เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (2)Chaitawat Marc Seephongsai
purr spective By Patikal Phakguy
  • รีวิวเว้ย (324) "แมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลก" เมื่อสัก 2-3 ปีก่อนเรามักจะได้ยินข้อความนี้ หรือได้เห็นข้อความนี้บ่อย ๆ ตามสื่ออนไลน์ หรือแม้กระทั่งสือกระแสหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโทรทัศน์ ทำมห้ช่วงเวลานั้นเพจแมว (รงมไปถึงสัตว์อื่น ๆ) ได้รับความนิยมและเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ช่วงเวลาดังกล่าวมาพร้อมกับกระแสของความนิยมแมว เพจอย่าง "ทูลหัวของบ่าว" กลายเป็นเพจที่ได้รับความนิยม ถูกแชร์และถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์และสือกระแสหลักอย่าล้นหลาม เมื่อเวลาผ่านไปกระแสดังกล่าวก็ค่อย ๆ หดหายไปกระทั่งกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งเพจหมา-แมว ล้วนกลายเป็นภาพอันชาชิ้นของชีวิตคนเมือง หลายคนที่หสแมว-หมา มาเลี้ยงจากการแสในช่วงเวลานั้น ทุกวันนี้คงยืนเกาหัวว่าจะเอาอย่างไรกับสัตว์เลี้ยงพวกนี้ดีวะ 


    กระทั่งเมื่อไม่นานนี้รัฐบาลได้มีความพยายามในการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนหมา-แมว โดยมีการคิดค่าลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ที่ราคาเฉลี่ย 450 บาท/ตัว ทำให้กระแสสังคมแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้การสนับสนุนการเก็บเงินและลงทะเบียน อีกฝ่ายหนึ่งเห็นแย้งว่าการเก็บเงินค่าลงทะเบียนยืนยันตัวตน อาจจะเป็นการสร้างภาระที่เกิดควรและส่งผลให้เจ้าของสัตย์เลี้ยงเหล่านั้นเบือกที่จะทอดทิ้งมันแทนที่จะพามันไปขึ้นทะเบียน จะกลับกลายเป็นว่าจะพามันไปเที่ยววัดซะอย่างงั้น

    หนังสือ : purr spective

    โดย : Patikal Phakguy

    จำนวน : 48 หน้า

    ราคา : 300 บาท 


    "purr spective memorandum based on random cat's stories" เป็นหนังสือที่เราเลือกหยิบมาอ่านในช่วงเวลานี้ ซึ่งมันดันตรงกันช่วงเวลาของการผลักดันกฎหมายการขึ้นทะเบียนสัตว์พอดี 


    "purr spective memorandum based on random cat's stories" ว่าด้วยเรื่องของชีวิตแมวที่มีทั้งแมวที่มีเจ้าของ และแมวที่อาศัยอยู่ตามข้างถนน โดยรูปแบบของการนำเสนอในหนังสือเล่มนี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการนำเสนอชีวิตของแมวในรูปแบบของ "บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวัต (personification) คือ การเปรียบเปรยสิ่งที่ไม่มีชีวิต พืช หรือสัตว์ ให้มีอาการอย่างมนุษย์ 


    และด้วยการนำเสนอในรูปแบบของการจำลองความเป็นคนให้กับแมวนี้เอง ช่วยให้เรื่องราวของแมวบ้าน-ข้างถนน กลายเป็นเรื่องที่น่าติดตามและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 


    ด้วยความยาวเพียง 48 หน้ากระดาษนี้เอง ทำให้เราสามารถเห็นภาพของความเป็นแมวในวันที่กระแส "แมวนิยมจางหายไป" เราจะพบว่าแมวแต่บะตัวนั้นมีชีวิตเยี่ยงสามัญยแมว และที่เด็กไปกว่านั้น คือ หนังสือเล่มนี้ยังเหลือหน้าว่างให้เราได้ถ่ายทอดถึงความสามัญแมวที่เราพบเจอได้อีกด้วย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in