เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง By Mark Manson
  • รีวิวเว้ย (851) ใครสักคนเคยบอกไว้ว่าทุกวันนี้มนุษย์เราขับเคลื่อนชีวิตด้วยการ "แคร์" สายตา คำพูด ของคนอื่นมากจนเกินไป หลายครั้งมันมากเสียจนสร้างปัญหาให้กับตัวเราในเกือบทุกด้าน และส่งผลให้สิ่งกระทบใจเหล่านั้นกลายมาเป็น "โรคซึมเศร้า" ที่หลายครั้งมันเกิดขึ้นมาจากการแบกรับความหวังดี ความหวังร้าย และความห่วงใยของบุคคลอื่นต่อตัวเรา แต่นั้นก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดถึงต้นสายปลายเหตุของโรคซึมเศร้า หากแต่ในระหว่างทางการแคร์คนอื่นมากจนเกินไป ยังสร้างปัญหาต่าง ๆ ให้ตัวเรามากกว่าที่คิด ทั้งเรื่องของสิ่งที่ใช้ การแต่งตัว คำพูด การกระทำ กระทั่งหน้าที่การงาน อาการแคร์คนหรือคิดว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไรจึงกลายเป็นกลไกในการขับเคลื่อนชีวิตของเราให้เป็นไปในทิศทางและค่านิยมของสังคม ในท้ายที่สุดแล้วหากเราออกจากวงจรเหล่านี้ไม่ได้ มันจะกลายเป็นสภาวะของการแตกสลายและกลายไปเป็นโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นจากความห่วงใยและสายตาของความหวังดี
    หนังสือ : ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง
    โดย : Mark Manson
    จำนวน : 234 หน้า
    ราคา : 240 บาท

    "ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง" ตอนที่จัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้ เราก็จำได้ไม่ดีนักว่าเห็นหรือได้ยินมาจากไหนว่า "หนังสือเล่มนี้ดีนะ" แต่ด้วนความเป็นคนที่ไม่ถนัดในการอ่านหนังสือแนวนี้สักเท่าไหร่ เลยปล่อยให้เวลามันทอดยาวกระทั่งหนังสือของนักเขียนคนนี้มีออกมาอีกเล่มหนึ่ง และช่วงหลังมานี้เห็นหลายคนพูดถึง "ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง" เลยลองหามาอ่านดู และหลังจากที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบลง เราพบว่ามันน่าสนใจกับการ "มองโลกในมุมแบบนี้"

    อาจจะเรียกง่าย ๆ ว่า "ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง" กำลังบอกกับเราว่า "อย่าแคร์สายตาคนอื่น อย่าแคร์คำพูดคนอื่น และอย่าทำตามอย่างที่คนอื่นทำหรืออยากให้เราทำ" เพราะความคาดหวัง ค่านิยม และมาตรฐานต่าง ๆ ของสังคมและคนรอบตัวอยากให้เราทำ เราเป็น อาจจะด้วยความรัก ความหวังดี หรือความเสือกของพวกเจาก็ตามที หากเราเอาแต่ทำตาม หรือปรับตัวให้เข้ากับความคาดหวังของคนอื่นมาจนเกินไป ในท้ายที่สุดแล้วชีวิตเราอาจจะ เหี้ย เละ แตกยับ ระยำเยิน

    "ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง" ตบหัวเราแรง ๆ แล้วตะโกนใส่หน้าเราว่า "มึงใจเย็น ๆๆๆๆ มึงไม่ได้สำคัญกับโลกขนาดนั้น" และเมื่อเราไม่ได้สำคัญกับโลกขนาดนั้น สิ่งที่เราพึงทำคือการ "ทำเพื่อตัวเอง" แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ออกไปสร้างความเดือดร้อน รำคาญ และความฉิบหายให้คนอื่น แต่ "ชีวิตติดปีกด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง" บอกเราว่า "มึงกลับมามองตัวเองก่อนไหม" เพราะบทสุดท้ายของหนังสือบอกเราว่า "ชีวิตมึงไม่ได้ยาวพอให้มึงสนใจหรือทำตามสิ่งที่คนอื่นคาดหวัง" และ "อย่ากลัวที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเอง"

    ดังข้อความที่ปรากฎในหน้า 233 ว่า "เราทุกคนถูกความกลัวบีบบังคับให้แคร์กับบางสิ่งบางอย่างมากจนเกินไป เพราะการแคร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะดึงความสนใจของเราออกมาจาก 'ความตาย' ที่หลีกหนีไม่พ้น การที่คุณเลิกสนใจทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างแท้จริง ก็คือการที่คุณเข้าใจชีวิตว่า 'ทุกสิ่งมันไม่ยั่งยืน'" ข้อความท่อนนี้มันทำให้เราย้อนกลับไปคิดถึงเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่จากไปก่อนวัยอันควร และมันก็ย้ำเตือนเราว่า "ชีวิตมึงไม่ได้ยืนพอให้แคร์คนอื่น จนไม่เป็นตัวเอง" ดังนั้น "ช่างแม่ง" บ้างก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะในท้ายที่สุดแล้ว "มึงก็ไม่ได้สำคัญกับโลกขนาดนั้น" อย่าเพ้อ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in