาพของโรคภัย หายนะ ความตาย ผ่านความแตกต่างระหว่างคนสองกลุ่มเป็นสำคัญ
ขบและข่วนหมายเลข 4 เรื่อง "ทัศนาวิลล่า กริมัลดี: บาดแผลในทรงจำและทรงจำที่สำแดง (Trauma, Memory, Performance)" ไดอานา เทย์เลอร์ เขียน อธิชา แก้วสุขสมบัติ แปล จำนวน 24 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 4 ว่าด้วยเรื่องของ "ทัศนาวิลล่า กริมัลดี: บาดแผลในทรงจำและทรงจำที่สำแดง" เนื้อหาของเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของวิลล่า กรีมัลดี อดีตค่ากักกันในประเทศชิลีที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ "ปิโนเชต์" ผู้นำเผด็จการที่ทำการรัฐประหารในชิลีและจับเอาคนเห็นต่างเข้าค่ายกักกันเพื่อซ้อมทรมานและทำให้เสียชีวิต ในงานชิ้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของการซ้อนทับกันของความทรงจำและเรื่องราวของสถานที่ผ่านกลไกของ "การบอกเล่า" ที่ตัวผู้เขียนเดินทางไปในสถานที่แห่งนี้ 2 ครั้งในช่วงเวลาที่ต่างกัน และรับฟังเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้จากต่างวิธีการกัน โดยครั้งหนึ่งฟังจากไกด์ท้องถิ่นที่เป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ซ้อมทรมานและถูกจับอยู่ในค่ายแห่งนั้นที่รอดชีวิตมาได้ในท้ายที่สุด และอีกครั้งคือการกลับไปเมื่อสถานที่แห่งนี้ได้รับการจัดการโดยรัฐเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญทางประวัติศาตร์ ซึ่งวิธีในการนำเสนอเรื่องราวของสถานที่แตกต่างจากการมาครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง น่าสนใจว่าใน 2 ครั้ง ณ สถานที่เดียวกันแต่ "ความทรงจำและทรงจำที่สำแดง" นั้นล่างแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ
ขบและข่วนหมายเลข 5 เรื่อง "เสรีนิยมจำอวด (Spectacular Liberalism)" โฮ รุย อัน เขียน พีรวัฒน์ นาวีเจริญ แปล จำนวน 45 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 5 ว่าด้วยเรื่องของ "แนวคิดเสรีนิยม" ที่ถูกหยิบมาบิดให้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการสร้างชาติและความมั่นคงให้กับผู้นำทางการเมือง โดยเฉพาะผู้นำทางการเมืองของประเทศสิงคโปร์ ที่อาศัยการสร้างความชอบธรรมจากกลไกของสิ่งที่ระบอบการเมืองเรียกกันว่า "หนทางของเสรีนิยม" แต่อาจจะต้องเรียกว่าเสรีนิยมแปลงรูปอาศัยกลไกของความเป็น "ประชาธิปไตย" มาสร้างความชอบธรรมให้กับสนามการเมืองของผู้นำประชาธิปไตยแปลงรูปเหล่านี้
หนังสือ "ขบและข่วน" ทั้ง 5 เล่ม นำเสนอมุมมองแนวคิดที่หลากหลายของทั้งนักวิจารณ์ นักวิชาการ ที่บอกเล่ามุมมองต่อทั้งเรื่องของเทคโนโลยี ศิลปะ การเมืองและความทรงจำ งานเขียนทั้ง 5 เล่มนำเสนอมุมมองที่หลากหลายซึ่งสร้างบทสนทนาทางวิชาการที่มีพลวัตรเพื่อให้ความรู้เหล่านี้มีพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นให้กับผู้อ่าน
หนังสือ : ขบและข่วน
ขบและข่วนหมายเลข 1 เรื่อง "ระบบกริด (Grids)" และ "วิดีโอ: สุนทรียศาสตร์แห่งการหลงรูปตัวเอง (Video: The Aesthetics of Narcissism)" รอสลินด์ อี เคราส์ เขียน นนทชัย สักการโกศล แปล จำนวน 51 หน้า บทความในขบและข่วนหมายเลข 1 นี้ว่าด้วยเรื่องของ "ระบบกริด" กับการทำงานต่อการรับรู้ของผู้คนและวงการที่นำเอาระบบกริดเข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญของการขับเคลื่อนการดำเนินงานในวงดังกล่าว ซึ่งระบบกริดนี้เองทรงพลังมากกว่าที่เราคาดคิดและมีคยามสำคัญต่อการขับเคลื่อนวงการเหล่านั้นโดยที่หลายครั้งคนใช้มันก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป และบทความอีกชิ้นอย่าง "วิดีโอ: สุนทรียศาสตร์แห่งการหลงรูปตัวเอง" ว่าด้วยเรื่องของการนำเสนอภาพแทนสรรพสิ่งผ่าน "วีดีโอ" โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้วีดีโอผ่านมุมมองในเรื่องของสุนทรียศาสตร์ ที่เป็นที่น่าแปลกใจว่าเราสามารถมองมุมมองของการใช่งานดังกล่าวในฐานะของการสร้างความลุ่มหลงในรูปลักษณ์ของตัวเองได้ โดยเฉพาะเมื่อเราลองเทียบดูกับปัจจุบันเราจะสามารถเห็นภาพของแนวคิดดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้นโดยที่ในปัจจุบันมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่วีดีโอเท่านั้น
ขบและข่วนหมายเลข 2 เรื่อง "แถลงการณ์เพื่อต้านทานการลดทอน: การออกแบบอนาคตอันซับซ้อนของเราด้วยเครื่องจักร (Resisting Reduction: A Manifesto, Designing our Complex Future with Machines)" โจอิชิ อิโตะ เขียน การัณยภาส ภู่ยงยุทธ์ แปล จำนวน 19 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 2 ว่าด้วยเรื่องของ "แถลงการณ์เพื่อต้านทานการลดทอน: การออกแบบอนาคตอันซับซ้อนของเราด้วยเครื่องจักร" ความหลากหลายของสรรพสิ่งที่ถูกลดทองลงจนเหลือเพียงเป้าหมายหนึ่งเดียว และการลดทอนให้เหลือเพียงหนึ่งเดียวของสังคมทุนนิยมนั้นก็ดูจะเป็นการขัดขวางการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งปัญหาเหล่านั้นมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นในทุกวัน เพียงแต่แนวทางของการขับเคลื่อนสังคมดูจะอยู่ในฝากที่ตรงข้ามกับการจัดการความซับซ้อนของปัญหา ด้วยการลดทอนวิธีการให้เหลือเพียงเป้าเดียวแน่นอนว่ามันคงไม่มีทางแก้ปัญหาที่หลากหลายซ้บซ้อนได้หากมุ่งเน้นแค่เพียงการลดทอนแนวทางการหาทางออกและการดำเนินการต่าง ๆ ลง
ขบและข่วนหมายเลข 3 เรื่อง "หูดับ: ปอดจับฝุ่นหินในเหมืองกินคน (The Miner’s Ear)" รอสลินด์ ซี มอร์ริส เขียน พีรวัฒน์ นาวีเจริญ แปล จำนวน 44 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 3 ว่าด้วยเรื่องของ "หูดับ: ปอดจับฝุ่นหินในเหมืองกินคน" ที่บอกเล่าเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมระหว่างชนชั้นของคนผิวสี ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเรื่องเล่าของคนทำเหมือง ที่สอดแทรกภาพของผลกระทบที่เกิดขึ้นหลัก ๆ จากการทำเหมือนทั้งโรคภัยและหายนะภัยที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างทำงานที่ฆ่าชีวิตคนงานเหมืองผิวสีไปมากมาย อีกทั้งความตายของเหล่าคนงานผิวสีก็ดูจะไม่ได้รับความสนใจ หรือให้ความสำคัญจากเหล่าคนขาวเท่าไหร่นัก งานชิ้นนี้มุ่งสะท้อนภาพของโรคภัย หายนะ ความตาย ผ่านความแตกต่างระหว่างคนสองกลุ่มเป็นสำคัญ
ขบและข่วนหมายเลข 4 เรื่อง "ทัศนาวิลล่า กริมัลดี: บาดแผลในทรงจำและทรงจำที่สำแดง (Trauma, Memory, Performance)" ไดอานา เทย์เลอร์ เขียน อธิชา แก้วสุขสมบัติ แปล จำนวน 24 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 4 ว่าด้วยเรื่องของ "ทัศนาวิลล่า กริมัลดี: บาดแผลในทรงจำและทรงจำที่สำแดง" เนื้อหาของเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของวิลล่า กรีมัลดี อดีตค่ากักกันในประเทศชิลีที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ "ปิโนเชต์" ผู้นำเผด็จการที่ทำการรัฐประหารในชิลีและจับเอาคนเห็นต่างเข้าค่ายกักกันเพื่อซ้อมทรมานและทำให้เสียชีวิต ในงานชิ้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของการซ้อนทับกันของความทรงจำและเรื่องราวของสถานที่ผ่านกลไกของ "การบอกเล่า" ที่ตัวผู้เขียนเดินทางไปในสถานที่แห่งนี้ 2 ครั้งในช่วงเวลาที่ต่างกัน และรับฟังเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้จากต่างวิธีการกัน โดยครั้งหนึ่งฟังจากไกด์ท้องถิ่นที่เป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ซ้อมทรมานและถูกจับอยู่ในค่ายแห่งนั้นที่รอดชีวิตมาได้ในท้ายที่สุด และอีกครั้งคือการกลับไปเมื่อสถานที่แห่งนี้ได้รับการจัดการโดยรัฐเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญทางประวัติศาตร์ ซึ่งวิธีในการนำเสนอเรื่องราวของสถานที่แตกต่างจากการมาครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง น่าสนใจว่าใน 2 ครั้ง ณ สถานที่เดียวกันแต่ "ความทรงจำและทรงจำที่สำแดง" นั้นล่างแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ
ขบและข่วนหมายเลข 5 เรื่อง "เสรีนิยมจำอวด (Spectacular Liberalism)" โฮ รุย อัน เขียน พีรวัฒน์ นาวีเจริญ แปล จำนวน 45 หน้า ขบและข่วนหมายเลข 5 ว่าด้วยเรื่องของ "แนวคิดเสรีนิยม" ที่ถูกหยิบมาบิดให้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการสร้างชาติและความมั่นคงให้กับผู้นำทางการเมือง โดยเฉพาะผู้นำทางการเมืองของประเทศสิงคโปร์ ที่อาศัยการสร้างความชอบธรรมจากกลไกของสิ่งที่ระบอบการเมืองเรียกกันว่า "หนทางของเสรีนิยม" แต่อาจจะต้องเรียกว่าเสรีนิยมแปลงรูปอาศัยกลไกของความเป็น "ประชาธิปไตย" มาสร้างความชอบธรรมให้กับสนามการเมืองของผู้นำประชาธิปไตยแปลงรูปเหล่านี้ 
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in