รีวิวเว้ย (553) "แมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก" คำพูดเล่น ๆ ที่ใครหลายคนชอบพูดถึงในต่างกรรมต่างวาระ แต่เอาเข้าจริงแล้วแมวอาจจะเป็นสัตว์ที่คิดจะ "ครองโลก" จริง ๆ ตามนิยามของการยึดครองจริง ๆ ก็ได้ เพราะถ้าเราบอกกับใครหลาย ๆ คนว่าแมวนั้นในทางชีวะวิทยามันอาจจะถูกนับเป็นสายพันธุ์ "ผู้รุกราน" ที่แพร่กระจายตัวเองออกไปทั่วโลกตั้งแต่ครั้งโบราณกระทั่งกลายเป็นว่าใคร ๆ ก็เข้าใจว่าบนโลกนี้ในทุก ๆ ที่มีแมวเป็นชนิดพันธุ์ดั้งเดิมประจำถิ่น ซึ่งจริง ๆ แล้วการคิดแบบนั้นอาจจะเรียกได้ว่าผิดไปถนัดตา เพราะถ้านับกันจริง ๆ แมวเป็นหนึ่งในชนิดพันธุ์รุกรานที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิตหลายชนิดบนโลกใบนี้ แมวเองน่าจะสิ่งมีชีวิตนักล่าที่ก่อให้เกิดการสูญพันธุ์ได้พอ ๆ กันกับการกระทำของมนุษย์ ในโลกทุกวันนี้มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กหลายล้านล้านตัวถูกแมวฆ่าในแต่ละปี และการฆ่าของแมวเหล่านั้รหลายครั้งไม่ได้เกิดขึ้นจากการฆ่าเพื่อล่ามาเป็นอาหาร หากแต่เกิดจากการฆ่าเพราะ DNA ของสัตว์นักล่ามันสั่งให้ฆ่า ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องฆ่าเพื่อเอามากินด้วยซ้ำไป เราเองในฐานะของคนชอบ "หมา" โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไรกับแมวเท่าไหร่ อาจจะไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียด แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้จบลง เราอาจจะมีสายตาที่มองแมวเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งก็ยังไม่ใช่เกลียดแต่แค่รู้สึกว่า "แมว" กับ "มนุษย์" น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตสองชนิดที่สร้างผลกระทบให้กับโลกทั้งใบได้พอ ๆ กัน

หนังสือ : ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว

โดย : Abigail Tucker แปล โตมร ศุขปรีชา

จำนวน : 304 หน้า

ราคา : 330 บาท

"ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว" บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแมวในมิติของความเป็นมาและวิวัฒนาการจากกระบวนการของการเปลี่ยนแมวป่าให้เป็นแมวบ้าน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นจากความสมัครใจของแมวป่ากลุ่มแรก ๆ ที่ผันตัวเองเข้ามาอยู่ร่วมในชุมชมของมนุษย์ด้วยตัวเอง โดยการอาศัยการหาอาหารจากแหล่งชุมชน ที่มักจะมีอาหารเหลือ ๆ ให้กับแมวป่าได้กินโดยที่อาจจะไม่ต้องออกแรงในการล่าให้เหนื่อยชีวิต แต่แมวก็ยังคงออกล่าเพื่อทำตามสัญชาตญาณที่ถูกตั้งโปรแกรมมาโดยธรรมชาติในฐานะของนักล่าที่อยู่ในจุดสูงสุดเมื่อเทียบกับสัตว์ในสายเดียวกัน 

"ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว" นอกจากบอกเล่าถึงเรื่องที่มาที่ไปของแมวแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าเรื่องของแมวในแทบทุกมิติทั้งเรื่องของผลกระทบของแมวที่เกิดขึ้นจากการกลายเป็นสายพันธุ์รุกรานในฐายะแมวจร ที่ก่อให้เกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและนกหลายชนิดในหลายพื้นที่ของโลกใบนี้ 

รวมไปถึง "ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว" ยังได้บอกเล่าเรื่องราวของโรคที่เกิดจากแมว ที่สามารถแพร่กระจายมาสู่คนผ่านขี้แมว และยังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของงานศึกษาเรื่องของโรคดังกล่าว ออกไปสู่การเกิดโรคอื่น ๆ ที่ส่งผลและแาจจะส่งผลโดยตรงต่อมนุษย์ 

อีกทั้ง "ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว" ยังได้แสดงให้เห็นถึงพลวัตรของอถสาหกรรมแมว และการเปลี่ยนแปลงของแมวจากสัตว์ที่ก่อนส่งครามโลกแทบจะไม่เป็นที่ต้องการของคนในวงกว้าง แต่ในทุกวันนี้แมวขยับเข้ามาอยู่ใยแถวหน้าของกลุ่มสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนทั้งโลก แต่ปัญหาที่สำคัญกว่านั้นคือภายใต้ดวงตากลมโตและนิสัยที่ยากจะคาดเดา แมวยังเก็บซอนความลับอะไรเอาไง้อีกหลายอย่างทั้งอาการแปลก ๆ ของแมวที่แสดงออกมา โรคภัยต่าง ๆ ที่อาจจะมีแมวเป็นพาหะ หรือแม้กระทั่งการสูญพันธุ์ของสัตว์อีกหลายสายพันธุ์อันอาจเกิดขึ้นจากการกระทำของแมว 

เราเองในฐานะของผู้อ่าน ที่เฉย ๆ กับแมว หลังจากที่อ่าน "ใครคือเจ้าของบ้านฉันหรือแมว" จบลง ความรู้สึกที่เรามีต่อแมว มันเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร น่าสนใจว่าหสกผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้เป็น "คนรักแมว" พวกเขาจะมีสายตาต่อการมองแมวเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร อาจจะไม่เกินไปหากจะกล่าวซ้ำคำพูดที่ว่า "แมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก" ซึ่งอาจจะเพิ่มคำเข้าไปอีกนิดนึงว่า "และแมวก็สัตว์ที่คิดจะฆ่าล้างโลก" เช่นกันเมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตขนาดเท่ากันหรือเล็กกว่าสักเล็กน้อย