รีวิวเว้ย (347) เรายังจำหนังเกี่ยวกับอวกาศเรื่องแรก ๆ ที่เคยดูกันได้รึเปล่า (?) สำหรับเราเองถ้าขุดความทรงจำลงไปและควานเอาความทรงจำเกี่ยวกับหนังอวกาศเรื่องแรก ๆ ที่อยู่ในคสามทรงจำคงจะหนีไม่พ้นหนังเรื่อง ID4 สงครามวันดับโลก (Independence Day) หนังปี 1996 ซึ่งตอนที่ดูหนังเรื่องนี้นั้นเราจำได้ว่าเราไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนังกับพ่อ ซึ่งตอนนั้นเราเพิ่งอายุ 3 ขวบ แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังที่เราจำได้ไม่มีวันลืมนับตั้งแต่ตอนนั้น อาจจะด้วยความที่ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวบุกโลก และมียานรบต่างดาวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ยังผลให้หนังปี 1996 ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเด็กที่เกิดปี 1993 กระทั่งทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมาก ๆ ในหนังเรื่องนี้ นอกจากมนุษย์ต่างดาว สงครามและลุงขับเครื่องบินพ่นยาที่ขับเครื่องบินเข้าไประเบิดยานต่างดาวตอนท้ายเรื่อง พอมานั่งนึกดูดี ๆ จะพบว่าหนังเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะสร้างความทรงจำระยะยาวได้ขนาดนั้น กระทั่งมาคิดออกเมื่อได้อ่าน "เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร" ทำให้เราพอจะเห็นเค้ารางของความทรงจำว่ามันน่าจะผูกโยงอยู่กับ "มนุษย์อวกาศ" ที่ในอดีต (และอาจจะยังมีในปัจจุบัน) ที่ความฝันของเด็กหลาย ๆ คน คือ เมื่อโตขึ้นแล้วทุกคนอยากเป็นมนุษย์อวกาศ ซึ่งพอโตขึ้นจริง ๆ และเข้ามาเรียนในสายเกี่ยวกับเรื่องราวของการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศด้วยแล้ว เราได้รับรู้ความจริงอีกชุดหนึ่งว่าแท้จริงแล้วโครงการอวกาศ คือ การแข่งขันกันแสดงแสนยานุภาพของเหล่ามหาอำนาจโลก ณ ช่วงเวลานั้น ว่าใครแน่กว่าใคร
หนังสือ : เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร
โดย : Mary Roach แปล สฤณี อาชวานันทกุล
จำนวน : 344 หน้า
ราคา : 380 บาท
"เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร" หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ อวกาศ โครงการ ยาน กิจกรรม แรงลอยตัว อุบัติเหตุ ความฉิบหาย อาหารและขี้ คือ เรื่องราวต่าง ๆ ที่ถูกเขียนขึ้นในรูปของสารคดีเกี่ยวกับอวกาศ ที่ถ่ายทอดตั้งแต่กระบวนการของการคัดเลือกนักบินอวกาศ การปรับตัวและการฝึกฝนในสถาวะที่เรียกว่าแรงโร้มถ่างเป็นศูนย์ ซึ่งฝึกโดยการใช้เครื่องบินบินแบบพาราโบลาในชั้นบรรยากาศโลก ที่นอกจากจะได้สภาวะแรงลอยตัวเป็นศูนย์แล้ว หลายเที่ยวบินมัยได้แรงลอยตัวของเศษอาหารและน้ำย่อยจากกระเพาะ ในสภาวะแรงลอยตัวเป็นศูนย์ด้วยเช่นกัน
โครงการอวกาศที่หลายครั้งเราเห็นว่าในสวยหรู พร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่นำสมัยและเหล่าบุคลากรที่ทรงความสามารถ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังของกิจการอวกาศแอบแฝงไปด้วยเรื่องราวชวนเหวอ หลายครั้งมันก็ชวนให้แหวะ ทั้งเรื่องของการผลิตอาหารสำหรับมนุษย์อวกาศ การอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่บนสถานีอวกาศ หรือบนยานอวกาศ รวมไปถึงขั้นตอนและความลำบากในการขี้ในสภาวะแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ แถมยังมีเรื่องที่คาดไม่ถึงอีกมากมายที่ต้องอยู่ในการวางแผนและคิดคำนวนจากเหล่าอัจฉริยะต่าง ๆ ที่หลายครั้งมันก็ชวนให้รู้สึกตลกสิ้นดี
อย่างกรณีที่เคยมีเรื่องเล่าขำ ๆ ว่านาซ่าเคยให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ออกแบบปากกาที่สามารถเขียนในสภาวะแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ได้ โดยที่นาซ่าหใดเงินไปหลายพันเหรียญกับการพัฒนาปากกาดังกล่าว แต่หน่วยงานอวกาศรัสเซียกลับแก่ปัญหาด้วยการใช้ดินสอไม้แทน ซึ่งถ้าเราพิจารณาเรื่องขำ ๆ เรื่องนี้เรามักจะคิดว่า "บ้าตลกแล้วใครจะเชื่ว่ามันจริงวะ" แต่ "เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร" กำลังจะบอกเราว่าหลายครั้งเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในโครงการอวกาศของหลาย ๆ ประเทศจริง ๆ อย่างกรณีของการคัดเลือกนักบนอวกาศด้วยการพับนกกระดาษ หรือแม้กระทั่งการคิดว่าวิธีขี้ในสภาวะศูนย์ยากาศ โดยที่เรื่องไม่คาดคิดเหล่านี้ถูกบอกเล่าเอาไว้อย่างสนุกสนานใน "เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร"
และเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว เราตะพบว่าคำพูดที่บอกว่า "อาชีพทุกอาชีพล้วนมีความเหี้ยในตัวของมันเอง" คำพูดคำนี้นั้น "เป็นจริง" แม้กระทั่งกับอาชีพนักบินอวกาศ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in