รีวิวเว้ย (325) "ไม่หรอก...หมดรักมันก็ยังมีความผูกพัน ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ทนอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็น่าจะเป็นความรู้สึกผิดหรือการที่ต้องอยู่ด้วยกันไปแล้วต่างฝ่ายต่างต้องเจ็บปวด" (น.170) ข้อความตอนหนึ่งจากหนังสือเล่มนี้ และเป็นข้อความที่ถูกนำมาเป็นคำโปรยปกหลังของหนังสือ เวลาที่บอกใครต่อใครว่านักเขียนในดวงใจของเรา คือ คนแบบ องอาจ ชัยชาญชีพ, วิชัย มาตกุล, คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง หลายคนมักจะสั่นหัวและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใครวะ" (?) โดยเฉพาะกับคนในวงวิชาการ ที่เราเองมีโอกาสเวียนว่ายอยู่ในวงการนี้มานานพอสมควร ซึ่งหลังจากที่เราพูดชื่อของนักเขียนเหล่านี้จบ หลายคนมักจะตามมาด้วยคำถามที่ว่า "หนังสือของคนพวกนี้อ่านแล้วได้อะไร" (?) บางถามเพื่อคาดหวังคำตอบ บางถามเพราะไม่รู้จะชวนคุยอะไรต่อ เนื่องจากเราอ่านหนังสือที่หลายคนในวงวิชาการก็ไม่รู้ว่าจะต่อยอดบทสนทนาจากหนังสือที่เราอ่านได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ยังทำให้เราอ่านหนังสือของนักเขียนที่ชอบมาจนถึงทุกวันนี้ คือ ข้อความที่บอกว่า "หนังสือต่อให้อ่านประเภทไหน มันก็ล้วนมีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าประโยชน์นั้นเป็นประโยชน์ของใคร" ดังนั้นแล้วถ้าใครชอบอ่านหนังสือแนวไหน ของนักเขียนคนใด ก็จงอ่านต่อไปและเมื่อมีใครมาถามว่า "อ่านแล้วได้อะไร" (?) แบบถามดี ๆ ก็จงตอบเข้าไปตามข้อความด้านบนว่า "มันก็มีประโยชน์ของมัน" แต่ถ้าคนถามถามแบบกวนตีนก็จงตอบเขาไปว่า "เสือก" !!! 

หนังสือ : ให้โลกถล่มลงมา 1

โดย : องอาจ ชัยชาญชีพ

จำนวน : 233 หน้า

ราคา : 215 บาท 

"ให้โลกถล่มลงมา 1" เป็นหนังสือลำดับที่เท่าไหร่ของพี่โตโต้ก็ไม่รู้ และก็เป็นเล่มที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้อีกเช่นกันที่เราต้องซื้อมาอ่านทุกครั้งที่มีหนังสือออกใหม่ ถ้าย้อนกลับไปหาคำตอบว่าเริ่มอ่านหนังสือของพี่โตโต้เมื่อไหร่ ภาพจำของคำตอบมันดูไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ความรู้สึกของการเปิดอ่านหนังสือของพี่โตโต้ทุกครั้ง มันยังคงให้ภาพของความไม่คาดคิด และหลายครั้งมันช่วยให้เราเข้าใจและเห็นภาพของโลกและความเป็นไปของโลกชัดเจนขึ้น ทั้ง ๆ ที่หนังสือของพี่โตโต้ จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ผู้ใหญ่และใครอีกหลายคนมักมองมันว่า "ไร้สาระ" เพียงเพราะว่ามันเป็น "หนังสือการ์ตูน" 

"ให้โลกถล่มลงมา 1" เป็นหนังสือ "การ์ตูน" (ตามนิยามของสังคม) อีกเล่มหนึ่งที่ให้ความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างที่อ่าน และช่วยสร้างภาพของการทบทวนตัวเองให้เราได้ตั้งคำถามกับชีวิตว่า "เชี่ยถ้าเป็นกูกูจะเป็นยังไงวะเนี่ย" หนังสือเล่มนี้ ยังฉายถาพของความเปลี่ยนแปลงของตัวละครในเรื่อง ที่วันหนึ่งชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล ประหนึ่งการถล่มลงมาของโลกทั้งใบ 

หลายคนอาจจะเคยผ่านเหตุการณ์โลกทั้งใบของตัวเองถล่มลงมาแล้วอย่างน้อย ๆ ก็คนละสัก 1 ครั้งในชีวิต คำถามคือเมื่อโลกถล่มเราจะ "รับมือ" หรือ "อยู่กับมัน" ได้อย่างไร หลายคนที่รับมือได้ตั้งแต่ต้นก็อาจจะเรียกได้ว่าโชคยังดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่เสียศูนย์กับการถล่มลงมาของโลกในครั้งนั้น และก็ยังมีอีกหลายคนที่ต้องยอมแพ้และจบชีวิตของตัวเองลงในวันที่โลกทั้งใบถล่มลงมาใส่

"ให้โลกถล่มลงมา 1" เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ช่วยให้เราเห็นภาพและทำความเข้าใจกับสภาวะโลกถล่ม และช่วยให้เราจำลองภาพว่าถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเราเราจะจัดการรับมือกับมันอย่างไร เพราะอย่างไรก็ตามแต่ สำหรับคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่วันใดก็วันหนึ่งวันที่ "โลกถล่ม" มันต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว ความสำคัญเมื่อวันนั้นมาถึง คือ เราจะเตรียม "รับมือ" หรือจะ "อยู่กับมัน" ได้อย่างไร อย่างน้อย ๆ ในหนังสือ (การ์ตูน) เล่มนี้ก็บอกกับเราว่า "จงยืนหยัดต่อไปในวันที่โลกถล่มลงมา"