หนังสือ : เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist
โดย : ฐนพงศ์ ลือขจรชัย
จำนวน : 288 หน้า
ราคา : 260 บาท

แต่พอเราโตขึ้น เรียนหนังสือที่นอกกรอบของกระทรวงศึกษามากขึ้น ทำให้เราได้เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างชาติผ่านระบบ "การศึกษา" ที่ในยุคสมัยนั้นตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทยและตำราเรียนสังคมศึกษา ถูกจัดระบบความคิดตามที่ผู้มีอำนาจในรัฐต้องการให้เยาวชนของตนรู้เพียงเท่านั้น อย่างการเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นมาจากการที่พระเจ้าแผ่นดินช่วงเวลานั้นอ่อนแอ และโจมตีว่าพระเจ้าแผ่นดินของราชวงศ์ดังกล่าวแย่งชิงเอาความชอบธรรมมาและบริหารไม่ดี บุญไม่ถึงทำให้เราต้องเสียกรุงศรีฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งเมื่อโตขึ้นมาเรากลับพบว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายชิ้นไม่ได้บ่งบอกไปในทิศทางทีตำราสังคมศึกษาบอกเลยแม้แต่น้อย อาจจะเรียกได้ว่าแบบเรียนในช่วงเวลานั้นเป็นผลพวงจากแบบเรียนไทยในยุค "สร้างชาติ" โดยมุ่งเน้นการสร้างความเป็น "ชาตินิยม" ในตัวผู้เรียน และเหตุการณ์การเสียดินแดนก็เป็นหนึ่งในกลไกหลักที่ถูกนำมาใส่เอาไว้ในแบบเรียน

"เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist" เป็นหนังสือที่พัฒนามาจากวิทยานิพนธ์ที่มุ่งศึกษาในเรื่องของการเสียดินแดนมลายูของสยามให้กับอังกฤษ ว่าแท้จริงแล้วเรา (1) เสียดินแดนจริง ๆ หรือ และ (2) ดินแดนตรงแถบนั้นเป็นของเราจริง ๆ หรอวะ ซึ่งในท้ายที่สุดงายชิ้นนี้พาเราไปแสวงหาคำตอบว่าแท้จริงแล้วประวัติศาสตร์ของการเสียดินแดน (มลายู) นั้นอาจจะไม่เป็นจริงตามที่เราถูกปลูกฝังสั่งสอนมาก็เป็นได้

โดย "เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist" ได้ฉายให้เห็นภาพของการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างสยามและอังกฤษโดยมีดินแดนมลายูเป็นตัวแลกเปลี่ยนสำคัญกับสิ่งที่สยามพึงได้และอยากจะได้จากอังกฤษ ซึ่งนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้วการเสียดินแดนมลายูของสยามนั้นอาจจะเป็นเพียงการปกปิดความจริงบางประการของสยามในช่วงเวลานั้น และอาจจะเป็ยการปกปิดความจริงเพื่อสร้างความชอบธรรมมาถึงในแบบเรียนในยุคสมัยที่พงกเราเป็นเด็ก (หรือไม่เช่นนั้นก็คนทำแบบเรียนไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และเชื่ออย่างฝังใจว่าเราเสียดินแดนไปจริง ๆ เพื่อปกป้องเอกราชของชาติสยาม)

เอาเป็นว่า "เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist" จะช่วยให้เราเข้าใจบริบทของการเสียดินแดนของสยามโดยเฉพาะดินแดนมลายูที่สยามเสีย (รึเปล่าหนอ) ให้กับอังกฤษ ว่าบางครั้งบางทีสิ่งที่ตาเห็น หูฟัง อาจจะไม่เป็นเรื่องจริงเสมอไปก็เป็นได้ เหมือนคะแนนเลือกตั้งที่ทุกวันนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าตัวเลขไหนกันแน่ที่เป็นของจริง